เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อ่านแล้วเล่าFayathi Sorap
อ่านแล้วเล่า : ป้าเชื่อแบบนั้นจริงๆหรือครับ??
  • ผู้เขียน : หมอหมีผู้เหี้ยมโหด
    สำนักพิมพ์ : ต้นมะนาว
    จำนวนหน้า : 160 หน้า
    ราคา : 139 บาท

         

         ช่วงนี้หันไปทางไหนก็เจอแต่เรื่องเครียดๆนะคะ อย่ากระนั้นเลย มาหาหนังสือเบาสมองตลกขบขันอ่านกันดีกว่า 
         และหากใครไม่รู้ว่า เล่มไหนอ่านแล้ว(น่าจะ)ทำให้หัวเราะได้ แนะนำเล่มนี้ 

         ป้าเชื่อแบบนั้นจริงๆหรือครับ??


         เมื่อพูดถึงหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพซึ่งเขียนโดยแพทย์ เรามักจะนึกถึงหนังสือวิชาการเล่มหนาๆ มีศัพท์แพทย์มาเป็นระยะๆ มีศัพท์วิชาการยาวเหยียด อ่านแล้วต้องง่วงแน่ๆ
         เหรอ?
         ไม่เสมอไปหรอกนะ


         "ป้าเชื่อแบบนั้นจริงๆหรือครับ??" ก็เป็นหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ มีคุณหมอเป็นคนเขียน แต่ๆๆ ในเนื้อหาก็ไม่ใช่ศัพท์วิชาการจ๋าอะไรแบบนั้น มาดูตัวอย่างชื่อตอนก่อน เช่น
         - เป็นหวัดห้ามกินน้ำเย็น (นักภาษาศาสตร์ตีตายเลยเนี่ย น้ำต้องใช้กะ ดื่ม ตะหาก)
         - กุมารทองในท้อง (หะ???)
         - ผ่าตัดอวัยวะ ตายไปชาติหน้าเกิดมาไม่ครบ 32 (เดี๋ยวนะ...)
         - ซุปไก่สกัด
         - ฯลฯ
         เป็นยังไง แต่ละตัวอย่าง วิชาการมะ อ่านไปอ่านมานึกว่าไสยศาสตร์ มีชาตินงชาติหน้าอะไรด้วยเนี่ย
      

         จริงๆหนังสือเล่มนี้ก็เป็นสาระเกี่ยวกะสุขภาพน่ะแหละ และคนเขียนก็เป็นหมอจริงๆ(เหี้ยมโหดด้วย!) แต่คุณหมอแกไม่ได้เอารายงานวิชาการที่ไหนมาเขียน หากแต่เป็นบทความที่รวมมาจากความเชื่อและความเข้าใจแปลกๆที่คุณหมอแกเจอระหว่างรักษาคนไข้ จนเกิดอาการคันปากคันมือต้องจดยิกๆ เอ๊ย ต้องเขียนมันออกมาจนกลายเป็นหนังสือเล่มนี้ ด้วยความตั้งใจที่จะอธิบายว่า บางที...ความเชื่อของคนไข้เหล่านั้นน่ะ มันก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปหรอกนะ โดยจุดเริ่มต้นของงานชิ้นนี้ก็มาจากงานขีดๆเขียนๆในทวิตเตอร์ จนมาถึงในเฟสบุ๊คโดยใช้ชื่อ หมอหมีผู้เหี้ยมโหด และมาเป็นหนังสือเล่มนี้ในที่สุด


         จะว่าไป บางหัวข้อนี่ก็เป็นเรื่องที่พูดกันมากเชื่อกันมากจริงนะ อย่างตัวอย่างแรกน่ะ มันต้องมีสักคนสิน่าที่ตอนเด็กๆเป็นหวัดแล้วโดนแม่สั่งว่า "ต่อไปนี้ห้ามกินน้ำเย็น/ของเย็นๆจนกว่าหวัดจะหาย" แง ก็เขาอยากกินไอติม/น้ำแข็งใส/ชานมไข่มุกอะ
         คุณหมอยังโดนคุณแม่ห้ามเลย..ตอนเด็กๆ

         พอโตขึ้นมาและได้รับการศึกษาลึกซึ้งขึ้น คราวนี้เธอเลยมาเถียงว่า มันกินได้..ในบางกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่มีอาการอักเสบตามอวัยวะ เช่น ลำคอ การกินของเย็นๆสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและลดการระคายเคืองได้

         ...แต่จะว่าไป ตอนเป็นหวัดและเห่าไม่หยุด ทำไมยิ่งกินน้ำเย็นยิ่งเห่าหว่า???

