เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
LuMark Short Fictionicypumpkin
At the Coffee Shop
  • Title: At the Coffee Shop
    Pairing: LuMark [Lucas x Mark]
    Genre: AU, Fluff, Romantic, Yaoi
    Author: icypumpkin
    --------------------------------------------------------







    Lucas W.: อยู่ไหนแล้ว 13.32


    M-A-R-K: กำลังไปร้านกาแฟ 13.33


    Lucas W.: เสร็จแล้วหรอ นี่เพิ่งพรีเซนต์เสร็จ อาจารย์กำลังจะให้ฟีดแบค 13.33


    M-A-R-K: ตั้งใจฟังสิครับ อย่ามัวแต่พิมพ์ตอบ 13.33


    Lucas W.: ครับ รอหน่อยนะ 13.34


    M-A-R-K: อื้อ ไม่ต้องรีบนะ เดี๋ยวอ่านหนังสือรอ 13.34


    M-A-R-K: หยุดพิมพ์ตอบแล้วฟังอาจารย์ไปเลย 13.34




    มาร์ค อีอมยิ้มให้กับหน้าจอโทรศัพท์และบทสนทนาที่เพิ่งจบไป เราเรียนคนละเซคกันแถมการจับฉลากกลุ่มพรีเซนต์ก็ไม่เหมือนกันอีก นั่นทำให้เขาพรีเซนต์เสร็จก่อน สำหรับเขาน่ะ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก มีก็แต่คนขี้กังวลเกินเหตุว่าจะทำให้เขารอนั่นแหละที่จะลนลานถึงได้กล่าวดักทางไปว่าไม่ต้องรีบร้อนอะไร เขาพกหนังสือนิยายติดตัวมาอยู่แล้ว เดี๋ยวอ่านรอฆ่าเวลายังได้




    “ไปไหนต่อ” เสียงเพื่อนสนิทอย่างอีดงฮยอกเอ่ยขึ้นทำเอามาร์คเงยหน้าจากจอโทรศัพท์



    “คาเฟ่ใกล้คณะนี่แหละ” มาร์คตอบก่อนจะชี้ไปคาเฟ่เล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลนัก



    “รอลูคัส?”



    “อื้อ ดงฮยอกล่ะ จะไปไหน” มาร์คตอบรับและถามกลับ



    “ยังไม่รู้เลย ว่าจะไปเล่นเกมส์แต่จีซองกับเฉินเล่อบอกว่าติดทำโปรเจค พวกพี่จอห์นนี่อยู่กลุ่มเดียวกับลูคัสก็แปลว่ายังไม่เสร็จ” ดงฮยอกร่ายยาวก่อนจะตบท้ายด้วยการถอนหายใจเฮือกใหญ่



    “หึ... ไปนั่งด้วยกันก่อนไหมล่ะ แล้วค่อยคิดว่าจะไปทำอะไรหรือจะกลับไปนอน” ชีวิตพวกเขาจะมีกันอยู่สักกี่อย่างกันเชียว เล่นเกมส์ ทำโปรเจค ตัดโม ปั่นงาน สอบ เที่ยวกลางคืน (ซึ่งข้อนี้ตั้งแต่คบกันมาร์คก็โดนลูคัสห้ามไปแล้ว) แล้วก็นอน



    “ไปนั่งกับมาร์คก่อนก็ได้ ถ้าเบื่อก็กลับไปนอน”





    “มิลค์เชคเพิ่มวานิลลาไซรัปครับ” มาร์คสั่งเมื่อมาถึงร้านกาแฟ



    “คาราเมลเฟรปปูชิโน่ครับ” ดงฮยอกสั่งต่อก่อนทั้งสองจะเลือกไปนั่งโต๊ะด้านในสุดที่ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก... ความจริง ในเวลาบ่ายแบบนี้ก็ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ยิ่งช่วงใกล้สอบแบบนี้ด้วยแล้ว



    “ถ้าง่วงก็นอนหรือจะกลับก่อนก็ส่งข้อความไว้เลยนะ พาวเวอร์แบงค์อยู่นี่ จะอ่านหนังสืออะ” ดงฮยอกโบกมือและพยักหน้าในเชิงรับรู้ก่อนจะเปิดเกมส์ในเครื่องตัวเองเล่น


    มาร์คเป็นพวกที่เวลาสนใจอะไรสักอย่างแล้วจะด่ำดิ่งลงไปในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะกับการอ่านหนังสือ เพราะฉะนั้นถ้าอีกฝ่ายอ่านหนังสือแล้ว ถ้าไม่จบเล่มหรือมีใครมาขัดก็จะจมอยู่ตรงนั้น ถึงได้พยายามอำนวยความสะดวกโดยการหยิบสิ่งของที่คิดว่าเขาจะใช้วางไว้ให้ก่อนเลย





