เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เขียนไปเรื่อยนอวอรอรอตอพอลอ
จากความเงียบ 21 วินาทีของจัสติน ทรูโด ถึงกรณีนายวันเฉลิม
  • เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของประเทศแคนาดา ถูกนักข่าวถามขณะแถลงข่าว เรื่องกรณีของการเหยียดผิวในสหรัฐอเมริกา ที่กำลังบานปลายใหญ่โตอยู่จนถึงขณะนี้
     
    คำถามคือ คิดอย่างไรที่นายทรัมป์ ประธานาธิบดีของประเทศประชาธิปไตยเสรีอย่างสหรัฐ เรียกร้องให้ใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม

    ปกติคุณจัสตินเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ คิดไว ตอบไว 

    แต่กับคำถามนี้ ที่อาจกระเทือนความสัมพันธ์กับพันธมิตรสำคัญ แกยืนนิ่งไป 21 วินาที บนโพเดียม ต่อหน้าสายตานับแสนนับล้านที่ได้ดูผ่านการถ่ายทอดและเทปบันทึกภาพ 

    เป็น 21 วินาทีประวัติศาสตร์ ที่ไม่เคยมีนักข่าวคนไหนเคยเจอ ว่าคนระดับผู้นำประเทศใช้เวลาคิดคำตอบออกมานานขนาดนี้  

    ถ้าเป็นนายทรัมป์ แกน่าจะตอบตั้งแต่คำถามยังไม่จบ

    ถ้าเป็นผู้นำบ้านเรา .... ไม่พูดดีกว่า

    ซึ่งแกตอบมาดีมาก ถ้ามีเวลาและความสนใจลองไปหาอ่านดูนะครับ

    แต่ใจความหนึ่งคือ แกยอมรับในเรื่องการเหยียดผิวว่ามีอยู่จริงแม้ในประเทศแคนาดาเอง (ตัวแกเองสมัยวัยรุ่นก็เคยเป็นคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมนี้ อันนี้เป็นข่าวใหญ่เมื่อปีกว่าๆ ที่แล้ว)

    ขอใช้ภาษาอังกฤษ "Systemic Racism"

    ย้ำว่า Systemic ไม่ใช่ systematic ที่เราคุ้นกันมากกว่า

    ความหมายคร่าวๆ systematic คืออะไรที่ทำกันอย่างเป็นระบบ systematic attack การบุกอย่างเป็นระบบ มีการจัดวางกองกำลัง ใครรุกใครรับ systematic thinking การคิดอย่างเป็นระบบ มีการลำดับอะไรคิดก่อน อะไรเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณา อะไรที่สำคัญน้อยกว่ากับโจทย์ที่คิดอยู่ อะไรที่ไม่เกี่ยว ต้องตัดทิ้ง ฯลฯ

    แม้คำจะคล้ายกัน แต่ความหมายต่างกันมาก systemic คือ "ฝังอยู่ในระบบ" Systemic cancer เช่น มะเร็งที่กลืนไปกับระบบอวัยวะต่างๆ เรียบร้อยแล้ว systemic racism ความรู้สึกเหยียดเชื้อชาติที่ฝังอยู่ในระบบความคิด ระบอบการปกครอง การศึกษา ฯลฯ

    ในอุดมคติแล้ว ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย ที่ทั้งแคนาดาและอเมริกาเองใช้อยู่ (รวมถึงสยองประเทศด้วย) โดยมี "รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน" (อับราฮัม ลินคอล์น, 19 พ.ย. 1863) เป็นผู้แทนในการใช้อำนาจอธิปไตย 
     
    ประชาธิปไตย ที่เคยมีคนพูดว่ามันกินไม่ได้ ซึ่งก็จริง ถึงกินได้ก็คงไม่อิ่ม แต่มันก็เป็นระบบในการจัดสรรจัดการทรัพยากรหรือผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มก้อนต่างๆ ในสังคม เพื่อไม่ให้คนบางกลุ่มก้าวไปข้างหน้าโดยไม่สนใจว่าความทะเยอทะยานและความคาดหวังของตนจะทิ้งศพของคนร่วมสังคมเดียวกันไว้เกลื่อนกลาดแต่อย่างไร จุดเด่นของระบบนี้คือการเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มก้อนที่ว่า ได้มีโอกาสพูดคุยแสดงจุดยืนของตนก่อนมีการตัดสินใจใดๆ ที่จะมีผลกระทบตามมา ซึ่งก็คือการที่ทุกคนทุกกลุ่มก้อน ได้รับรู้ว่าอะไรเป็นปัญหาที่ต้องแก้ อะไรคือภาพวิสัยทัศน์ของสังคม และเราจะขับเคลื่อนไปถึงตรงนั้นด้วยกันอย่างไร เปิดโอกาสให้แสดงความเห็นอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าคุณจะเกิดมามีสีผิว สีตา หรือพูดจาด้วยสำเนียงอะไร  

