นึกถึงตอน ป.ตรีปีสุดท้าย
อยากเดินทางไกล ๆ
ปั่นจักรยานไปวงเวียนใหญ่
ขนจักรยานขึ้นรถไฟ
กระฉึกกระฉัก อ่านหนังสือไป
พับเก็บเมื่อถึงมหาชัย
ขนจักรยานลงแล้วรีบไป
นั่งเรือข้ามฟากขึ้นขบวนใหม่
กระฉึกกระฉัก รถแล่นไว
นั่นใบไม้ไหวระริกทักทาย
ลมเย็นกระทบผิวกาย
เย็นสบาย กายสบาย ใจสบาย
สักพักก็ถึงที่หมาย
แม่ค้าหุบร่มหลบรถไฟ
ขนจักรยานลงแล้วปั่นไป
ดอนหอยหลอดที่คนชอบหาทรัพย์ในผืนทราย
ป่าชายเลน โกงกางกางรากอารักษ์อ่าวไทย
ดูปลาตีนเตาะแตะเสือกไถล
ฟังเสียงกั้งดีดก้ามเสนาะใจ
เข้าอุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
แล้วแวะตลาดน้ำอัมพวาที่อยู่ใกล้ ๆ
เดินดมชมเพลินเที่ยวดูของขาย
เข้าบ้านครูเอื้อ ซึมทราบตำนานเพลงสุนทราภรณ์ ลูกกรุงไทย
บ่ายคล้อยก็กลับแม่กลองไปขึ้นรถไฟ
ถึงบ้านแหลม ข้ามฟากแล้วขึ้นขบวนท้าย ๆ
ระหว่างทางพบเพื่อนใหม่
เป็นสาวญี่ปุ่นสปี๊คอิงลิชทักทาย
เราแลกเปลี่ยนเรื่องราวมากมาย
ราวชั่วโมงจึงถึงสถานีสุดท้าย
อาสาไปส่งเธอที่บีทีเอสวงเวียนใหญ่
ปั่นจักรยานกลับบ้านอย่างอิ่มใจ
วันหลังจะเดินทางใหม่
เธออยากไปด้วยกันไหม
สักวันฉันจะพาเธอไป
ไปที่ที่เราจะเก็บสุขจนล้นใจ
13/7/2561
จักรยานของเราที่ขนขึ้นมาบนรถไฟ ต้นทางสถานีวงเวียนใหญ่
ถึงมหาชัยก็ขนจักรยานขึ้นเรือข้ามฟากไปสถานีบ้านแหลม
ริมทางรถไฟไปแม่กลองมีป่าชายเลน รถไฟวิ่งแหวกอากาศเกิดเป็นลมพัดใบไม้ไหวระริก
จากสถานีต้นทางบ้านแหลม นั่งมาสุดทางถึงสถานีแม่กลอง นักท่องเที่ยวยืนมุงถ่ายรูปรถไฟที่กำลังแล่นเข้าสถานี ขณะเดียวกันพ่อค้าแม่ขายก็หุบร่มหลบรถไฟที่แล่นเข้ามา เป็นที่มาของตลาดร่มหุบ (ตลาดแม่กลอง)
ปั่นจักรยานต่อไป ระหว่างทางเจอป้ายบอกทางไปดอนหอยหลอด
ถึงแล้ว เย่! ดอนหอยหลอด
แต่ช่วงที่ไปน้ำขึ้น เลยไม่ได้เห็นการเก็บหอยหลอด
ปั่นจักรยานต่อเจอป่าชายเลนข้างทาง แวะดูปลาตีนกับฟังเสียงกั้งดีดก้ามเสียหน่อย เสียงเพราะมาก
ปั่นต่อไปถึงตลาดอัมพวา แล้วก็ปั่นกลับมาขึ้นรถไฟที่สถานีแม่กลองไปวงเวียนใหญ่ เป็นอันจบทริป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in