เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
untitled diary.เมอคิวรีย์.
I don't know ?
  • เสียงลมหายใจที่ดังขึ้นของผู้คนบังคับให้ผมต้องเบิกตากว้างขึ้นอีกครั้ง 

    เบื้องหน้าของผมเต็มไปด้วยผู้คนแปลกหน้าที่จำเป็นต้องมาอาศัยอยู่ด้วยกันบนพาหนะที่ถูกขับเคลื่อนไปบนราง

    ผมมักรู้สึกประหม่าทุกครั้งเมื่อตกอยู่ในสถาณการณ์เช่นนี้

    เพราะไม่รู้เลยว่าควรบังคับสายตาของตัวเองให้อยู่ในตำแหน่งใด จึงจะเหมาะสมและสมควร

    ผมจึงระงับอาการประหม่าครั้งนี้ลงอีกครั้ง ด้วยการทำให้ตัวเองผมกับความมืดตามเคย

     

    หากแต่ครั้งนี้ผมไม่สามารถ หลับตาลงด้วยความรู้สึกเช่นทุกที

    มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น และสิ่งนั้นกำลังรบกวนจิตใจของผมอยู่

    ผมถามตัวเองว่าสิ่งนั้นคือสิ่งใด ?

    ผมไม่เจอคำตอบที่ผมตามหา

     

    ผมเบิกตากว้างขึ้นอีกครั้ง

    ครั้งนี้ผมกลับได้พบคำตอบผ่านภาพของคู่รักที่อยู่เบื้องหน้า

    ทั้งคู่กำลังหยอกล้อกันด้วยความสนุกสนาน

    ผมกวาดสายตาไปรอบๆ

    และผมก็เห็นภาพคู่รักอีกคู่ที่กำลังโอบกอดกัน

     

    เมื่อได้คำตอบผมจึงปิดตัวเองลงอีกครั้ง

    ผมถามตัวเองทำไมผมถึงถูกรบกวน

    โดยคู่รักสองคู่ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรในชีวิตผมเลย

     

    และแล้วผมก็พบคำตอบ

    สิ่งนี้ติดอยู่ในหัวผมมาหลายวัน

     

    ผมมีคนรักของผม

    เราพบกันเมื่อกลางปีก่อนความรักของเราราบรื่น และน่าอัศจรรย์

    เราเข้ากันได้โดยแทบไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรในตัวเอง ดั่งจิ๊กซอว์ที่ลงล็อคกันได้พอดิบพอดี

    เราไม่เคยมีปากมีเสียงหรือทะเลาะกันเลย แม้แต่ครั้งเดียว

    แน่นอนว่ามีบ้างที่เราจะเจอเรื่องที่เราทั้งคู่เห็นต่างกัน

    แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้ง ผ่านการพูดคุยกันของเราทั้งคู่

     

    ผมรู้สึกรักเธอมาก

    เป็นความรักที่ผมปรารถนา

    เป็นความรักที่บริสุทธิ์ใจต่างคนต่างช่วยเหลือและผลักดันซึ่งกันและกัน

    เรามักพูดคุยและแลกเปลี่ยนกันอยู่บ่อยครั้ง

    หลายเรื่องที่เราพูดคุยกันทำให้เราได้ค้นพบและรู้จักกันและกันมากขึ้น

     

    เรารักและไว้วางใจกันมาก

    ถึงขนาดที่ผมพาเธอมาเจอครบครัวของผม

    ครอบครัวเธอและผมต่างเปิดใจยอมรับ และเอ็นดูเราทั้งสอง

     

    เพราะปัจจัยหลายอย่างนี้

    ทำให้ผมค้นพบว่าเธอเป็นพื้นที่ปลอดภัยของผม

    และทำให้ผมรู้สึกว่าระยะเวลากว่าครึ่งปีนี้

    ช่างมีความหมายกับชีวิตของผม

     

    ทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทาง

    เว้นแต่ช่วงเดือนนี้ที่ผมกลับรู้สึกต่างออกไป


    เดือนนี้เป็นเดือนที่ชีวิตผมกำลังเติบโต

    ผมเริ่มกลายมาเป็นนักศึกษาฝึกงาน

    มีอะไรหลายสิ่งอย่างที่ต้องเผชิญและรับผิดชอบ

    การทำงานสร้างความเหนื่อยล้าให้ผมไม่น้อย

    ไม่เพียงแต่ความเหนื่อยล้าทางกายแต่ภายในใจนั้นกลับรู้สึกเช่นเดียวกัน

    และแน่นอนสิ่งที่ตามมาสิ่งที่ผมเคยคิดว่าคงไม่มีทางเกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้นกับความรู้สึกของผม

     

    ความเหนื่อยล้าที่ไม่เพียงแต่สร้างปัญหาทางร่างกายและจิตใจ

    มันเริ่มแสดงท่าทีในช่วงสัปดาห์แรกของการฝึกงาน

    ผมเริ่มรู้สึกอยากพูดคุยและพบปะกับคนอื่นน้อยลง

    ในห้วงความคิดของผมมีแต่เรื่องงานที่ผมจำต้องรับผิดชอบ

    ผมมักมีอาการพูดไม่ออกเมื่อต้องพูดคุยกับเธอ

     

    เวลาผ่านไป1 สัปดาห์

    เรายังได้พบเจอกันอยู่บ่อยครั้งยังได้พูดคุย ได้มีช่วงเวลาหลังเลิกงานด้วยกัน

    ทุกอย่างดูปกติไร้ปัญหา หากแต่เพียงตัวผมที่ค้นพบว่ามีอะไรที่ไม่เหมือนเดิม

     

    ผมเริ่มรู้สึกอยากใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น

    อยากที่จะมีเวลาคิดและตรึกตรองด้วยตัวคนเดียว

    ผมกลับมารักสันโดษอีกครั้งเริ่มอยากที่จะไปไหนมาไหนเพียงตัวคนเดียว

    คำพูดชื่นชมขากเธอในหลายๆ ครั้งทำให้ผมไม่ได้รู้สึกดี

    และบางครั้งผมรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับคำชมเหล่านั้น

     

    สุดท้ายแล้ว

    ผมไม่อาจรู้ได้เลย

    ความรู้สึกในครั้งนี้เป็นความรู้สึกจริง ๆ ของผม

    หรือเป็นแค่เพียงอารมณ์ชั่วคราวที่แค่แวะผ่านมาทักทาย

    ผมไม่รู้เลย

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in