เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
nasapollomalibunight
current location
  • นิทรรศการภาพถ่ายครั้งแรกของผมมีผู้คนที่สนิทมากมายต่างมาแสดงความยินดีชื่นชมไม่ขาดสาย บรรยากาศสิ้นปีที่ลมหนาวแวะมาเยี่ยมก่อนหิมะจะตามมา ห้องโถงใหญ่ที่โชว์ภาพถ่ายจากกล้องฟิล์มทุกอย่างมันดีอย่างที่วางแผนไว้ ผมกล่าวเปิดงานและพาแขกทัวร์ดูภาพถ่ายต่างๆและอธิบายถึงเรื่องราวที่ไปที่มาของแต่งละภาพหลังจากการพาทัวร์จบลง หญิงร่างท้วมวัยชราที่ไม่ได้ดูชราตามวัยเป็นแขกที่ผมพาดูรูปได้ถามคำถามกับผม ท่านถาม ทำไมถึงเริ่มที่จะถ่ายภาพมันทำให้ผมเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบว่า คุณมีเวลามากพอที่จะฟังไหมครับ ผมพาท่านออกมาข้างนอกงานสวนริมน้ำลายล้อมไปด้วยต้มไม้แข็งแรงพุ่งไม้อวบๆผมประครองท่านนั่งลงที่ไม้นั่งยาวพื้นที่ถูกปูด้วยหญ้าธรรมชาติ อากาศเย็นลงเพราะพระอาทิตย์เริ่มตกลงผมส่งเสื้อคลุมของผมเองให้ท่าน ท่านส่งยิ้มพร้อมคำขอบคุณ ผมและท่านดื่มดำกับบรรยากาศของยามเย็นในหน้าหนาวท่านเอ่ยชมผลงานของผม ก่อนจะเข้าเรื่องที่ทิ้งคำถามไว้ก่อนหน้า

         หากย้อนไปเมื่อ2ปีหรือ3ปี กล้องถ่ายรูปพวกนั้นมันไม่ใช่แนวผมเลยสักนิด แต่จะมีคนคนนึงที่เขาชอบ การถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มทั้งที่สมัยนี้มีกล้องดิจิตอล ฟังเพลงจากแผ่นเสียงหรือเทป การแต่งตัวตามยุค80 เขาคือคนที่ทะลุเวลามาจากอดีตนั้นคือคำที่ผมมอบให้กับเขา เขาเด็กกว่าผม2ปีแต่การใช้ชีวิตของเขาเหมือนผ่านโลกมานานหลาย10ปี แต่ยังไงความคิดและความดื้อรั้งนั่นก็ยังเด็กกว่าผมอยู่มาก เขาเป็นเด็กดื้อที่ผมอยากจะขัดใจแล้วง้อด้วยของที่เขาอยากได้ บุคลิกนิสัยที่เหมือนแมวเปอร์เซียแสนเย่อหยิ่งขี้รำคาญแต่ชอบอ้อนให้เล่นด้วยจนกว่าตัวเองจะพอใจแล้วก็ผลักไส ผมเป็นคนขี้กลัวเกือบจะขี้ขลาดเขามักจะชักชวนผมทำอะไรที่ไม่เคยทำ พ่นสีตามกำแพง ขับรถออกจากเมือง เขาคือศิลปินที่ชอบตกแต่งร่ายกายด้วยการสัก ผิวขาวๆของเขามันเหมาะกับรอยหมึกดำพวกนั้น วาดภาพบนผืนผ้าใบละเลงสีและจินตนาการลงไปมันคือเสน่ห์ที่เหมาะกับเขา เราใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้นเที่ยวเล่นเชยชมกับผลงานศิลปะจากศิลปินที่มาเปิดงานหรือศิลปะที่เขาสร้าง จนวันนึงเมื่อทางแยกมาถึงเมื่อความฝันของเราต่างกัน เขาหายไป การหายไปของเขายังคงทิ้งความเป็นเขาอยู่ในตัวผม กล้องที่ผมไม่เคยจะสนใจมันเพราะมีเขาอยู่ การวาดภาพลงผืนผ้าใบที่ไม่เคยทำก็ได้ทำ รอยสักที่อยากให้เขาเป็นคนออกแบบก็กลายเป็นตัวเองที่คิดมันเอง เราสองคนเหมืองเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบแต่ก็ขนานไปด้วยกัน ศิลปะและจิตวิญญาณคือสิ่งที่เชื่อมเราทั้งคู่ไว้ 

     เรื่องเล่าจบลงผมหันไปมองพูดฟัง ท่านตอบกลับเพียงรอยยิ้ม ก่อนเอ่ยถาม เขาคนสำคัญคนนั้นคือใครผมไม่ลังเลที่เอ่ยถึงชื่อที่คอยเฝ้าคิดถึง นัม แทฮยอง ครับ ท่านเอ่ยชมชื่อของเขาว่าน่ารัก ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย คุณคงมีความสุขมากที่ได้พูดถึงเขา ท่านพูด ครับ ผมมีความสุขทุกครั้งเมื่อนึกย้อนช่วงเวลาที่เคยมีเขาอยู่ ท่านยิ้ม แล้วหลังจากนั้นเจอกันอยู่ไหม ผมส่ายหน้า ถ้าฟ้าเป็นใจผมคงได้เจอแต่น่าเศร้าที่ไม่มีวันนั้น 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in