เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เที่ยวกันFayathi Sorap
แนะนำที่เที่ยวแถวหนองจอกและสุวินทวงศ์

  •      สวัสดีค่ะ 

         เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นวันแม่แห่งชาติและเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ยายคนเขียนเลยถือโอกาสไปสำรวจที่เที่ยวไม่ไกลจากบ้าน จึงทำให้ลงบทความช้า แหะ

         วันนี้เลยจะมาเล่าถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ไปมาค่ะ ขอแนะนำสามที่ด้วยกัน 


         
         1. วัดประยงค์กิตติวนาราม

         ลองค้นกูเกิ้ลถึงสถานที่ท่องเที่ยวแถวบ้านตัวเอง เจอเข้ากับข้อมูลคร่าวๆของวัดนี้ ได้ทราบว่าเป็นวัดที่มีพญาครุฑองค์ใหญ่ และมีหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ด้วย จึงเกิดความสนใจ 

         วันเดินทาง เปิดกูเกิ้ลแมพแล้วขับไปตามถนน..น่าจะหนองจอกไปเรื่อยๆ ถนนกว้างพอควรค่ะ สังเกตเห็นว่าเส้นทางแถวนี้มีอิสลามิกชนอาศัยอยู่ไม่น้อย แต่เราเป็นคนไทยเหมือนกันอยู่ร่วมกันได้อยู่แล้ว อ่อ ของกินเยอะมากค่ะตามรายทาง โดยเฉพาะ ร้านกาแฟ 
         ขับตามทางไปเรื่อยๆค่ะ เลี้ยวตามที่แผนที่กูเกิ้ลบอกนั่นแหละ เราอาจจะรู้สึกว่า ไอ้กู(เกิ้ล)มันพาชั้นเข้าทางป่าทางเขาอีกแล้ว แต่วัดนี้ก็อยู่ในซอยลึกจริงๆนั่นแหละค่ะ 
         ขับตามซอยเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงสี่แยกๆหนึ่ง จะเจอเข้ากับสถานีตำรวจสักสถานีหนึ่ง มองเลยจากสถานีตำรวจไปจะเจอป้าย "วัดประยงค์กิตติวนาราม" นั่นล่ะค่ะถึงแล้ว เลี้ยวเข้าซอยข้างสถานีตำรวจไปเล้ย

         เลี้ยวเข้าไปไม่ไกลก็จะเจอกับกำแพงและประตูวัดเลยค่ะ สามารถจอดรถด้านนอกวัดหน้ากำแพงก็ได้ หรือจะนำรถเข้าไปจอดข้างในตัววัดก็ได้ ดูเหมือนวันที่ไปจะมีญาติโยมหลายคนเหมือนกัน แต่พวกเราไม่ได้เข้าไปชมตัวโบสถ์หรอกค่ะ เผอิญแม่ใส่กางเกงขาสั้นมาวันนั้น แล้วทางวัดกำหนดว่า กางเกงขาสั้นเป็นหนึ่งในเครื่องแต่งกายที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสักการะภายในวัด เราจึงขับรถวนรอบๆวัดและลงไปถ่ายรูปรอบๆวัดกันแทน
         วัดนี้มีพระองค์ใหญ่หลายองค์ค่ะ ที่เด่นเป็นสง่าหน้าวัดคือพญาครุฑ ถัดไปน่าจะเป็นพระพุทธมหากัสสปะพระพุทธเจ้า ส่วนหากเลี้ยวเข้าไปด้านซ้ายของวัดจะมี.. เอ้อ มีหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ค่ะ แต่ขณะนี้ทางเดินรอบๆหลวงพ่อนั้นอยู่ระหว่างปรับปรุง จึงไม่สามารถเดินเข้าไปกราบที่เบื้องหน้าท่านตรงๆได้ นอกจากนั้นก็มีพระองค์ใหญ่อีกหนึ่งองค์ จำชื่อท่านไม่ได้ แต่ชื่อท่านเกี่ยวกับความสมหวังหรือความสำเร็จอะไรสักอย่าง 
         ไม่ไกลจากหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่จะมีพระในอิริยาบถเดินธุดงค์อยู่องค์หนึ่ง ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นพระสีวลี แต่พอเห็นพระคาถาที่ตั้งอยู่ข้างองค์พระคือคาถาชินบัญชร แล้วเลยสงสัยว่า หรือจะเป็นรูปปั้นของสมเด็จพุทธาจารย์โต พรหมรังสี หรือเปล่านะ? 

