เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ออกแบบรักด้วยใจเธอ My love design.Ketsarin Phimphan
"เพื่อนเก่าที่จากไป เพื่อนใหม่ที่กลับมา"
  • ………….

    ห้องเสื้อพิชชา…

    มอลลี่นั่งจิบกาแฟร้อนๆ แล้วเช็คข่าวบนโลกโซเชียลในโทรศัพท์มือถือ มอลลี่ใช้นิ้วไถหน้าจอโทรศัพท์มือถือไปเรื่อยๆ จนมาเจอรูปที่ทิวากรโพสต์ เป็นรูปมือข้างซ้ายที่สวมแหวนนิ้วนางของพิชชาวางบนช่อดอกไม้ ใต้ภาพเขียนบรรยายไว้ว่า “ขอบคุณที่ยอมเป็นเจ้าสาวของผมนะครับ” มอลลี่กลับมาดูที่รูปก็รู้สึกดีใจกับพิชชาด้วยแล้วตะโกนเรียกเอบีกับใบเฟิร์นที่อยู่ในห้องครัวออกมาดูรูป

    “มอลลี่!!! นี่หล่อนเป็นอะไรยะ...ถึงได้ตะโกนเรียกฉันกับเจ๊เฟิร์นเนี่ย”

    “ใช่…เดี๋ยวน้องพิ้งค์มา จะโดนว่าเอานะ”

    “น้องพิ้งค์ไม่ว่าหรอก…นี่มาดูสิ”

    เอบีกับใบเฟิร์นนั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกับมอลลี่ แล้วเขาก็ยื่นโทรศัพท์มือถือส่งให้เอบีและแบ่งให้ใบเฟิร์นดูด้วย สักพักเสียงโมบายกระดิ่งก็ดังกระทบกรุ๊งกริ๊ง ทั้งสามคนหันหน้าไปทางประตู คนที่เดินเข้ามาก็ปรากฎว่าเป็นพิชชานั่นเอง

    พิชชาเดินเข้ามาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พวกพี่สามคนลุกขึ้นพูดและปรบมือแสดงความยินดีพร้อมกัน

    ใบเฟิร์น เอบี มอลลี่ “พวกพี่ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ...”

    “ขอบคุณนะคะ”

    “แล้วได้ฤกษ์งานแต่งยังค่ะ” มอลลี่ถามด้วยความตื่นเต้น

    “ยังเลยค่ะ…แต่ทิมบอกว่าจะจัดการเองค่ะ”

    ในขณะเดียวกันเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากกระเป๋าของพิชชา เธอเปิดกระเป๋าแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาดูและเธอก็ขอตัวก่อน ทั้งสามคนพยักหน้าและยิ้ม พิชชากดรับสายพลางเดินขึ้นไปบนห้องทำงานส่วนตัว

    *ฮัลโหล !* พิชชาเข้ามาในห้องและเดินไปยังโต๊ะทำงาน

    *ฮัลโหลพิ้งค์ แกจะแต่งงานกับทิมจริงๆเหรอ นี่แกไม่เชื่อฉันบ้างเลยรึไง*

    *ฉันเข้าใจนะว่าแกหวังดีกับฉัน แต่ตราบใดที่ฉันยังไม่ได้เห็นกับตาตัวเองฉันก็ไม่เชื่อ มิน!..แกต้องเข้าใจฉันนะ*

    *เฮ้อ !! ฉันเข้าใจแกและเป็นห่วงแกนะด้วย*

    *ขอบคุณนะ ที่คอยอยู่ข้างฉัน เป็นห่วงฉันมาตลอด*

    ตู๊ด…ตู๊ด… พิชชาก็วางสายจากมินตรา เธอวางโทรศัพท์ลงแล้วยกมือขวามาลูบแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย เธอนั่งยิ้มอย่างมีความสุขอยู่พักใหญ่ก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก "ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก" 

    “เข้ามาได้ค่ะ”

    พิชชาอนุญาตแล้ว คนด้านนอกจึงผลักประตูและเดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามายืนตัวตรงข้างโต๊ะทำงานของพิชชา ยื่นแฟ้มเอกสารมาให้พิชชาเซ็นแล้วรายงานเรื่องโรงงานผ้า

    “เดือนหน้าโรงงานจะมีผ้าล็อตใหม่เข้ามา ผู้จัดการเลยอยากให้น้องพิ้งค์เข้าไปตรวจดููค่ะ”

    “ได้ค่ะ…ยังไงพี่เฟิร์นเตือนพิ้งค์ด้วยนะคะ” 

    พิชชาลงลายเซ็นบนกระดาษเสร็จเรียบร้อยก็ปิดแฟ้มเอกสารและส่งคืนให้กับใบเฟิร์น แล้วมีเสียงเคาะประตูขึ้นสามทีรวดและผลักประตูเข้ามา

    “พี่เอบี…มีอะไรหรือเปล่าค่ะ”

    “มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอพบคุณน้องนะคะ”

