เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อ่านแล้วเล่าFayathi Sorap
อ่านแล้วเล่า : โลกหมุนรอบกลัว
  • ผู้เขียน : ผมอยู่ข้างหลังคุณ
    สำนักพิมพ์ : Geek Book
    จำนวนหน้า : 240 หน้า
    ราคา : 275 บาท


         สวัสดีค่ะ 

         ช่วงนี้บ้านเรากำลังมีงานใหญ่นะคะ เป็นการประชุมระดับโลกที่มีผู้นำชาติมหาอำนาจหลายชาติเดินทางมาเข้าร่วมด้วย ก็คือ การประชุม APEC นั่นเอง
         บรรดาอาหาร ดนตรี และวัฒนธรรมด้านต่างๆของชาติเรา จึงมีโอกาสออกมาอวดโฉมต่อสาธารณชนกับเขาด้วย นับเป็นเรื่องน่ายินดี 
         ขอให้งานนี้ลุล่วงไปด้วยดี ขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน 


         อย่างไรก็แล้วแต่ หนังสือที่นำมาเล่าวันนี้ เป็นอีกอารมณ์หนึ่ง... 
         ช่วยไม่ได้ ช่วงนี้ยัยคนเขียนสุขภาพจิตจัดว่าแย่ เจอเพื่อนร่วมงานทำพิษทางอารมณ์ ว่าแล้วเลยอ่านหนังสือดาร์กๆมันซะเลย  

         หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า "โลกหมุนรอบกลัว" ผู้เขียนคือ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ซึ่งเคยนำงานเขียนของผู้เขียนท่านนี้มาเล่าให้คุณผู้อ่านได้อ่านแล้วเล่มหนึ่ง นั่นคือ "ความสุขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้" 
         เห็นชื่อหนังสือเรื่อง "โลกหมุนรอบกลัว" ก็เกิดความสนใจขึ้นมาเลยค่ะ รู้สึกว่ามีชื่อที่แหวกแนวดี อยากรู้ว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร ยิ่งเห็นชื่อผู้เขียนว่าเป็น "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" แล้วยิ่งสนใจเข้าไปใหญ่ จึงลองซื้อมาอ่าน
         เมื่ออ่านจบแล้วก็พบว่า...


         "โรคหมุนรอบกลัว" เป็นหนังสือที่ให้ความสำคัญถึงเรื่องสองประเด็นด้วยกัน หนึ่งคือ เรื่องเหนือธรรมชาติ สองคือ ความกลัว

         สองเรื่องนี้เกี่ยวกับไหม เกี่ยวสิ ปกติเห็นอะไรเหนือธรรมชาติ จริงๆไม่ต้องเห็นหรอก แค่ได้ยินได้ฟังเรื่องราว แค่นี้ก็ทำให้หลายๆคนกลัวจนขนลุกแล้ว แต่ที่เพิ่งรู้คือ สองเรื่องนี้สามารถนำมาเชื่อมกันแล้วเขียนเป็นหนังสือได้ด้วยล่ะหรือ?
      

         ในหนังสือจะแบ่งเป็นสี่ส่วนหลัก ส่วนแรกชื่อว่า เตรียมใจ จริงๆก็คือเป็นอารัมภบทเริ่มต้นนั่นแหละ ส่วนที่สองชื่อว่า ทำใจดีๆ จะกล่าวถึงเรื่องของบรรดาวิญญาณทั้งหลายที่ได้รับการคัดเลือกมาแล้วว่าควรเขียนลงหนังสือเล่มนี้ ส่วนที่สามชื่อว่า ทำใจให้ดี ที่พูดถึงการเตรียมจิตใจเพื่อรับมือกับ เอ่อ ผี(?)และความกลัว และส่วนสุดท้ายมีชื่อว่า ทำใจให้หนักแน่น ที่กล่าวถึงปฏิกิริยาที่สังคมรอบข้างมีต่อเรื่องเหนือธรรมชาติและ/หรือเมื่อพบกับความสงสัยบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ เช่นปฏิกิริยาที่มีต่อผู้ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด อะไรแบบนี้

         เอ..ทำไมรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวมันเย็นๆลง..


