012 - dreaming
'ตาข่ายดักฝัน' ของชาวอินเดียแดง
ว่ากันว่ามักจะแขวนไว้บนหัวนอน
เพื่อกรองฝันร้ายและดักฝันดีไว้กับตัว
calling...
เสียงเรียกเข้าการโทรผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้น
ระหว่างที่กำลังสาละวนอยู่กับการข้ามถนน
ใครโทรมาตอนนี้วะ จะสองทุ่มอยู่แล้ว
แต่ก็ต้องแปลกใจหนักขึ้นไปอีก เมื่อคนที่โทรมา
คือคนที่เฝ้าคิดถึงอยู่ทั้งวัน ตั้งแต่เริ่มฝึกงานครั้งที่สองได้อาทิตย์กว่า ๆ
"ฮัลโหล.."
"ฮัลโหล ทำอะไรอยู่?"
"กำลังเดินกลับห้อง มีอะไรหรือเปล่า?"
"ทำไม โทรหาไม่ได้หรือไง? ต้องมีอะไรด้วยหรอ"
"เฮ้ยเดี๋ยว ๆ ใจเย็นดิ ทำเหมือนปกติมึงโทรหากูอ่ะ"
"..."
"อ่ะ ตกลงมีอะไร?"
"เหงา..."
นั่นไง ว่าแล้วเชียว
จะปีกว่าแล้ว สำหรับหมอนั่น
ก็มีแค่เหงา ส่วนเราก็มีแต่คิดถึง
"อืม.. แล้วไงต่อ"
"ก็พวกแม่งเล่นคุยแต่กับแฟน กูก็เหงาดิวะ"
"แล้วมึงจะให้กูทำไง?"
"ก็คุยเป็นเพื่อนหน่อย.. แล้วนี่ถึงห้องยัง? อย่าไปฉุดใครเขาล่ะ"
และอีกสารพัดบทสนทนาที่ถูกหยิบยกขึ้นมา
ถ้าในสถานการณ์ปกติ อย่าว่าแต่คุยกันค่อนคืนขนาดนี้เลย
แค่จะตอบแชทยังรอเกือบชั่วโมง
ยิ่งเวลาอยู่กับแม่นะ ไม่ต้องพูดถึง
แต่ตอนนี้ หมอนั่นย้ายมาอยู่กับเพื่อน เพื่อจะได้เดินทางไปฝึกงานสะดวกขึ้น
กลายเป็นว่าเหมือนจะเราจะถูกสนใจมากขึ้น.. มั้งนะ
"มึง คริสมาสต์นี้ว่างไหม?"
"วันอะไร?"
"วันอาทิตย์"
"ว่าง ไม่ได้ทำงาน"
"'งั้น.. ไปเที่ยวกับกูได้ไหม?"
เราอยากแก้ตัว ปีที่แล้วก็เป็นฝ่ายชวนแบบนี้
แต่ดันปอดแหกไม่กล้าไปเอง จนนัดล่มไป
ปีนี้ เลยอยากไปเที่ยวด้วยสักครั้ง
ก็วันคริสมาสต์ คือวันที่เราชอบมากที่สุดในรอบปีน่ะสิ
"อืม ไปดิ อย่าเบี้ยวอีกแล้วกัน"
25 December 2017
"แฮ่ก ๆ โทษที รถติดมากอ่ะ"
"มึงสาย นัดกูหกโมง แล้วนี่อะไร มาถึงเกือบทุ่ม"
"อย่าบ่นนักสิวะ"
"ก็มึงสาย นัดคนอื่นเขาแล้วก็สายเอง"
"แต่กูออกมาตั้งแต่บ่ายสามนะ ไม่รู้รถมันติดอะไร.."
"ไม่ต้องมาพูด"
"เฮ้ย! รอเดี๋ยว"
ก็เตรียมใจไว้ในระดับนึงแล้วแหละว่ามาสายแล้วจะต้องเจอแบบนี้
นี่ขนาดเผื่อเวลาออกมานานแล้วนะ
ดันมามีงานมอเตอร์โชว์อะไรวันนี้ก็ไม่รู้
แล้วดูนั่นดิ เดินสะบัดไปนู่นแล้ว
คิดแล้วก็ปวดหัว แต่ก็ต้องวิ่งตาม
"อ่าว.. มึงสองคนมาไง?"