    ‘เอ๊ะ ! ใครนะ’ พิชชาคิดในใจพลางควงปากกาในมือเล่น “ถ้างั้นลงไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ”

    พิชชาเลื่อนเก้าอี้ทำงานออกจากโต๊ะทำงานเล็กน้อยและคว้าโทรศัพท์มือถือ ลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะทำงานแล้วเลยประตูออกไป เอบีกับใบเฟิร์นเดินตามมาติดๆ

    พิชชาก้าวเดินลงบันไดอย่างกระฉับกระเฉง มองลงมาเเห็นสาวผมลอนด์ยาว ตัวสูงโปร่งบางในชุดจั๊มสูทและส้นสูงปลายแหลมยืนหันหลังมองไปรอบๆ ร้านด้วยความรู้สึกทึ่ง มอลลี่เห็นว่าพิชชามาแล้วจึงบอกหญิงสาวคนนั้น พอหญิงสาวได้ยินก็หมุนตัวมาทางพิชชาที่กำลังเดินลงมา

    “เซอร์ไพรส์”

    “ซาบีน่า !”

    พิชชาดีใจมากที่ได้เจอซาบีน่าและเดินเข้าไปกอดเขาด้วยความคิดถึง หลังจากที่เรียนจบซาบีน่าได้ทำตามความฝันของตัวเองคือการเป็นนางแบบ ก็เลยเซ็นสัญญากับโมเดลลิ่งของต่างประเทศ แล้วจากนั้นมาก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

    พิชชาพาซาบีน่าเข้าไปนั่งลงที่โซฟาในห้องรับแขก พิชชาสั่งให้มอลลี่เอาชากุหลาบและเค้กฟองน้ำมาเสิร์ฟให้แขก ก่อนที่จะมานั่งคุยกับซาบีน่า

    “เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

    “ฉันกลับมาได้สองวันแล้วล่ะ”

    “แล้วเธอจะกลับไปอีกไหม ?”

    “ไม่กลับไปแล้วล่ะ… เพราะฉันหมดสัญญากับทางนู้นแล้ว”

    มอลลี่ยกชากุหลาบและเค้กฟองน้ำเข้ามาเสิร์ฟ หลังจากนั้นทั้งสองคนก็นั่งจิบชากุหลาบร้อนๆ และกินเค้กฟองน้ำอุ่นๆ แล้วนั่งคุยกันเพลินๆ จนซาบีน่าเกือบลืมไปว่ามีงานถ่ายแบบนิตยสารเลยต้องขอตัวก่อน พิชชาเดินออกไปส่งซาบีน่า หน้าร้าน

    “ฉันไปก่อนนะ...ไว้คราวหน้าชวนมินตรามาทานข้าวกันนะ”

    “ได้เลย”

    แล้วซาบีน่าเดินออกไปจากห้องเสื้อ พิชชาก็ยืนโบกมือบ๊ายบายและมองเขาเดินจากไปจนลับสายตาจึงหมุนตัวเดินขึ้นบันไดเพื่อที่จะกลับห้องทำงานส่วนตัว

    บ้านพิชชา…

    วันนี้พิชชาขอกลับก่อนเวลา เพื่อแวะไปหามินตราและรีบกลับบ้านมาคุยเรื่องสำคัญกับครอบครัว พิชชาขับรถเก๋งสีขาวคันหรูเข้ามาจอดในโรงรถข้างบ้าน แล้วเธอก็ดับเครื่องยนต์และปลดเข็มขัดนิรภัย หยิบกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมที่วางไว้บนเบาะข้างๆ เปิดประตูรถก้าวลงมายืน จิ๋ว (สาวรับใช้) รีบเดินออกมาหาพิชชาที่รถเผื่อพิชชาเอาเอกสารหรือซื้ออะไรมา จิ๋วจะได้ช่วยถือ

    พิชชาเปิดประตูหลังแล้วหยิบเค้กส้มที่แวะไปหามินตราก็เลยซื้อมา ส่งให้จิ๋วช่วยถือเข้าไปไว้ในครัวและปิดประตูรถ เสร็จเรียบร้อยเธอจึงเดินเข้าบ้านไป พอเธอก้าวเข้ามาในบ้านก็เจอภูมิรพีกับภูริชญา น้องชายและน้องสาวต่างมารดาของเธอ ทั้งสองคนเห็นพิชชาก็เข้ามาสวมกอดอย่างดีใจ เนื่องจากพวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ตั้งแต่แม่ของพิชชาเสีย ภูผา (คุณพ่อ) ก็ได้แต่งงานใหม่และย้ายไปอยู่ที่ไร่เชาวกรกุล ก็เลยไม่ค่อยได้เจอกันบ่อย

    “หนูคิดถึงพี่พิ้งค์มากเลยนะคะ”

    “ผมก็คิดถึงพี่พิ้งค์เหมือนกันครับ”

    “ค่ะ…พี่ก็คิดถึงพวกเราทั้งสองคน”