    ส่วนการตัดสินใจ ก็เปิดให้มีการลงคะแนนเสียง เพราะการจะเอาใจทุกคนมันคงเป็นไปไม่ได้ 

    ประชาธิปไตย เป็นระบบที่เชื่อมั่นว่าทุกคนเป็นคนดี และมีภาวะวิสัยที่ดีพอที่จะทำการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ได้ ไม่ใช่บอกว่า เราไม่อยากขาดดุลทางการค้า ฉะนั้นส่งกองทัพไปบุกบ้านมารดามันให้ราบไป เราจะได้ยึดทรัพยากรมันมาฟรีๆ 
     
    กลับมาที่ทรูโด การที่แกยอมรับว่าแม้แต่ในแคนาดาเองก็มีการเหยียดเชื้อชาติอยู่ในระบบ เป็นคำพูดที่ยิ่งใหญ่มาก คือการยอมรับว่า ประชาธิปไตยในโลกประเทศที่พัฒนาแล้วยังยังมีความไม่สมบูรณ์ ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไข  

    ถามจริงเถอะ มีผู้นำสักกี่คนที่จะยอมรับว่าสิ่งที่ผู้คนยึดถือกันเป็นสรณะจะมีปัญหา 

    อย่างบ้านเรา ถ้าบอกว่าพิธีพืชมงคล ไม่ได้มีผลอะไรกับผลผลิตทางการเกษตรในปีนั้นๆ รัฐบาลเราคงไม่อยากพูด 

    แต่ถ้าเราบอกว่าเราเป็นประชาธิปไตย เราก็ไม่ควรจะเพิกเฉย ถ้าเห็นความไม่งามพร้อมของมัน ก็ต้องช่วยกันแก้ไปทีละจุด แต่มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน

    ปัญหาที่เป็น Systemic problem ต้องแก้ด้วยวิธีการที่เป็น Systematic 

    อ่านปัญหาให้ขาดก่อน แล้วดูว่าอะไรแก้ง่าย อะไรแก้ยาก จากทรัพยากร (คน เงิน เครื่องมือ ทรัพย์สิน ฯลฯ) ที่มีอยู่ เราจะแก้อะไรก่อน อะไรหลัง ทำให้เสร็จในกี่ปี

    ถ้าการเสียชีวิตของคุณจอร์จ ฟลอยด์ ไม่ทำให้คนระดับผู้นำประเทศตื่นมาเห็นว่ามีปัญหาอยู่ในระบบต้องแก้ไข ผมว่าแกก็คงตายเปล่า และผู้นำพวกนั้น ก็คงไม่ใช่ผู้นำของประชาชน ที่มาจากประชาชน ที่ทำอะไรเพื่อประชาชนจริงๆ

    มามองเรื่องใกล้ตัวกันบ้าง

    กรณีที่ชาวไทยคนหนึ่งถูก "อุ้ม" หายตัวไปในประเทศเพื่อนบ้าน มันทำให้เราคิดอะไรบ้างมั้ย

    ตอนแรกผมไม่คิดอะไร เพราะเป็นปัญหาที่รัฐบาลควรจัดการ อย่างน้อยที่สุด รัฐบาล "ของประชาชน" ก็ควร "ทำอะไรเพื่อประชาชน" โดยไม่มาตั้งแง่ว่า คนที่กำลังเดือดร้อน (หรืออาจจะตายห่าไปแล้ว) คนนั้น มีสีผิว สีผม หรือพูดจาสำเนียงอะไร