ยังไม่ทันจะเดินไปถึงไหน
ดันตองชะงักเท้าเมื่อเจอเข้ากับรูมเมทของหมอนั่นยืนอยู่ตรงหน้า
มาได้ไง.. แต่ก็นะพอจะเดาได้ว่าคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ฮ่ะ ๆ สุดท้าย ก็ไม่กล้าเที่ยวกับเราสองคนสินะ
คงจะอึดอัด
คิดแล้วก็เจ็บใจแปลก ๆ
"เอ่อ.."
"คบกันหรอวะ?"
"เปล่า.."
"แล้ว-"
"เพื่อนกันมาเที่ยวด้วยกันไม่ได้หรือไง? เหมือนที่มึงสองคนก็มาด้วยกัน"
เออ ชอบว่ะ หมอนี่หนักแน่นดี
เพราะถ้าจะให้เราตอบว่า 'เพื่อนกัน' มาเที่ยวด้วยกัน
คงจะเป็นเรื่องยากไปสักหน่อย เพราะใจไม่ได้คิดแบบนั้น
ถ้ายังจำกันได้ หมอนี่เคยบอกไว้ว่า
'ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของเรา'
พอมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ก็กระอักกระอ่วนนิดหน่อย
"เอาไง? ให้สองคนนี้เดินกับเราไหม?"
หันมากระซิบถามเบา ๆ
คงจะกลัวสองคนนั้นได้ยิน
"ก็ไปสิ มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ให้ไป ก็ 'เพื่อนกัน' ทั้งนั้น"
ตอบไปพร้อมกับยิ้มขื่น ๆ
พอความจริงไม่ใช่อย่างที่วาดฝันไว้
มันเลยรู้สึกเฟลนิดหน่อย
"พวกมึงก็ไปด้วยกันดิ"
หมอนั่นว่าก่อนจะหันไปชวน
สองคนนั้นมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะเดินตามมาช้า ๆ
ส่วนเรา.. คงต้องรักษาระยะห่างหน่อยนั่นแหละ
แต่ดูเหมือนสภาพแวดล้อมจะไม่เป็นใจ
วันนี้เป็นคริสมาสต์ที่ตรงกับวันหยุด คนเลยเยอะเป็นพิเศษ
จนทำให้เราต้องไปเบียดหมอนั่นจนได้
"จะเดินเบียดไมนักหนาวะ"
"ขอโทษ..."
เรารู้ว่าเจ้านั่นไม่ได้จะว่าจริงจัง
แต่คนฟังแบบเราก็ใจเสียเหมือนกัน
"เฮ้ย.. ล้อเล่น"
"ไม่เป็นไร เข้าใจว่าอึดอัด"
รู้สึกเหมือนเสียงมันถูกดูดไปไหนไม่รู้
เรารู้เลยว่าเสียงที่เปล่งออกไปมันแผ่วมาก
และอาจจะทำให้หมอนั่นไม่สบายใจ
"มานี่มา งอนอะไร หืม?"
"ไม่ได้งอน.. นี่! เดี๋ยวเพื่อนเห็น"
แล้วสิ่งที่ชวนช็อคกว่าเดิมคือ
จู่ ๆ คอเราก็ถูกเกี่ยวด้วยแขนใหญ่ ๆ ของเจ้านั่น
ไม่คิดฝันว่าจะเกิดเหตุการนี้ขึ้นกับตัว
"วันนี้.. แต่ตัวน่ารักนะ"
จากกำลังมึน ๆ กับหมัดแยบเมื่อกี้
พอเจอหมัดฮุกเข้าไป เรารู้เลยว่าโดน Knock Out เข้าแล้ว
ตาข่ายดักฝันช่วยไล่ฝันร้าย และดักแต่ฝันที่ดีเอาไว้
แต่เจ้าตาข่ายจะรู้ไหมหนอ? ว่าฝันดีไม่ได้อยู่กับเราได้ตลอดไป..
_____________________________
Talk w/me
หมัดฮุกแบบ ฮุกกลางลำตัวเลยค้าบผม
จุกไหมฮะ? แต่ยังมีจุกกว่านี้อีกนะ หึหึ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in