เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
lost in translationan ordinary
[แปลเพลง] Taylor Swift - the last great american dynasty
  • Artist : Taylor Swift 

    Album : folklore 

    Song : the last great american dynasty



    เพลงนี้เป็นเพลงหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการถูกกดทับของผู้หญิงค่ะ โดยเทย์เลอร์ได้เล่าเรื่องราวของรีเบ็คก้าและบิลซึ่งเกิดขึ้นในปี 1947-1954 นำมาก่อนที่จะพาเข้าสู่เรื่องความอยุติธรรมที่ตัวเธอเองก็ประสบพบเจอในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง


    ตรงนี้เราว่ามันสะท้อนให้เห็นชัดเจนเลยทีเดียวนะคะ ว่าไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปี สังคมก็ยังคงมีข้อครหาต่อความสำเร็จของผู้หญิง ยังคงเบลมผู้หญิงก่อนเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไร


    เดี๋ยวเราจะเล่าเรื่องของรีเบ็คก้ากับบิลคร่าวๆก่อนตรงนี้ เวลาอ่านเนื้อเพลงจะได้ไม่งงกันเนอะ


    พื้นเพของรีเบ็คก้าคือเธอเป็นชนชั้นกลาง อาศัยอยู่ที่ St. Louis รัฐ Missouri ค่ะ ครอบครัวของเธอไม่ได้อบอุ่นเท่าไหร่ เธอเคยแต่งงานและหย่าร้างมาแล้วครั้งหนึ่ง ในปี 1947 เธอได้แต่งงานกับบิล พ่อหม้ายผู้เป็นทายาทของบริษัท Standard Oil บริษัทเชื้อเพลิงรายใหญ่ การแต่งงานครั้งนี้ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา หลังจากแต่งงานกัน ทั้งคู่ได้ซื้อบ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งใน Rhode Island ซึ่งภายหลัง บ้านหลังนั้นได้ถูกซื้อต่อโดยเทย์เลอร์ค่ะ ในปี 1954 บิลได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ เรื่องราวระหว่างทั้งสองก็จบลงเท่านี้

    ——————————————————————


    Rebekah rode up on the afternoon train, it was

    sunny

    Her saltbox house on the coast took her mind

    off St. Louis

    Bill was the heir to the Standard Oil name, and

    money

    And the town said "'How did a middle class

    divorcée do it?"


    รีเบ็คก้าขึ้นรถไฟเที่ยวบ่าย มันเป็นวันที่แดดจัด

    บ้านสไตล์ saltbox ริมหาดของเธอ ทำให้เธอพอจะลืม St. Louis ไปได้บ้าง

    บิลเป็นทายาทของบริษัท Standard Oil มีหน้ามีตา และเป็นเศรษฐี

    แล้วคนทั้งเมืองก็พากันพูดว่า “หญิงหม้ายชนชั้นกลางทำได้ยังไงกันเนี่ย?”


    The wedding was charming, if a little gauche

    There's only so far new money goes

    They picked out a home and called it "Holiday

    House"

    Their parties were tasteful, if a little loud

    The doctor had told him to settle down

    It must have been her fault his heart gave out


    งานแต่งงานน่าหลงใหลทีเดียว ถึงจะดูอึดอัดอยู่บ้าง

    ใครๆก็ว่า “พวกเศรษฐีใหม่ก็ไปได้ไกลสุดแค่นี้แหละ”

    พวกเขาเลือกบ้านหลังหนึ่งและเรียกมันว่าบ้านพักตากอากาศ

    งานเลี้ยงของพวกเขามีรสนิยมทีเดียว แม้จะอึกทึกไปหน่อย

    คุณหมอบอกให้บิลลงหลักปักฐานกับใครสักคน

    “มันต้องเป็นความผิดของหล่อนแน่ๆที่ทำให้หัวใจของเขาล้มเหลว


    And they said "There goes the last great

    American dynasty"

    Who knows, if she never showed up what

    could've been

    There goes the maddest woman this town has

    ever seen

    She had a marvelous time ruining everything


    และพวกเขาก็บอกว่า “นั่นไง เรื่องราวของชั้นชั้นนำผู้ยิ่งใหญ่คนสุดท้ายของอเมริกา” (ในที่นี้หมายถึงบิลซึ่งเป็นเศรษฐีผู้ร่ำรวย)

    “ใครจะรู้ ถ้าไม่มีหล่อนสักคนเรื่องราวจะเป็นไปยังไง”

    “นั่นไง ผู้หญิงที่บ้าคลั่งที่สุดเท่าที่ใครๆในเมืองนี้เคยพบเจอเลย”

    “เธอคงมีช่วงเวลาที่วิเศษมากเลยล่ะสิ ได้ทำลายทุกๆอย่างสมใจแล้วน่ะ”


    Rebekah gave up on the Rhode lsland set

    forever

    Flew in all the Bitch Pack friends from the city

    Filled the pool with champagne and swam with

    the big names

    And blew through the money on the boys and

    the ballet

    And losing on card game bets with Dalí


    รีเบ็คก้ายอมแพ้กับบ้านใน Rhode Island ไปตลอดกาล

    โบยบินไปกับกลุ่มเพื่อนสาวไฮโซในเมือง

    เติมเต็มสระว่ายน้ำด้วยแชมเปญ ว่ายน้ำเล่นกับเหล่าคนดัง

    ผลาญเงินไปกับหนุ่มๆและธุรกิจบัลเลต์

    และแพ้เกมไพ่ที่พนันไว้กับดาลี่


    And they said "There goes the last great

    American dynasty"

    Who knows, if she never showed up, what

    could've been

    There goes the most shameless woman this

    town has ever seen

    She had a marvelous time ruining everything


    และพวกเขาก็บอกว่า “นั่นไง ชั้นชั้นนำผู้ยิ่งใหญ่คนสุดท้ายของอเมริกา”

