เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อ่านแล้วเล่าFayathi Sorap
อ่านแล้วเล่า : อเมริกาใต้ ปายคนเดียวไม่เดียวดาย
  • ผู้เขียน : สุธาสินี ไกรดาราธิกร
    สำนักพิมพ์ : geek book
    จำนวนหน้า : 320 หน้า
    ราคา : 340 บาท


         สวัสดีวันศุกร์ค่ะคุณผู้อ่าน

         พรุ่งนี้วันเด็กค่ะ ใครมีลูกมีหลานวางแผนไปเที่ยวไหนกันหรือเปล่าคะ 

         ส่วนเด็กโข่งอย่างเราไม่ไปแย่งน้องขับเครื่องบินหรอกค่ะ พออายุมากขึ้นไม่ชอบคนเยอะๆ ขอที่สงบๆอยู่ในที่ตัวเอง ดีที่สุด


         ว่าแล้วก็อ่านหนังสือวนไป พรุ่งนี้เด็กไปเที่ยว ส่วนวันนี้เราขออ่านหนังสือท่องเที่ยวละกัน เลือกหนังสือเกี่ยวกับประเทศที่ยังไม่เคยไปมาอ่านดีกว่า

         หนึ่งในทวีปที่เรายังไม่เคยย่างเท้าเข้าไป คือ อเมริกาใต้ เพราะฉะนั้นหนังสือท่องเที่ยวทวีปอเมริการใต้ จึงเป็นหนังสือที่เปิดโลกทรรศน์ให้เราได้

         วันนี้แนะนำเล่มนี้ค่ะ "อเมริกาใต้ ปายคนเดียวไม่เดียวดาย"


         หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกการเดินทางของคุณสุธาสินี ไกรดาราธิกร เธอมีชื่อเล่นว่า ปาย และแน่นอนตามชื่อเรื่อง ทริปการเดินทางครั้งนี้ เธอไป "คนเดียว" และทวีปอเมริการใต้ ที่ว่านี้ ก็ประกอบไปด้วย คิวบา โคลอมเบีย เอกวาดอร์ เปรู โบลิเวีย ชิลี อาร์เจนตินา และบราซิล เป็นการเดินทางแบบมีแผนบ้าง ไม่มีแผนบ้าง ที่แน่ๆคือ คุณปายวางแพลนไว้เองคนเดียวล้วนๆ และไปคนเดียวโดดๆ ขึ้นเครื่องบิน ลงรถ โดดเรือ ขึ้นเหนือ ล่องใต้ แบบเกือบครบทั้งทวีป และเท่าที่อ่านดู เธอยังมีแพลนที่จะเดินทางต่อไปทวีปอื่นอีกด้วย เป็นการเดินทางที่โหด มัน ฮา มากจริงๆ


         การเดินทางคนเดียวเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของชีวิต และการอ่านหนังสือเล่มนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงแรกๆ ก็ทำให้รู้สึกว่า เฮ้ย เราอยากวางแผนไปเที่ยวคนเดียวบ้างจังเลย จากการอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้รู้ว่านักเดินทางนั้นไม่เคยเดียวดาย เพราะคุณจะไปเจอคนที่ไปคนเดียวอีกมากมาย ที่พร้อมร่วมทางไปกับคุณ แม้จะต่างชาติ ต่างภาษา ก็เข้ากันได้เพราะมีจิตวิญญาณของนักเดินทางที่ไม่ต่างกัน แถมบางช่วง คุณปายเธอยังเจอมิตรภาพที่เหมือนจะอยากข้ามเส้นแห่งมิตรภาพมา จนคนอ่านแอบร้องกรี๊ดๆจิ้นอยู่ในใจด้วย น่าเอ็นดู