    หรือเคยพูดเรื่องอะไร

    แต่จากการถกเถียงที่ผมเห็น เฮ้ย มันบ้าไปแล้วมั้ย 

    รัฐบาลอ้ำอึ้ง บอกไม่เกี่ยว เป็นเรื่องที่เกิดในเขมร เราทำอะไรไม่ได้ 

    ไม่มีท่าทีสักนิดว่าอยากทำอะไร

    ลองนึกถึงตอนที่โรคโควิดระบาดที่จีนเมื่อต้นปีที่ผ่านมาสิครับ ประเทศไหนก็จัดเครื่องบินส่งไปรับคนของตัวเองทั้งนั้น ประเทศจีนห้ามเข้าเหรอ ส่งทูตไปคุยสิ 

    ลองคิดถึงตอนที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเสียชีวิตในบ้านเราสิครับ รัฐบาลประเทศอื่นเขาทำอะไรได้แค่ไหน 

    ไม่อยากยกตัวอย่างสมัยคุณทักษิณ เพราะผมไม่ใช่ติ่งแก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีจนไม่พูดไม่ได้ ตอนที่เขมรมาฮึ่มๆ ก่อจราจลที่สถานฑูตไทยในพนมเปญกรณีไม่พอใจนักแสดงชาวไทย ลองคิดดูว่าเราทำอะไรได้แค่ไหน 

    อยู่ที่รัฐบาล "ของประชาชน" อยากทำหรือเปล่า

    หรือเพราะรัฐบาลเราไม่ได้มาก่อกำเนิด "โดยประชาชน" เลยไม่ต้องทำอะไร "เพื่อประชาชน"

    แถมพอมีคนอีกกลุ่มที่ไปขุดคุ้ยว่า คนที่หายไป ไม่ธรรมดา เคยหนีคดี เล่นการพนัน ปลูกและค้ากัญชา คนแบบนี้ ใครจะอุ้มหายไปก็ช่างสิ เขาไม่ใช่คนดี ฯลฯ

    เฮ่อ ตรงนี้ขอภาษาอังกฤษเถอะนะ He that is without sin among you, let him first cast a stone at her 
     
    ประเด็นเรื่องกัญชาเป็นสิ่งเสพติดผิดกฎหมายกัมพูชาจริง แต่จากรายงานของนานาชาติ (ไปหาอ่านได้ใน wiki) รัฐบาลและตำรวจไม่ได้ออกมาบังคับใช้มาเกินสิบปีแล้ว และการค้าหรือการนำมาใช้เป็นส่วนผสมอาหารขายในรัานอาหารก็ทำกันโดยเปิดเผย

    อันดับต่อไป แล้วถ้าถ้ามันผิด มันสมควรถูกอุ้่มหายมั้ย อันนี้ตอบจากสามัญสำนึกว่า ถ้าทำผิดกฎหมาย มันก็ต้องมีการดำเนินคดีตามปกติ รัฐบาลเขมรจะมาปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ และรัฐบาลไทยก็ต้องส่งความช่วยเหลือไปตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งทนายหรือการดูแลความปลอดภัยเมื่อประชาชนไทยต้องคดีในต่างประเทศไทย

    ตอนโควิดระบาดที่จีน แล้วทุกชาติจัดเตรียมรับคนกลับจากอู่ฮั่นอย่างรวดเร็ว จำได้มั้ยครับว่าของบ้านเราเป็นยังไง มีการแถลงว่าจีนยังไม่ให้เข้า (ซึ่งบ่ายวันเดียวกันก็มีข่าวเครื่องบินญี่ปุ่น เครื่องบินอเมริกา ลงจอดสนามบิน รอรับคนกลับแล้ว) 

    ขอกลับไป 21 วินาทีของทรูโดอีกครั้ง 

    ไม่ว่าผู้นำบ้านเราจะเข้ามาอยู่ในตำแหน่งด้วยวิธีการไหน ท่านก็ได้มานั่งในตำแหน่งนี้แล้ว และถ้าท่านพบเห็นปัญหาที่มันฝังรากลึกในระบบและระบอบของสังคม มันจะเป็นการดีที่ท่านคิดหาวิธีแก้ปัญหา

    ถ้าการอุ้มคุณวันเฉลิมจบลงที่การเสียชีวิต (ขออย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย) ก็ขอให้มันนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง

    เผื่อวันหน้า พวกเราจะได้รู้จักประชาธิปไตยกันจริงๆ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
bee_buay (@bee_buay)
อยากติดต่อผู้เขียนค่ะ รบกวนทิ้ง email ไว้หรือติดต่อมาทาง crispayyy@hotmail.com นะคะ
@bee_buay เพิ่งเห็นครับ รบกวนเช็คอีเมล์เลยครับ ตอบไปแล้ว