         แต่ก็นั่นแหละ ข้อมูลของหัวข้อนี้เหมาะสำหรับเด็กๆในการเอาไปเถียงพ่อแม่เวลาเป็นหวัดได้
         ....ถ้าโชคดีพอที่จะเถียงชนะน่ะนะ...


         อีกหัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจ คือซุปไก่ ที่หลายคนเชื่อว่ามีประโยชน์มาก แต่คุณหมอก็ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่โฆษณากันในโทรทัศน์นั้น บางทีอาจไม่ได้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากไปกว่าอาหารพื้นๆ ราคาถูกบางอย่างเลยแม้แต่น้อย
         รู้สึกดีใจ เพราะไม่ชอบกินซุปไก่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่อร่อยแถมแพงอีกตะหาก 
      

         อีกหัวข้อที่อ่านแล้วสะเทือนใจ คือเรื่องน้ำยาล้างห้องน้ำ ซึ่งคุณหมอเธอเขียนถึงคนไข้ที่คิดฆ่าตัวตายโดยการดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าไป
         จริงๆเรื่องนี้ ถ้าดื่มแล้วตายเลยคงไม่กระไร ปัญหาคือ...มันไม่ตายเลยน่ะสิ
      
         เนื้อหาในตอนนี้จะเล่าถึงพิษสงของน้ำยาล้างห้องน้ำที่มีต่ออวัยวะภายในร่างกายหลังถูกลำเลียงผ่านหลอดอาหารเข้าไป ไม่ขอบอกรายละเอียดนะ แต่ใบ้ให้ว่า สยดสยองพอดูเชียวล่ะ ก็แหม สารเคมีน่ะนะ มันทะนุถนอมเนื้อเยื่อนุ่มๆของคนเราที่ไหนกัน

         คราวหน้าคราวหลังใครคิดตัดช่องน้อยแต่พอตัวก็ใช้วิธีอื่นเถอะ วิธีนี้ไม่แนะนำ

         แต่ถ้าจะให้ดี อย่าฆ่าตัวตายจะดีกว่า กว่าจะได้เกิดมาเป็นคน...ไม่ใช่ง่ายๆนะเฟ้ย


         และก็มีอีกหลายหัวข้อที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย


         โดยแต่ละตอนจะขึ้นชื่อหัวข้อก่อน จากนั้นจะเป็นการอธิบาย สอดแทรกด้วยการ์ตูนสามช่อง(นึกถึงขายหัวเราะ) และจบด้วยการสรุปเนื้อหาแบบไม่สั้นไม่ยาว เพื่อให้ง่ายแก่การนำไปใช้(หรือซึมเข้าหัว)
      

         หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย เพราะใช้ศัพท์แบบ...แบบที่เราๆท่านๆใช้ ไม่ใช่ศัพท์แพทย์ แถมเนื้อหาหลายๆเรื่องก็ยังเป็นเรื่องที่หลายคนสงสัยอยู่จริงๆเสียด้วย เรื่องหวัดกับน้ำเย็นนั่นเป็นตัวอย่าง

         ถ้าจะถามความเห็นส่วนตัว ต้องบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นสาระแบบเบาสมอง อ่านแล้วหัวเราะเอิ้กอ๊าก อ่านแก้เซ็งได้ขำๆ ทั้งนี้และทั้งนั้นเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล คุณผู้อ่านควรทดลองอ่านด้วยตนเองก่อนว่า หนังสือเล่มนี้ควรค่าแก่การวางในชั้นหนังสือของคุณหรือไม่

         และหากหลวมตัวซื้อมาอ่านแล้วล่ะก็


         ขอให้สนุกนะคะ 


         ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่

          https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html

         ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
         จนกว่าจะพบกันใหม่
         สวัสดีค่ะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in