...นั่งอยู่ตรงนั้นอีกแล้วภาพของคนรู้จักที่นั่งอยู่บนชิงช้าในสนามเด็กเล่นดึงสายตาของเขาที่กำลังเดินกลับบ้านพร้อมถุงใส่ของเต็มมือจากร้านสะดวกซื้อให้หยุดมอง ถึงแม้ว่าจะเป็นอะไรที่เห็นจนชินตาแต่ก็ไม่เคยเข้าใจสักทีว่าทำไมเพื่อนที่เล่นดนตรีด้วยกันมาเกือบปีอย่างนิชิกิโด เรียวถึงได้ชอบมานั่งแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่สนามเด็กเล่น
ขาก้าวเตรียมจะเดินต่อไปอย่างไม่ใส่ใจ ใครๆ ก็มีงานอดิเรกทั้งนั้น มันอาจเป็นแค่ว่านิชิกิโดมีงานอดิเรกที่แปลกกว่าชาวบ้าน แต่นั่นก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องที่ต้องเข้าไปยุ่งสักนิด
โอคุระยกมือขึ้นเสยผมลวกๆ ใจนึกถึงแค่เตียงนอนอุ่นๆ กับภาพยนตร์ในเน็ตฟลิกซ์ที่บ้านตอนที่ก้าวขาเดินต่อไปอย่างไม่คิดอะไร แต่เสียงเรียกที่คุ้นเคยกลับรั้งเอาไว้จนต้องชะงักแล้วหันกลับมามอง
"โอคุระคุง?"
นิชิกิโดที่นั่งอยู่ตรงนั้นโบกมือให้เขาอย่างสดใส
"ไม่ยักรู้เลยแฮะว่าบ้านของโอคุระคุงก็อยู่แถวนี้ด้วย"
เขายิ้มตอบ
"เลยจากนี่ไปสองบล็อคน่ะ"
"แถวเดียวกันเลยนี่นา" อีกฝ่ายยังคงยิ้ม "วันหลังกลับด้วยกันเอามั้ย หลังจากซ้อมดนตรีน่ะ"
"เอาสิ"
เขาตอบรับ แล้วบรรยากาศก็กลับเข้าสู่ความเงียบ
แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ไม่ได้สนิทกับนิชิกิโดถึงขนาดจะพูดคุยกันได้อย่างสนุกปากอยู่แล้ว ถึงจะเป็นคนที่คุ้นเคยกันเอามากๆ แต่เส้นบางๆ บางอย่างที่เหมือนจะคั่นอยู่ก็ทำให้พูดได้ไม่เต็มปากนักว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกัน เขารู้สึกว่าตัวเองแทบไม่รู้เรื่องอะไรของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำนอกจากอะไรพื้นฐานธรรมดาที่คนที่รู้จักกันจะรู้ แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ก็ยังไม่มีจนบางทีก็สงสัยว่าอยู่วงดนตรีเดียวกันมาทั้งแบบนี้ได้ยังไง
เขาสบตากับอีกฝ่ายท่ามกลางความเงียบ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรจนคนที่นั่งอยู่บนชิงช้าเป็นฝ่ายเปิดปากขึ้นมาก่อน
"ชอบดูดาวมั้ย?"
เขากะพริบตาปริบอย่างงุนงง
"ดูดาวเหรอ"
"ใช่" ทางนั้นยิ้มจางๆ ตบมือลงบนชิงช้าตัวข้างๆเหมือนจะเชิญชวน "ยังไงถ้าไม่รีบจะมานั่งด้วยกันก็ได้นะ?"