         นอกจากพระองค์ใหญ่หลายองค์ จุดสังเกตหนึ่งของวัดนี้ คือ โบสถ์สีเทาค่ะ เราว่าแปลกตากว่าวัดทั่วๆไป ที่มักจะสร้างเป็นสีเหลืองทอง สีเทาก็สวยไปอีกแบบ

         อ่อ มีสถานที่ให้ปฏิบัติธรรมด้วยนะคะ วันที่ไปนี่มีงานบวชชีพราหมณ์ด้วยล่ะ 

         ใครเป็นสายบุญชอบเข้าวัด ลองมาเยี่ยมชมวัดนี้ได้ค่ะ อย่าลืมแต่งกายให้สุภาพ ไม่โป๊ ไม่เปิดเนื้อตัว และไม่นุ่งสั้น ด้วยนะคะ จะได้สามารถเข้าไปไหว้พระในโบสถ์ได้ค่ะ 



         2. ฮาราจูกุ ไทยแลนด์ 

         หลังจากเข้าวัดแล้ว มาเปลี่ยนบรรยากาศไปญี่ปุ่นบ้างนะคะ 

         จริงๆรู้จักที่นี่จากการกูเกิ้ลอีกน่ะแหละ แล้วเห็นว่า เอ้อ มีสถานที่ๆจัดเป็นธีมประเทศญี่ปุ่น ให้นักท่องเที่ยวได้ไปถ่ายรูปด้วย ก็เลยลองชวนที่บ้านไปเที่ยวดูค่ะ 

         ทางไปก็คือทางถนนสุวินทวงศ์ค่ะ เป็นทางเดียวกับเส้นทางไปจังหวัดฉะเชิงเทรา ขับรถไปเรื่อยๆจนถึงซอยสุวินทวงศ์ 110 หาไม่ยากค่ะ อยู่หน้าถนนเลย ถ้ายังไม่มั่นใจเส้นทางก็กูเกิ้ลแมพโลดค่ะ หาง่ายกว่าวัดประยงค์ฯเสียอีก 

         พอกลับรถเข้ามาในบริเวณของฮาราจูกุฯ จอดรถและเดินเข้ามายังจุดแสดงร้านรวงต่างๆก็จะพบกับรูปสัญลักษณ์ญี่ปุ่นมากมาย เช่น ต้นซากุระ(ปลอม) รถลากแบบญี่ปุ่น รูปภูเขาไฟฟูจิ ฯลฯ ซึ่งสายถ่ายรูปน่าจะถูกอกถูกใจค่ะ มีมุมให้เล่นกล้องเยอะเหมือนกัน ใครชอบให้แฟนถ่ายรูปหรือชอบถ่ายรูปแฟนให้สวยๆ ลองจูงมือกันไปเดินกระหนุงกระหนิงที่นี่ได้นะคะ 
         นอกจากโลเกชั่นจำลองความเป็นญี่ปุ่น ที่นี่ยังเป็นที่ช้อปปิ้งและรับประทานอาหารด้วยค่ะ มีร้านอาหาร ร้านของกินเล่น คาเฟ่ และร้านค้าอยู่บางส่วน(บางตึกก็ว่างๆอยู่) ที่ตลกคือมีกระทั่งร้านวาโก้มาเปิดร้านขายชุดชั้นใน ไม่รู้เหมือนกันว่า...เข้ากับธีมญี่ปุ่น..ได้ยังไง
         ร้านที่ดูดเงินที่สุดน่าจะเป็นร้านขายของญี่ปุ่นแบบจับฉ่าย มีทั้งขนม ของเล่น เครื่องดื่ม ของที่ระลึก และมีเครื่องรางของญี่ปุ่นแบบต่างๆจำหน่ายด้วยค่ะ ใครอยากได้เครื่องรางก็ลองมาเลือกดูจากที่นี่ได้ มีหลายแบบหลายสรรพคุณ ทั้งสุขภาพดี เดินทางปลอดภัย เรียนสำเร็จ หรือแม้กระทั่ง พบเนื้อคู่ แต่ไม่รู้เหมือนกันนะว่า พกเครื่องรางไว้กับตัวแล้วจะได้ตามนั้นจริงหรือเปล่า เหอๆ
         อ่อ ทำใจไว้ล่วงหน้าหน่อยนะคะ ของที่นี่ราคาไม่ถูกเลยค่ะ เห็นจะมีก็แต่ร้าน nobicha ที่น่าจะขายราคาถูกที่สุด(รึเปล่า? เพราะปกติ nobicha ขายชาราคา 19 บาท นิ) 

         แต่ก็เป็นที่เดินเล่นชิวๆได้ค่ะ อ่อ มีสวนสนุกขนาดย่อมกับตู้กาชาให้กดสุ่มตัวการ์ตูนด้วยนะคะ พาเด็กเล็กๆมาเล่นได้ค่ะ

         ใครชอบญี่ปุ่นก็ลองแวะมาได้ค่ะ



         3. ร้านขายของมือสองญี่ปุ่น 
     
         ร้านนี้ใช้เส้นทางเดียวกับฮาราจูกุไทยแลนด์เลยค่ะ เพียงแค่ว่า ถ้าเราจะไปฮาราจูกุฯ พอถึงซอยสุวินทวงศ์ 110 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วเนี่ย เราต้องกลับรถ แต่ร้านนี้คืออยู่เลยฮาราจูกุไปอีก เลยไปไกลเหมือนกัน จำไม่ได้ว่าไกลแค่ไหน เอาเป็นว่า ขับตามเส้นทางไปฉะเชิงเทราไปเรื่อยๆเลยค่ะ ระหว่างเดินทางก็สังเกตด้านซ้ายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอป้าย "ร้านมือสองญี่ปุ่น" นั่นแหละค่ะ จะถึงแล้ว เท่าที่จำได้ หน้าร้านจะมีร้านกาแฟอยู่นะคะ 