    พิชชายิ้มให้น้องทั้งสองคนของเธอ เมื่อได้ยินเสียงของพิชชา ภูผากับวารุณี (แม่เลี้ยง) ก็เดินออกมาจากห้องนั่งเล่น พอพิชชาเหลือบไปมองก็บอกน้องทั้งสองคนและเดินเข้าไปทำความเคารพภูผากับวารุณี

    “สวัสดีค่ะคุณพ่อ… สวัสดีค่ะคุณน้า…”

    พิชชายกมือไหว้ทั้งสองคน ในเวลาเดียวกันสมพร (สาวรับใช้เก่าแก่) เดินมาบอกว่าตั้งโต๊ะเสร็จแล้วเชิญไปที่โต๊ะอาหารเพื่อรับประทานอาหารได้ ทุกคนก็เดินไปยังโต๊ะอาหาร

    ห้องรับประทานอาหาร…

    ภูผาเดินมานั่งลงบนเก้าอี้หัวโต๊ะ วารุณีกับภูมิรพีนั่งลงบนเก้าอี้ข้างขวา ส่วนพิชชากับภูริชญานั่งลงบนเก้าอี้ข้างซ้าย ทุกคนนั่งลงกันเป็นที่เรียบร้อย สมพรเดินมาตักข้าวและจิ๋วเดินมารินน้ำใส่แก้วให้ทุกคน แล้วรับประทานมื้อเย็นกันเลย

    หลังจากนั้นจิ๋วเข้ามาในห้องครัว เปิดตู้เย็นและหยิบเค้กส้มมาจัดใส่จานแล้วนำมาเสิร์ฟ พอดีทุกคนทานกันอิ่มแล้วก็เอาเค้กส้มมาวางบนโต๊ะอาหาร

    “พิ้งค์ซื้อมาจากร้านมินตราค่ะ...ลองชิมกันดูนะคะ” พิชชาลุกขึ้นมาตักให้บนโต๊ะอาหาร

    “ถ้างั้นหนูทานเลยนะคะ”

    “เชิญจ้ะ”

    พิชชานั่งลงยิ้มใกับห้น้องสาวแล้วลูบหัวเขาอย่างอ่อนโยน และหันหน้ามาเปิดประเด็นคุยกับภูผาที่กำลังนั่งจิบชาร้อนๆ อยู่

    “คุณพ่อค่ะ....พิ้งค์มีอะไรจะบอกค่ะ”

    ภูผาเงยหน้าขึ้นมาแล้วตั้งใจฟังที่พิชชากำลังจะพูด

    “ทิม…เขาขอพิ้งค์แต่งงานค่ะ”

    “แล้วพิ้งค์ตอบเขาไปว่าอย่างไรล่ะ”

    “พิ้งค์ตกลงค่ะ” พิชชาส่งยิ้มให้ภูผาและทุกคน

    “น้ายินดีด้วยนะคะ...หนูพิ้งค์”

    “ขอบคุณค่ะ....คุณน้า”

    คนในครอบครัวต่างก็ยินดีกับพิชชาเป็นอย่างมาก

    หลังจากที่ไปนั่งดูหนังกับน้องๆ ที่ห้องนั่งเล่นมาก็ปาเข้าไปสองทุ่มแล้ว เธอเลยขึ้นห้องไปพักผ่อนดีกว่าและกำลังจะเดินเข้าไปอาบน้ำ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังอยู่บนโต๊ะหัวเตียง เธอเดินไปหยิบขึ้นมาดูว่าเป็นใครที่โทรมา หน้าจอโทรศัพท์โชว์เบอร์ทิวากร เธอเลยรีบกดรับทันที

    *ฮัลโหลค่ะทิม*

    *ฮัลโหลครับ! ผมโทรมารบกวนพิ้งค์หรือเปล่า*

    *ไม่เลยค่ะ ทิมมีอะไรรึเปล่า*

    *ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ...ก็แค่ผมอยากให้คุณตัดสูทให้ผมใส่ในงานแต่งของเราไงครับ*

    *คุณแน่ใจนะคะ*

    *ครับ...ผมแน่ใจ ว่าที่ภรรยาของผมเก่งอยู่แล้ว*

    *คุณพูดเกินไปแล้ว…ไม่เอา ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว*

    *ก็ได้ครับ…ผมรักคุณนะ บ๊ายบาย!*

    พิชชากดวางสายแล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี อีกห้านาทีพิชชาก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วใส่ชุดนอนสายเดี่ยวลูกไม้และมีเสื้อคลุมสีขาว เดินขึ้นเตียงและปิดโคมไฟบนหัวเตียงแล้วก็นอน แล้วพิชชานอนลูบแหวนที่นิ้วนางตลอดทั้งคืน

    ……….

    นิยายเรื่องนี้สร้างเพื่อความบันเทิง ตัวละคร พฤติกรรมและเหตุการณ์ในนิยาย เป็นเหตุการณ์สมมุติ

    ปล. นักเขียนอาจจะเขียนผิดหรือเขียนไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ......แล้วถ้าจะให้มีอรรถรสมากขึ้นก็ต้องอ่านและใช้จินตนาการไปด้วยนะคะคุณผู้อ่าน

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in