ตอนนั้นแหละที่เขาได้เปิดประสบการณ์ดูดาวครั้งแรกในชีวิตขึ้นมา
*
นิชิกิโด เรียวเป็นผู้ชายที่ชอบเรื่องพวกนี้อย่างไม่น่าเชื่อ
อีกฝ่ายที่นั่งอ้อยอิ่งไกวชิงช้าเบาๆ แล้วพูดเรื่องดวงดาวพร้อมกับชี้ให้เขาดูจุดขาวๆ บนท้องฟ้าอย่างสดใสเป็นอะไรที่เขาไม่คิดว่าจะได้สัมผัสกับตัวมาก่อน
ถ้าจะบอกว่านิชิกิโดคนที่ปกติพูดกับเขานับคำได้กำลังมองท้องฟ้ามืดๆ ที่ประดับด้วยดาวนับพันด้วยแววตาที่เป็นประกายกำลังดึงดูดสายตาของเขาไปได้ทั้งหมดก็คงไม่ผิดนัก
คนที่เขารู้สึกว่าไม่รู้จักเลยสักนิด ตอนนี้กำลังทำให้เขาสนใจจนไม่อยากจะละสายตาไปจากจุดที่มองไม่เห็นดวงตาที่ส่องประกายยิ่งกว่าดวงดาวบนฟ้านั่นเสียอีก
เขาสองคนที่ไกวชิงช้าเบาๆ ท่ามกลางสายลมอ่อนที่พัดผ่านทำให้รู้สึกพิเศษได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เป็นอะไรที่ไม่คิดว่าจะทำ กับคนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาอยู่ใกล้กันถึงขนาดนี้
"จริงๆโอคุระคุงเองก็เหมือนกับดวงดาวเหมือนกันนะ" นิชิกิโดที่ยังคงไม่ละสายตาจากท้องฟ้าพูดกับเขาขึ้นมาเสียงเบา "เหมือนดาวซิริอุสเลยล่ะ"
"ซิริอุสงั้นเหรอ?" เขาขมวดคิ้ว ตอนที่หันไปทางคนที่นั่งข้างๆ ก็เห็นสายตาของอีกฝ่ายที่มองมาก่อนแล้ว เขามองกลับไปก่อนจะเห็นนิชิกิโดที่หลบสายตาไปอย่างงุ่มง่าม
"ดวงนั้นไงล่ะ" ปลายนิ้วชี้ขึ้นไปด้านบนพาให้สายตาของเขามองตาม
แต่ดาวดวงไหนก็หน้าตาเหมือนกันหมดนั่นแหละ มันควรจะเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ
อีกฝ่ายที่คงมองออกถึงสายตาสับสนของเขาขยับเข้ามาใกล้จนห่างกันไม่กี่คืบ ก่อนจะชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง แล้วกระซิบเบาๆแบบพอให้ได้ยินกันแค่สองคน "ดวงนั้นไงล่ะ ที่สว่างๆน่ะ"
เขาเหลือบไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของอีกคนที่เข้ามาใกล้เสียจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เป่ารดลงมา รู้สึกไม่เป็นตัวเองเลยสักนิด แต่ก็พยายามไม่สนใจแล้วหันกลับไปมองตามทิศที่ถูกชี้
อา ดวงที่สว่างที่สุดสินะ
"ที่ใหญ่ๆสว่างๆดวงนั้นสินะ" เขาชี้ขึ้นไปบ้าง ได้ยินเสียง 'อือฮึ' เบาๆในลำคอเป็นการตอบรับจากอีกฝ่าย
"ทำไมถึงบอกว่าเหมือนฉันล่ะ"
ถามออกไปเสียตรงจนรู้สึกเหมือนกันว่าควรจะอ้อมค้อมไปบ้างเพราะสีหน้ากึ่งตกใจของอีกคนที่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัด คล้ายๆ กับจะบอกว่าไม่คิดว่าเขาจะเข้าประเด็นในทันทีแบบนี้
แต่สุดท้ายนิชิกิโดก็ยิ้มออกมาอยู่ดี แล้วพูดออกมาทั้งสีหน้าเปื้อนยิ้มแบบนั้น
....ตอนที่อยู่ใกล้กันขนาดนี้
"ก็เป็นดาวที่สว่างที่สุดยังไงล่ะ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจมองไปแต่ก็เห็นอยู่ดี รู้ตัวอีกทีก็ถูกดึงสายตาไปหมดแล้วจนบางครั้งก็รู้สึกว่าความสนใจไปอยู่ที่ตรงนั้นทั้งหมด"
"เป็นดาวที่นำทางให้กับนักเดินเรือผู้หลงทาง"
"เพราะแบบนั้นถึงได้เหมือนกับโอคุระคุงยังไงล่ะ...."
เขาไม่เข้าใจเลยสักนิด แต่ไม่รู้ทำไมหัวใจในอกถึงได้เต้นแรงขึ้นมาราวกับจะตอบรับกับคำพูดนั้น
คำพูดเรียบๆ ที่เขาไม่ค่อยจะเข้าใจความหมายของมันสักเท่าไหร่
นิชิกิโดที่นั่งข้างๆส่งยิ้มจางมาให้กับเขาโดยไม่พูดอะไรอีก แล้วปล่อยความเงียบงันให้เข้าปกคลุมบรรยากาศเหมือนอย่างทุกที
แต่ไม่รู้ทำไม ความเงียบครั้งนี้ถึงให้ความรู้สึกที่ต่างไปจากปกติโดยสิ้นเชิง
เพราะแสงดาว เพราะสายลมเย็นๆ หรือเพราะคำพูดเมื่อครู่กันแน่
ดาวซิริอุส....งั้นสินะ?
รอยยิ้มผุดขึ้นบนริมฝีปากจางๆ ถึงจะไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสักเท่าไหร่ แต่เสียงหัวใจที่กำลังเต้นเร็วกว่าผิดปกติในอกกำลังบอกเขาว่ามันคงไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
แต่ที่บอกว่าเขาคือดาวที่ส่องสว่างที่สุดนั่นหมายความว่าอะไรกันแน่
สีหน้าของนิชิกิโด เรียวที่ปกติอ่านออกอย่างง่ายดายน่ะ พอมาตอนนี้ก็อ่านไม่ออกเลยสักนิด
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in