    Lucas W.: มาร์คครับ 14.37



    Lucas W.: มาร์ค 14.37


    Lucas W.: Sent a sticker 14.37


    Lucas W.: Sent a sticker 14.37


    Lucas W.: Sent a sticker 14.38





    “มาร์ค ลูคัสทักมา” ดงฮยอกไม่ได้แอบมอง สายตาเขายังจดจ่ออยู่กับเกมส์ตรงหน้า แต่ก็พอเดาได้ว่าใครเป็นคนส่งมา รัวขนาดนี้คนที่วางโทรศัพท์ไว้ตรงหน้ายังไม่รู้สึกตัวเลย



    “มาร์ค...” เขาเตะเท้าอีกฝ่ายใต้โต๊ะด้วยว่ามือไม่ว่างจะสะกิด



    “หื้อ”



    “ลูคัสส่งข้อความมา” ดงฮยอกเหลือบตามอง เห็นรอยยิ้มกว้างของเพื่อนที่ส่งมาก็อดจะส่ายหัวให้กับนิสัยแบบนี้ไม่ได้



    เขากับมาร์คเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ได้อยู่ห้องเดียวกันเกือบตลอด พอสอบเข้ามหาลัยก็ดันได้คณะเดียวกันและมหาวิทยาลัยเดียวกัน เรียกได้ว่าแค่มองตาก็รู้ใจแล้วว่าคิดอะไรอยู่





    M-A-R-K: ว่าๆ โทษที มัวแต่อ่านหนังสือเพลิน 14.40


    Lucas W.: เพิ่งเสร็จ รออยู่ร้านเดิมใช่ไหม 14.41


    M-A-R-K: ใช่แล้ว 14.41


    Lucas W.: อยู่คนเดียวหรอ 14.41


    M-A-R-K: ไม่อะ ดงฮยอกอยู่ด้วย นั่งเล่นเกมส์อยู่ข้างๆ 14.42


    Lucas W.: เคครับ กำลังไปนะ รอแป๊ปนึง สั่งคาปูชิโน่เฟรปเป้ให้แก้วนึงได้ไหมอะ หมดแรง 14.43


    M-A-R-K: เดี๋ยวสั่งให้ มาถึงจะได้กินเลย 14.43


    Lucas W.: ครับ ไว้เจอกัน 14.43






    “เสร็จแล้วหรอ” ดงฮยอกถามขึ้น วางมือจากมือถือพร้อมดัดนิ้วไปมา



    “อื้ม กำลังมา” มาร์คตอบรับ เก็บหนังสือเข้ากระเป๋าเป้



    “งั้นไปละ”



    “เอ้า ทำไมไม่อยู่รอก่อนอะ” เสียงใสทักพร้อมมองหน้าคู่สนทนาตรงหน้า



    “รออะไรล่ะ นี่ก็อยู่รอเป็นเพื่อนมาร์คแล้วไง”



    “ไม่ใช่รอไปเล่นเกมส์กับพวกพี่จอห์นนี่หรอ” เพียงแค่นั้นดงฮยอกก็หัวเราะและยีหัวเพื่อนแผ่วเบา ปากนี่ยื่นออกมาจนน่าดึง



    “รู้ดี นัดกับพวกพี่จอห์นนี่ไว้ว่าจะไปเล่นเกมส์ เมื่อกี้ก็เพิ่งทักมา เห็นบอกโดนจวกยับ”



    “ลูคัสก็บอกเหนื่อย” มาร์คกล่าวถึงบุคคลที่คุยด้วยผ่านโปรแกรมแชทเมื่อสักครู่



    “น่าจะหนักทั้งกลุ่ม ไว้เจอกัน ฉันไปละ” ดงฮยอกลุกขึ้นคว้ากระเป๋า ตบลงเบาๆ ที่หัวเพื่อนสนิทเหมือนทักทาย



    “อื้อ ดงฮยอกตอนออกไปฝากสั่งคาปูชิโน่เฟรปเป้ให้ลูคัสหน่อย” มาร์คยิ้มกว้างพร้อมกับยื่นธนบัตรให้ดงฮยอก



    “คร้าบบบ ผมปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วนี่ครับคุณมาร์ค” ดงฮยอกแกล้งทำเป็นอ่อนน้อมรับเงินพร้อมโค้งให้มาร์คเสียยกใหญ่



    “กวนประสาท ฮี่ๆๆ ขอบคุณนะ” แม้จะพูดจาและทำท่าทางแบบนั้น สุดท้ายก็รับเงินและเดินไปให้ ยังไม่วายหันกลับมาโบกมือให้เขาอีกที





    “เหนื่อยมาก...” เสียงทุ้มพร้อมกับคนตัวสูงทิ้งกายลงเต็มแรงบนเก้าอี้ ลูคัสวางกระเป๋าไว้ข้างกายและดูดกาแฟในมือเสียอึกใหญ่



