กิจวัตรการดื่มกาแฟที่แสนสามัญธรรมดาและน่าเบื่อของชายหนุ่มได้เปลี่ยนไปนับตั้งแต่วันนั้น... เขาเจาะจงเลือกร้านสาขานี้ เลือกดื่มกาแฟและขนสารพัดเอกสารมานั่งทำที่ร้าน หรือแม้แต่แวะซื้อกาแฟเพิ่มจากแค่ตอนเช้ามาเป็นกลางวันกับหลังเลิกงาน
แต่เด็กหนุ่มคนนั้นก็ไม่มาปรากฏตัว
2.
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปโดยไม่มีวี่แววเจ้าของผมสีแดงดวงตาสีฟ้าคนนั้นในร้านสตาร์บัคส์ และเป็นหนึ่งสัปดาห์ที่เขาเฝ้าถามตัวเองถึงเหตุผลของความรู้สึกถูกชะตาอันน่าประหลาดใจต่อคนที่.. จะเรียกว่าได้พูดคุยกันยังไม่เต็มปากด้วยซ้ำ
งี่เง่าชะมัด มันอาจจะเป็นแค่อาการตื่นตาเวลาเห็นใครที่ดูน่าสนใจก็ได้ ทั้งหมดนี้เขาอาจจะคิดไปเองก็ได้... เขาอาจจะแค่ทำอะไรเกินเหตุไปเองก็ได้
แต่ถึงกระนั้น ชายหนุ่มก็ยังเดินทางจากออฟฟิศมาที่สตาร์บัคส์ย่านใจกลางเมืองเหมือนเดิมในเวลาช่วงพักอันน้อยนิด
เที่ยงสิบห้านาทีของวันนี้สว่างเจิดจ้าด้วยแสงแดด ความสงบเงียบและเคาน์เตอร์หน้าร้านที่มีคิวเพียงเบาบางทั้งสองฝั่งดูแล้วช่างแตกต่างราวกับเป็นสถานที่คนละแห่งกันกับเมื่อสัปดาห์ก่อน
มันทำให้เขาหลุดถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
คำขาดถูกตั้งขึ้นขณะเดินฝ่าฝูงชน ความหวังลมๆ แล้งๆ ที่เพ้อเจ้อจนแม้แต่ตัวเองยังหาเป้าหมายไม่ได้นั้นควรหยุดลงก่อนค่ากาแฟวันละสองสามแก้วจะทำให้เขาไม่มีเงินเหลือถึงปลายเดือน ยังไม่รวมความเหนื่อยกายจากการเดินทางและความเหนื่อยใจจากการรอคอยอีก...
บอกแล้ว บางทีทั้งหมดนี่เขาอาจจะแค่ทำเกินเหตุไปเอง
เพราะฉะนั้น วันนี้ 'ต้อง' เป็นวันสุดท้าย ที่เขาจะมารอพบเด็กหนุ่มคนนั้นในร้านสตาร์บัคส์
'อเมริกาโน่ร้อนไซส์เวนติแก้วนึง'
ชายหนุ่มเอ่ยปากสั่งเมนูประจำราวกับออกมาจากระบบอัตโนมัติ บาริสต้าวัยรุ่นหลังเคาน์เตอร์ผงกหัวขึ้นมองเขาเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มบางๆ ให้
'ขอชื่อด้วยครับ'
เขารู้ว่าอีกฝ่ายถามไปอย่างนั้นเอง ระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็มที่ต้องรับออเดอร์เวนติอเมริกาโน่จากลูกค้าคนเดิมเกือบทุกครั้งทำให้ทั้งสองพอจะจำชื่อกันและกันได้บ้างแล้ว... เขารู้ว่าพนักงานเด็กหนุ่มอายุไม่เกินยี่สิบห้าซึ่งประจำอยู่สาขานี้.. นอกจากคนที่ตะโกนดุเขาเมื่อเย็นวันฝนตก เป็นเจ้าของชื่อฟินน์
'แจ็คครับ'
ชายหนุ่มคว้าบัตรเครดิตจากในกระเป๋าขึ้นเตรียมส่งไปตรงหน้า เมื่อเสียงฝูงชนภายนอกที่ลอดเข้ามาผ่านการเปิดประตูดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกถึงลูกค้ารายใหม่
ความวุ่นวายเรียกให้ต้องเหลือบไปมอง... หากผลของมันกลับหยุดชะงักทุกอย่างของเขาไว้
วินาทีนั้น ชายหนุ่มรู้ในทันทีว่าสตาร์บัคส์สาขานี้คงจะได้เงินจากเขาต่อไปอีกสักพักใหญ่ๆ
เพราะต่อให้ระยะห่างจากประตูร้านถึงหน้าเคาน์เตอร์จะห่างกันเป็นเมตร เขาก็ยังจดจำดวงตาสีฟ้าใสที่บัดนี้มีแววแปลกใจปนดีใจผสมรวมกันอยู่ได้เป็นอย่างดี
เด็กหนุ่มคนนั้น.. คนที่เขารอเจอมาเป็นอาทิตย์ จู่ๆ ก็ปรากฏตัวเหมือนเสกได้ในวันสุดท้ายที่เขาคิดว่าจะมาตามหา
บ้าไปแล้ว...