    “ใครจะรู้ ถ้าหล่อนไม่มาที่นี่เรื่องราวจะเป็นยังไง”

    “นั่นไง ผู้หญิงที่ไร้ยางอายที่สุดเท่าที่ใครๆในเมืองนี้เคยพบเจอเลย”

    “เธอคงมีช่วงเวลาที่วิเศษมากเลยล่ะสิ ได้ทำลายทุกๆอย่างสมใจแล้วน่ะ”


    They say she was seen on occasion

    Pacing the rocks staring out at the midnight

    sea

    And in a feud with her neighbor

    She stole his dog and dyed it key lime green


    Fifty years is a long time

    Holiday House sat quietly on that beach

    Free of women with madness, their men and bad habits

    and then it was bought by me


    พวกเขาบอกว่าได้เจอเธออยู่บ้าง

    เดินอยู่แถวๆโขดหิน เหม่อมองไปยังทะเลยามเที่ยงคืน

    หล่อนสร้างศัตรูกับเพื่อนบ้านไปทั่วเลยล่ะ

    แถมยังขโมยหมาของเขาไปย้อมเป็นสีเขียวมะนาวด้วย (อันนี้เว่อมาก แสดงให้เห็นถึงความเป็นตำนานพื้นบ้านที่เล่ากันปากต่อปาก ถูกใส่สีตีไข่จนเรื่องราวบิดเบือนไปตามกาลเวลาค่ะ)


    ห้าสิบปีเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน

    บ้านพักตากอากาศหลังนั้นตั้งอยู่อย่างเงียบเหงาริมชายหาด

    ปลดปล่อยหญิงสาวจากความบ้าคลั่งและพวกผู้ชายนิสัยห่วยๆ

    แล้วในที่สุดมันก็ถูกซื้อโดยฉันเอง


    Who knows, if I never showed up what could've been

    There goes the loudest woman this town has

    ever seen

    I had a marvelous time ruining everything

    I had a marvelous time

    Ruining everything

    A marvelous time

    Ruining everything

    A marvelous time

    I had a marvelous time


    ใครจะรู้ ถ้าไม่มีฉันจะเกิดอะไรขึ้น

    นี่ไง ผู้หญิงที่น่ารำคาญที่สุดในเมืองนี้

    มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษสุดๆ ได้ทำลายทุกๆอย่าง

    ฉันว่ามันคือช่วงเวลาดีๆนะ

    ทำลายทุกอย่างไปเลย

    ช่วงเวลาอันยอดเยี่ยม...

    ทำลายมันให้สิ้นซาก

    ช่วงเวลาแสนวิเศษ

    ฉันมีช่วงเวลาที่แสนวิเศษ


    (ตรงนี้คือเหมือนว่า สิ่งที่เทย์พบเจอมานั้นไม่ต่างจากที่รีเบ็คก้าเจอเลย เทย์ก็เลยแบบ ก็ฉันนี่แหละ คนที่ทุกคนด่าว่าเป็นผู้หญิงร้ายๆ จะทำลายมันทุกอย่างเลย ทั้งกรอบที่กำหนดอัตลักษณ์ของผู้หญิงดีๆ ทั้งความไม่เท่าเทียมทางเพศที่ผู้หญิงต้องพบเจอ เธอจะทำลายมันให้หมด และนี่คือช่วงเวลาที่วิเศษสำหรับเทย์ค่ะ)


    (อ้างอิงเนื้อเพลงจาก Genius)


    ——————————————————————


    คำศัพท์และสำนวนต่างๆในเพลงนะคะ


    • take mind off (v.) หมายถึง ลืมหรือหยุดนึกถึงเรื่องราวแย่ๆ
    • divorcée (n.) หมายถึง หญิงหม้าย
    • gauche (adj.) หมายถึง ความประหม่า อึดอัด เหมือน awkward เลยค่ะ อาจจะหมายถึงเชย ไร้รสนิยมได้ด้วย
    • settle down (v.) หมายถึง ตั้งรกราก, แต่งงาน, ใช้ชีวิตอย่างมีระบบระเบียบ
    • give out (v.) หมายถึง หยุดทำงาน
    • dynasty (n.) หมายถึง ผู้ปกครอง (rulers not parents), ราชวงศ์
    • marvelous (adj.) หมายถึง มหัศจรรย์, วิเศษ
    • blow through money (idm.) หมายถึง ใช้เงินอย่างรวดเร็ว

    รูปภาพประกอบความเข้าใจค่ะ!!

    “saltbox house”

    “key lime green”



    สวัสดีค่ะ

    :)

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Arocha Pipatwatcharanon (@bestzy.hamter)
ล็อกอินเข้ามาชมคนแปลเลยค่า :)
sharyown (@sharyown)
ไม่คิดว่าจะมีคนแปลเพลงนี้ละเอียดขนาดนี้ค่ะ เราฟังอัลบั้มนี้หลายรอบมาก ไปๆมาๆกลายเป็นชอบเพลงนี้เป็นอันดับต้นๆเลย เราว่าเนื้อหามันน่าสนใจมากค่ะ แล้วพอยิ่งทราบสตอรี่อีก ยิ่งชอบเลย คนอะไรสามารถหยิบยกทุกอย่างที่ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ทำอะไรให้กับมันไม่ได้กลับมาทำให้มันมีอะไรได้ เก่งจริงๆผญ.คนนี้
#ขอบคุณสำหรับคำแปลและบทความดีๆนี้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ :))
an ordinary (@kkaoeii)
@sharyown แงงง ขอบคุณมากๆเลยนะคะ คอมเม้นต์คุณคือกำลังใจชั้นยอดเลย♡♡