         จนกระทั่งช่วงท้ายของหนังสือ ที่คุณปายเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญ นั่นคือ เธอถูกชิงทรัพย์ และสิ่งของอย่างหนึ่งที่เธอเสียดายที่สุดนั้นคือ รูปในกล้องถ่ายรูปที่โดนพรากไป โชคดีประการหนึ่งคือเธอรอดมาได้ แต่นั่นก็สร้างฝันร้ายให้ทั้งคนเขียนและคนอ่านไม่น้อยเลย พออ่านถึงตรงนี้แล้วเลยคิดว่า เอ้อ ถ้าจะไปคนเดียวจริงๆ เลือกประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัยหน่อยดีกว่า


         เช่นเดียวกับหนังสือท่องเที่ยวหลายเล่ม หนังสือเล่มนี้ก็สี่สีทั้งเล่มและเต็มไปด้วยภาพถ่ายสถานที่ต่างๆเช่นเดียวกัน ดูเพลินดี เห็นรูปสวยๆแบบนี้แล้วยิ่งแน่ใจมากๆเลยว่าคุณปายคงเสียดายขนาดหนักที่เมมโมรี่ถูกชิงไปตอนนั้น...


         เวลาที่เราบอกว่า เราอยากไปเที่ยวคนเดียวบ้างจัง จะมีฟีตแบคกลับมาอยู่สองแบบ หนึ่งคือ "ลองไปดูสิ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลยนะ" ส่วนอีกประเภทคือประเภทที่ทำหน้าเหยเกแล้วตอบกลับมาว่า "ไปทำไมคนเดียว??"
         เป็นคนหนึ่งที่อยากเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวเช่นกัน แต่ดันเป็นคนที่รายล้อมไปด้วยบุคคลที่ให้ฟีตแบคประเภทหลัง แถมตอนนี้อยู่ในช่วงวัยทำงาน งานรัดตัว ไปเที่ยวก็ไม่สะดวก
         แต่ก็ยังคงเลือกที่จะฝันอยู่ ฝันว่าตัวเองจะมีโอกาสไปเที่ยวคนเดียวบ้างสักวัน เพี้ยง ขอให้ปลดเปลื้องสิ่งที่ขัดขวางการเดินทางออกจากชีวิตได้เสียทีเถอะ

         เอาเป็นว่า ระหว่างที่ "แอก" ยังอยู่บนหลัง และสถานการณ์โลกก็ยังไม่เป็นใจอยู่แบบนี้ เราก็ควรจะหาข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวให้มากๆ ให้หลากหลาย และ "อเมริกาใต้ ปายคนเดียวไม่เดียวดาย" ก็เป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลที่ช่วยเปิดโลกทรรศแก่คนอ่านคนหนึ่งได้เป็นอย่างดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สักวันหนึ่ง เราจะได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศต่างๆในทวีปอเมริกาใต้ ตามรอยที่คุณปายได้ไปมาแล้วบ้าง
         สักประเทศ..สองประเทศ ก็ยังดี


         หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่ชอบอ่านหนังสือท่องเที่ยว เหมาะกับคนที่อยากหาข้อมูลประเทศในทวีปอเมริกาใต้ หรือกำลังวางแผนจะไปประเทศในทวิีปนี้อยู่ รวมไปถึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบเมสซี่ คลั่งไคล้เนย์มาร์ อยากไปดูงานคาร์นิวัลในบราซิล หรือแม้แต่อยากไปเยือนมาชูปิกชูสักครั้งในชีวิต
         ซื้อเก็บไว้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ค่ะ แม้หนังสือท่องเที่ยวทวีปอเมริกาใต้จะไม่ได้มีจำนวนมากเท่ากับหนังสือท่องเที่ยวประเทศยอดฮิตแบบญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ แต่เห็นทยอยออกมาเรื่อยๆแล้วเหมือนกัน

         ถ้าคุณผู้อ่านสนใจก็ไปทดลองอ่านดูนะคะ แล้วจะรู้ว่า "อเมริกาใต้" นั้น มีอะไรให้ค้นหามากกว่า "ฟุตบอล" กับ "สาวงาม" แน่นอนค่ะ


         สวัสดีค่ะ


         ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่
         https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html
         ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
         จนกว่าจะพบกันใหม่
         สวัสดีค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in