    “หึหึ หัวฟูหมดแล้วเนี่ย” เสียงใสว่าพร้อมหัวเราะในขณะที่มือก็เอื้อมไปจับผมสีน้ำตาลทองยุ่งเหยิงให้กลับเข้าทรง



    “ยับเลยอะ ยับ... ไม่มีชิ้นดี” มาร์คยิ่งหัวเราะให้กับคำพูดนั้น ไม่ใช่เพราะไม่สงสารลูคัสที่เพิ่งเสร็จจากการพรีเซนต์แต่ทั้งเสียงและสภาพใบหน้าตอนนี้ตลกไม่ไหวจริงๆ นานแล้วที่เขาไม่ได้เห็นคนพลังเยอะหมดแรงจนแทบจะไถตัวไปกับโต๊ะ ดวงตาคล้ำโหลเพราะไม่ได้นอนมาหลายวัน เสียงก็อ่อนระโหยโรยแรง



    “ไม่ขนาดนั้นเปล่า”



    “จริงๆ นะมาร์ค คืออาจารย์จวกจนไม่เหลืออะไรดีแล้วอะ คิดจะแก้กับขึ้นโครงใหม่นี่ยังไม่รู้เลยอะไรง่ายกว่า” พูดถึงตรงนี้คนตรงข้ามก็ก้มหน้าจนหน้าผากติดโต๊ะ



    “เพิ่งออกมาเหนื่อยๆ ยังคิดอะไรไม่ออกก็แบบนี้แหละ พวกพี่จอห์นนี่ว่าไงอะอยู่กลุ่มเดียวกันนี่”



    “ก็ไว้ค่อยคิด หน้าชาหัวแบลงก์กันทุกคนเลยตอนออกมา” 



    คนฟังทำได้แค่เพียงเอื้อมมือไปลูบผมนิ่มของคนตรงหน้าอย่างไร้คำพูด บางทีเรื่องแบบนี้ก็ไม่รู้จะปลอบยังไง แต่เดี๋ยวเราก็หาทางออกได้เองแหละ



    ไม่งั้นคงอยู่มาไม่ถึงตอนนี้... อีกแค่ปีเดียวก็จบแล้ว




    “เข้าใจแล้วทำไมพวกพี่จอห์นนี่ติดตัวนี้” มือกร้านคว้ามือเล็กที่ลูบผมเขามากุมไว้แทนก่อนจะก้มหน้านอนลงบนแขนของตัวเอง



    “อย่าคิดมากขนาดนั้น เดี๋ยวมันก็มีทางแก้”




    “แล้วมาร์คอะ เป็นไงบ้าง” คนถามเหลือบตาขึ้นมองแต่ร่างกายยังคงไม่ขยับ



    “ไม่โดนอะไรมากนะ ทำกับดงฮยอกก็แบบนี้แหละ” ความจริงก็โดนมาไม่น้อยแต่น่าจะไม่มากเท่าสิ่งที่คนตรงหน้าโดนมาแน่นอน



    “ทำไมอาจารย์โหดขนาดนี้ เอาจริงๆ เลย” ลูคัสถอนหายใจ เลื่อนจมูกไปสูดดมความหอมจากมือที่กอบกุมไว้และเปลี่ยนเอาแก้มมาวางบนมือมาร์คแทน



    “อ้อนจังเลย ปกติต้องเป็นเราอ้อนปะ”



    “วันนี้เหนื่อย ขออ้อนมาร์คแทนแล้วกันนะ” ลูคัสกล่าวยิ้มๆ และกลับมานอนในท่าเดิมกับตอนแรกอีกครั้ง





    “มาร์ค...” หลังความเงียบผ่านไปสักพัก เสียงทุ้มก็ทักขึ้น ตอนแรกมาร์คคิดว่าคนตรงหน้าหลับไปเสียแล้ว



    “อื้อ” เขาตอบรับ วางหนังสือนิยายที่อ่านอยู่ลง



    “ปิดโปรเจคนี้... ไปฝรั่งเศสกัน”



    “เอาจริง?” คนฟังเบิกตาโตพร้อมถามย้ำ ไม่ใช่ไม่อยากไป หากแต่ไม่คิดว่าลูคัสจะชวนไปก็เท่านั้น



    “จริงสิ เดี๋ยวกลับไปดูตั๋วกับโรงแรมกัน”



    เพราะลูคัสรู้ดีว่าฝรั่งเศสเป็นเมืองในฝันของมาร์ค... ความจริงก็ของใครหลายคนในสายนี้ สถาปัตยกรรมและแฟชั่นมากมายต่างเกิดจากที่นี่ทั้งสิ้น



    “ไปปารีสนะ” ไม่ได้เวอร์แต่อย่างใด แค่เห็นรอยยิ้มกว้างของมาร์คแบบนี้ ลูคัสก็รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย




    “แน่นอนอยู่แล้ว”




    END
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in