         ร้านมือสองร้านนี้จะคนละอารมณ์กับ Hard off ที่เคยเล่าถึงคราวก่อนค่ะ เพราะ Hard off จะขายของส่วนใหญ่โดยติดราคาให้สินค้าแต่ละชิ้น แต่ของที่นี่จะกองรวมๆกันแล้วคิดราคาเป็นกิโลกรัมค่ะ

         ข้อดีของร้านนี้คือ ไม่ต้องฝากกระเป๋า ส่วนข้อเสียคือ ของดูระเกะระกะ และ ไม่มีแอร์ ค่ะ 

         สิ่งที่มีเยอะมากในร้าน คือถ้วยโถโอชาม และ เฟอร์นิเจอร์มือสอง มีเป็นโกดังเลยค่ะ แต่ราคาไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าเทียบแล้วถูกหรือแพงกว่าที่อื่น เพราะไม่ได้อยากได้ทั้งสองอย่างนี้อยู่แล้ว 

         ตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้ของค่ะ พอเดินผ่านโซนตุ๊กตา เจอตุ๊กตาโปเกมอนอยู่สองตัว เอาไปถามราคา ได้ยินเขาบอกว่า "ตัวละ 250" เดินมาบ่นกับแม่ แม่เลยลองเดินไปถามให้อีกรอบ สรุปคือ คนขายบอกว่า "(กิ)โลละ 250" โอ๊ยเนาะ หูยายคนเขียนเนี่ย.. 
         สุดท้ายได้ตุ๊กตาโปเกมอนมาสี่ตัวค่ะ คิดราคาแล้วตกตัวละประมาณ 70 บาท ถือว่าแพงเหมือนกัน แต่น่าจะถูกกว่าไปซื้อจาก pokemon center ในญี่ปุ่น 
         อันที่จริง เราว่าถ้าคุ้ยเขี่ยดีๆ น่าจะเจอเยอะกว่านี้ด้วยแหละ ที่ได้ 4 ตัวนี่คือตัดออกไปสองตัวแล้วนะ(ตัวนึงซ้ำกับที่มีอยู่ อีกตัวเก่าไปหน่อย โอกาสหน้าเราค่อยเจอกันนะ น้องฟูชิหงิดาเนะ//ฮือ) 

         ถ้าใครชอบเดินร้านขายของมือสอง เป็นโอตาคุที่เก็บสะสมของจากการ์ตูนญี่ปุ่น หรือกำลังหาจานชามหรือเฟอร์นิเจอร์อยู่ ลองมาเดินๆดูที่ร้านนี้ก็ได้นะคะ

         ลองหาข้อมูลแล้ว เหมือนจะพบว่าร้านนี้ชื่อ โกดัง 32 ร้านมือสองญี่ปุ่น แต่ไม่ชัวร์นะ แต่มาตามทางที่บอกเนี่ย ถึงชัวร์ 



         จะว่าไป จริงๆแถวบ้านเราเนี่ยก็ไม่ค่อยจะมีอะไรให้เที่ยวเท่าไหร่เลยเนอะ แต่คนมันอยากเที่ยวอะ มันก็จะหาที่ให้ตัวเองไปจนได้ 
         วันหลังหาที่เที่ยวเจอเพิ่มจะมาเล่าเพิ่มอีกทีนะคะ 

         หากมีเวลาว่างเราชอบพาตัวเองไปยังสถานที่ๆไม่รู้จักบ้างเป็นครั้งคราว เพราะเราเชื่อว่าธรรมชาติคงไม่ได้สร้างขาสองข้างมาให้เรานั่งจับเจ่าอยู่กับบ้านอย่างเดียวเป็นแน่ 
         คุณผู้อ่านคิดเหมือนกันไหมคะ ชอบเดินทางเหมือนกันหรือเปล่า มาออกเดินทางไปด้วยกันนะคะ 

         ขอให้สนุกกับการเดินทาง และขอให้เดินทางอย่างปลอดภัยกันทุกคนนะคะ


         สวัสดีค่ะ


         ปล. บทความของเราจะไม่มีรูปถ่าย จนกว่า minimore จะอนุญาตให้โพสต์รูปมากกว่า 1 รูป และอนุญาตให้ใช้รูปที่มีขนาดเกิน 2 mb โพสต์ลงบทความได้ จริงๆยายคนเขียนมีรูปเยอะเลยนะ แต่การมานั่งดูขนาดรูปทีละรูป แล้วต้องเอาไปย่อไปเรื่อยๆ มันกินเวลามากเลยน่ะ ยายคนเขียนไม่มีเวลาขนาดนั้น


         ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่
         https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html
         ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
         จนกว่าจะพบกันใหม่
         สวัสดีค่ะ

         
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in