         เป็นหนังสือที่อ่านแล้วชวนขบคิด เคร่งเครียด และทำให้ตาค้างได้อย่างมาก เรื่องเหนือธรรมชาติที่นำมาลงจากที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นในความเป็นจริงหรือจากในภาพยนตร์ต่างเชื่อมต่อกันได้อย่างไม่ติดขัด ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังชมสารคดีเร้นลับผสมเมดเลย์หนังผี
      
         และข้อคิดอย่างหนึ่งที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ก็คือ การตั้งคำถามกับความกลัว การตั้งคำถามกับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อเราพบกับสิ่งที่เราไม่รู้ เชื่อไหมว่าบางครั้ง สิ่งที่เราคิดว่าเป็นผีหรือเป็นซาตานอะไรนั้นน่ะ มันก็เป็นแค่จินตนาการที่หลอกปั่นหัวเราเองก็เท่านั้น
      
         นอกจากนี้ เรื่องที่ควรถูกตำหนิไม่ใช่การกลัวผี แต่คือการสนองตอบต่อความสงสัยอย่าง...ไม่ค่อยจะมีเหตุผล การที่เรารวมกลุ่มกันแล้วเฮละโลไปเล่นงานคนที่เราคิดว่าไม่ดี โดยที่ไม่มีเหตุผลใดๆรองรับหรือยืนยันเลยว่า เขาเป็นอย่างที่เชื่อจริงๆ เช่นการจับคนเผาทั้งเป็นเพียงเพราะเชื่อว่าเป็นแม่มดหรือติดต่อกับปีศาจ จะมีใครคิดบ้างไหมว่าการใช้กฎหมู่ทำร้ายคนอื่นแบบนั้น เราก็ไม่ต่างอะไรจากปีศาจเช่นกัน
      

         เป็นหนังสือที่เหมาะกับคนที่ชอบจิตวิทยาและชอบเรื่องผี และหากเคยดูหนังผีด้วย น่าจะอ่านแล้วอินมากขึ้น เพราะหลายเรื่องนั้นเป็นการหยิบฉากในหนังมาบอกเล่า ซึ่งเราไม่รู้จักเลย (ไม่ดูหนัง 55)

          เป็นหนังสืออ่านเล่นแนวดาร์คที่น่าจะทำให้เครียด แต่เป็นความเครียดคนละอย่างกับการอ่านงานที่หัวหน้ามอบหมาย
      
         ไม่เหมาะกับคนกลัวผี และไม่เหมาะจะอ่านคนเดียวตอนกลางคืนเงียบๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณรู้ว่าตนเองมีจินตนาการล้ำเลิศ อ่านอะไรแล้วนึกภาพในหัวได้เป็นฉากๆ เดี๋ยวอ่านก่อนนอนแล้วจะนอนไม่หลับเอา
         เว้นแต่อยากอ่านเผื่อจะรู้สึกว่า "หรือตอนนี้เราไม่ได้อยู่คนเดียว?" หรืออยากจะมีความฝันประมาณว่าวิ่งเล่นอยู่ในบ้านร้าง ก็..ได้ เอาไปอ่านให้จบแล้วนอนเลย แล้วเสี่ยงดวงดู
         ...ทำไปคนเดียวนะเราไม่เอาด้วย...

         (เหลียวซ้ายแลขวา) ดีนะเนี่ย ไม่ได้เขียนเรื่องนี้ตอนกลางคืน...


         สำหรับผู้ที่ชอบอะไรแนวผีๆ เราซื้อหนังสือเล่มนี้จากใน shopee ค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตามร้านหนังสือต่างๆมีหรือเปล่า ใครสนใจลองไปด้อมๆ มองๆ ถามๆ ตามร้านหนังสือแถวบ้านก่อนก็ได้นะคะ เผื่อจะได้ทดลองอ่านประกอบการตัดสินใจค่ะ 

         เป็นกำลังใจให้เราไม่เป็นบ้าไปเสียก่อนด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


         สวัสดีค่ะ 


         ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่ 
         ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
         จนกว่าจะพบกันใหม่
         สวัสดีค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in