011 - loop
หลาย ๆ คนมักบอกว่าการหลงอยู่ในเขาวงกตไม่ต่างจากการตายทั้งเป็น
"คิดถึงว่ะ"
"เหมือนกันเว้ย"
"ฮือ.. คิดถึงทุกคนเลย"
เสียงของเด็กสาวและตุ๊ดน้อย
โหวกเหวกโวยวายอยู่พักใหญ่
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานถึง 3 เดือนเต็ม ๆ
เนื่องจากต้องแยกย้ายกันไปฝึกงาน
และกลับมาเจอกันอีกครั้งในวันเปิดเทอมวันแรกของปี 2
"ผอมลงปะวะ?"
"นิดนึงว่ะ สงสัยงานหนัก ฮ่า ๆ"
จริง ๆ แล้วก็ลงเกือบสิบโลนะ
แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะงานหนักจริง ๆ แหละมั้ง..
"คงไม่ใช่เพราะกินไม่ได้นอนไม่หลับหรอกใช่ไหม?"
"พูดไปเรื่อย ถ้ามีเวลานอนกูสาบานเลยว่าจะนอนให้คุ้มค่าทุกวินาที"
ตอบไปด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
จะได้เลิกหรี่ตาจับผิดกันสักที
ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ก็เป็นอย่างมันว่านั่นแหละ
ผ่านมาร่วมสามเดือนแล้วหลังจากวันที่แยกกัน
ช่วงแรกยอมรับว่าไม่ต่างอะไรจากคนเสียสติ
จริง ๆ ก็เทียวทักเทียวตามหมอนั่นตลอดในเดือนแรก
แต่ดูเหมือนหมอนั่นจะไม่เห็นค่าอะไรในความพยายามของเราแม้แต่น้อย
มีเพียงประโยคดูเหมือนเห็นใจที่ตอบกลับมาแค่ว่า
'เดี๋ยวก็เจอคนที่ดีกว่านี้'
หลังจากนั้นเลยทบวนตัวเอง
จริง ๆ แล้วหมอนั่นก็ไม่เคยบอกรักกันสักครั้ง
มีแต่เราที่พร่ำพูดจนคำว่ารักเหล่านั้นมันเหมือนสายลมที่พัดผ่านไปเฉย ๆ
จริงอยู่ที่คนขอเป็นแฟนคือมัน
แต่มั่นใจได้ไงว่าไม่ใช่เพราะความสงสาร
อา... คิด ๆ ไปขอบตาก็เริ่มร้อน ๆ แล้วว่ะ
"ไปกินน้ำก่อนนะ"
"ฮะ?.. อืม"
หันไปพูดกับสองชะนีกับหนึ่งตุ๊ดที่กำลังนั่งเม้าท์มอยกันก่อนเข้าคาบเรียน
ตอนนี้ก็เปิดเรียนได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว อะไร ๆ ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางเยอะ
ส่วนถ้าถามถึงหมอนั่น
เจอกันบ้าง แต่ไม่ค่อยกล้าสบตาเท่าไหร่
นั่นแหละ ก็ยังทำใจไม่ได้นี่หว่า
เจ้าเพื่อนสนิทตัวดีมักแอบมากระซิบบ่อย ๆ ว่าทางนั้นชอบจ้องไม่วางตา
แต่ก็นะ คงจะสมเพชแหละ..
กึก
อีกสองก้าวกำลังจะถึงตู้กดน้ำอยู่แล้ว
อยู่ ๆ ภาพตรงหน้าก็ทำให้ขาแข็งขึ้นมาซะดื้อ ๆ
ก็จะอะไรซะอีกล่ะ
ต้นเหตุของเรื่องที่ทำให้เราเจ็บปวดรวดร้าวตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา
กำลังยืนกินน้ำอยู่หน้าตู้ด้วยท่าทีสบายอารมณ์น่ะสิ
ทำใจดีสู้เสือก่อนจะสูดหายใจและเดินอาด ๆ เข้าไปกดน้ำ
ฟู่ว.. ใจเย็น ๆ ไม่มีอะไรน่ากลัว
ก็แค่เข้าไปกินน้ำ แล้วก็เดินออกมา ทุกอย่างก็จบ
เหมือนหมอนั่นจะชะงักไปเล็กน้อย เล็กน้อยจริง ๆ
ก่อนจะกดน้ำดื่มต่อ เราเองก็คง้สแก้วจากหลังตู้มาดื่มก่อนจะกระแอมเบา ๆ
"ไง"
เป็นฝ่ายทักไปก่อนจนได้
"ไง.. เรียนอะไรทำไมถึงแต่ตัวแบบนี้"
"อ๋อ พรีเซนท์งานน่ะ เลยต้องแต่งตัวดี ๆ"
"อืม.."
"แล้วเรียนอะไร?"
"หมากล้อม.. ต้องไปละ เจอกัน"
"อื้ม"
ดูเป็นบทสนทนาที่ราบเรียบ
แต่แปลกที่ทำให้ใจเราเต้นแรงขนาดนี้
อาจเป็นเพราะประโยคที่ดูจะใส่ใจกันอย่างเช่น
ที่หมอนั่นถามถึงเสื้อเชิ้ตสีดำที่เราใส่อยู่
เพราะเห็นว่ามันไม่ใช่ชุดนักศึกษา อย่างที่ควรจะเป็น
อา.. ทำไงดี
หยุดยิ้มไม่ได้เลย
หากแต่ในเขาวงกรต เต็มไปด้วยกุหลาบสีสวยส่งกลิ่นหอม
ถ้าเป็นแบบนั้น ยอมตายก็ได้..
_____________________________
Talk w/me
เป็นอะไรคะ? เป็นไบโพล่าห์หรอ
ฮ่าาาา กลับมาลูปเดิมอีกแล้ว
แล้วเมื่อไหร่จะหลุดออกจากเขาวงกรตนี่ได้สักที
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in