ชายหนุ่มพยายามรักษาสีหน้าให้นิ่งที่สุดโดยไม่หันมองเมื่ออีกฝ่ายเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ
'เอาเอิร์ลเกรย์ร้อนไซส์แกรนเด โนไซรัป... รับกลับ'
เสียงคำสั่งลอยผ่านหูขณะรับบัตรเครดิตคืน สองเท้าดูเหมือนจะอิดออดไม่อยากเดินเมื่อประโยคสุดท้ายบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้นั่งอยู่ที่ร้านต่อแบบตน.. อยากจะวกกลับไปเปลี่ยนออเดอร์ ถ้าไม่ติดว่ามีลูกค้ารายอื่นยืนอยู่ด้านหลัง และบาริสต้าอีกคนกำลังลงมือทำเมนูของเขาแล้ว
คนอะไรมันจะโชคร้ายได้ขนาดนั้นวะ...
2.5.
แก้วที่ปรากฏตรงหน้าเขาก่อนไม่ใช่มัคเซรามิคใส่กาแฟสีดำเข้ม แต่เป็นแก้วกระดาษสีขาวไซส์กลาง
'ชาเอิร์ลเกรย์ร้อนไซส์แกรนเดโนไซรัปของคุณทอมได้แล้วครับ'
เสียงตะโกนเรียกชื่อดังขึ้นจังหวะเดียวกับที่เด็กหนุ่มผมแดงคว้าเงินทอนและวิ่งปรี่ออกมายังอีกฟากเคาน์เตอร์
เขาเบี่ยงตัวเผื่อทางให้ คาดว่าเจ้าของชื่อทอมคงจะเดินออกไปทันทีหลังรับแก้วชาของตน
ทว่า อีกฝ่ายกลับหยุดชะงักเมื่อหันมาเห็นเขา...
'เอ่อ... ไม่ใช่แก้วของคุณใช่มั้ย?'
คำถามสั้นๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ... คราวนี้กลายเป็นฝ่ายชายหนุ่มบ้างที่ต้องหยุดชะงักทำอะไรไม่ถูกแทน
'ไม่ใช่ครับ เอ่อ แก้วนี้ของคุณ.. มันมีชื่ออยู่'
เขาอ้ำอึ้ง...
'ถ้างั้นก็โอเค' อีกฝ่ายพยักหน้ารับน้อยๆ 'คนชื่อทอมเยอะน่ะครับ เผื่อคุณจะชื่อทอม แล้วก็สั่งชาเหมือนกัน'
อธิบายพลาง รอยยิ้มแห้งๆ ที่เหมือนกับครั้งก่อนไม่มีผิดก็ปรากฏขึ้นตามไปด้วย...
'เอ่อ ก็คงจะอย่างนั้น...'
ทั้งที่ใจอยากพูดต่อ แต่การประมวลผลของสมองก็ดูจะขัดแย้งเสียเหลือเกิน... ว่างเปล่าไปหมด
'อเมริกาโน่ร้อนไซส์เวนติของคุณแจ็คได้แล้วครับ!'
การสนทนาถูกขัดขึ้นโดยเสียงเรียกของพนักงานตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มต้น
ชายหนุ่มลอบถอนหายใจ...
'ผมเองครับ' เขาหันไปรับแก้วกาแฟ ขณะที่ใจก็นึกหงุดหงิดกับความลนลานของตัวเอง
และคงจะหงุดหงิดอยู่อย่างนั้นอีกนาน ถ้าไม่ใช่เพราะ...
'เมนูเดิมเลยนี่?'
คำถามสั้นๆ ดังขึ้นโดยคนที่เขาคิดว่าน่าจะเดินออกไปไกลแล้ว
เจ้าของเมนูที่ว่าหันขวับ... ใช่ ทอมก็เดินห่างออกไปแล้วจริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่ชื่อของอเมริกาโน่ร้อนไซส์เวนติเป็นสิ่งที่ดึงให้อีกฝ่ายต้องหันกลับมาเสียก่อน
'นี่ก็เมนูเดิมเหมือนกัน...'
อีกฝ่ายว่าพลางชูแก้วในมือประกอบ ริมฝีปากแย้มยิ้มกว้างจนตาหยี คงด้วยความดีใจที่ตัวเองจำถูก
เพียงสั้นๆ เท่านั้น... ก่อนมืออีกข้างที่ว่างอยู่จะยกขึ้นโบกลาและหันหลังเดินออกไปจริงๆ
ปล่อยชายหนุ่มที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ด้วยอารามตกใจและสารพัดความรู้สึกปะปนกันทำอะไรไม่ได้นอกจากโบกมือตอบกลับ...
เขาถูกเด็กหนุ่มชื่อทอมคนนี้ทิ้งให้อยู่ตามลำพังกับอาการสติหลุดลอยอีกแล้ว เพิ่มจากเมื่อเย็นวันนั้นตรงที่ตอนนี้มีประโยค 'เมนูเดิมเลยนี่ ใช่มั้ย?' วนเวียนไปมาอยู่ในสมอง
กาแฟสีดำเข้มถูกยกขึ้นซด หากรสขมจัดของมันก็ทำให้ผู้ดื่มตื่นจากภวังค์ไม่ได้เสียแล้วในคราวนี้...
-2- fin
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in