เรื่องย่อหลังปกตู้เจ๋อเป็นแอนตี้แฟนคนหนึ่ง ก็เหมือนคำกล่าวที่ว่า "ผู้ชายไม่ร้ายผู้หญิงไม่รัก นักอ่านไม่โพสต์ใส่ร้าย นักเขียนก็มองไม่เห็น" จนนำมาซึ่งวังวนที่สุดแสนจะทรมานในการติดตามนิยายด้วยการโพสต์ใส่ร้ายและโพสต์แนะนำนิยายไปพร้อมกัน
แต่แล้ววันหนึ่งโพสต์ใส่ร้ายที่ตู้เจ๋อเขียนเกี่ยวกับนิยายเรื่องใหม่ "เลือดผสม" ก็ถูกนักเขียนเห็นเข้าโดยไม่คาดฝัน! นับแต่นั้นมาพระเอกผู้น่ารักอย่างซิวหนุ่มน้อยอัจฉริยะแห่งโรงเรียนเวทมนตร์ชั่วพริบตาเดียวก็ร่วงหล่นไปสู่ชะตาอันเลวร้าย สายเลือดแห่งอันแดดถูกปลุกขึ้นมาแอนตี้แฟนผู้น่ารักกระอักเลือดพุ่งเป็นสาย นักเขียนคุณชนะ!
สิ่งที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่ายังรออยู่ข้างหลังร้านหนังสือส่งนิยาย "เลือดผสม" ให้นักอ่านผิดกลายเป็นโดจิชิ Y ตู้เจ๋อที่สวนใส่แว่นสายตาและเครื่องช่วยฟังจึงข้ามมิติเข้าไปใน "เลือดผสม" อย่างไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ด้วยประกานฉะนี้
คุยกันหลังอ่าน
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราใช้เวลาอ่านนานมากค่ะ อ่านเล่ม 1 ก็น่าจะสองปีที่แล้วหรืออะไรทำนองนี้ได้ แล้วก็รู้สึกไม่ค่อยคลิก ทั้งๆที่จริงเราชอบพลอตทำนองนี้นะ ช่วงนี้ว่างๆเลยหยิบเซตนี้มาอ่านอีกรอบค่ะ อาร์ตเวิร์กของเซตนี้อลังการมากทีเดียวเพราะว่ามีร่างของพระเอกทุกร่างเลยย
ก็เรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซี ทะลุมิติ แนวเข้ามาในนิยายค่ะ พระเอกคือซิว เป็นพระเอกในนิยายเรื่องเลือดผสมที่ตู้เจ๋อตามอยู่ในเนต ตัวตู้เจ๋อเป็นนักอ่านสายแอนตี้แฟนที่ชอบเรียกร้องความสนใจกับนักเขียนแล้วก็สร้างชื่อเสียงในนักเขียนด้วยวิธีแปลกๆ (แปลกจริงๆ) จู่ๆวันนึงตู้เจ๋อก็เข้ามาในนิยายค่ะ ในนิยายนั้นซิวเดิมเป็นคนที่นิสัยดีมากสุดท้ายถูกคนทรยศจนหันหลังให้โลก สุดท้ายจะทำลายล้างโลก ตอนที่ตู้เจ๋อเข้ามา ซิวก็กลายเป็นคนที่หันหลังให้โลกไปแล้ว นายเอกของเราด้วยความที่เป็นนักอ่านก็พยายามเอาใจพระเอกสุดฤทธิ์ อยู่ข้างๆต่างๆนานา คือตู้เจ๋อก็หวังดีกับพระเอกอย่างใจจริงตามประสานักอ่านคนนึงที่เชียร์นั่นแหละ
เนื้อเรื่องแอบไปในทางเกมออนไลน์อยู่นะ แบบทำให้เรารู้สึกถึงบรรยากาศของเกมออนไลน์ แบบที่จะมีผ่านไปเป็นด่านๆ มีบอสของแต่ด่านๆ เนื้อเรื่องแต่ละช่วง มีหลายเผ่าพันธุ์อะไรแบบนี้ โดยเฉพาะช่วงปีนหอคอยยิ่งมีฟีลเกมออนไลน์ไปใหญ่เลยค่ะ มันคือการลงดันชัดๆเลยไม่ใช่เหรอ 55555
ด้านตัวละคร พระเอกเป็นสายคลั่งรัก ซึ่งก็ไม่น่าแปลกอะไร เพราะในโลกใบนี้มีแค่คนเดียวที่ไม่ทรยศพระเอกก็คือนายเอก แล้วก็เป็นคนเดียวที่อยู่กับพระเอกมาตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พระเอกก็เลยยึดติดนายเอกสุดๆ เรียกว่าทั้งชีวิตนี้มีสิ่งสำคัญอย่างเดียวก็คือคนคนนี้อะไรทำนองนั้นเลยแหละ
ฉากเอนซีเรื่องนี้ดุเดือด แล้วก็มีฉากที่ทำให้เราค่อนข้างกระอักกระอ่วนใจอยู่บ้างเหมือนกัน มันมีฉากที่ค่อนข้างรุนแรง (ซึ่งก็สร้างบาดแผลในใจนายเอกพอสมควร) แต่มันน่ากลัวจริงๆเลยนะ เราถึงขั้นรู้สึกว่ามันมีฟีลแบบ body horror อะ ในส่วนนี้เราไม่ค่อยชอบค่ะ บวกกับนิสัยพระเอกที่ค่อนข้างยึดติดแล้วก็ dominant ด้วยแล้วก็ยิ่งค่อนข้าง...
ซีนที่เราชอบคือตอนปีนหอคอย ในช่วงอาณาจักรสวรรค์อะ เผ่าพันธุ์สวรรค์ที่เก็บแสงมาจากสวรรค์ทีละชั้นๆ แล้วคนที่ไม่มีแสงก็ก่อกบฎขึ้นมา เอาจริงๆมันแอบเป็นการเปรียบเทียบกับโลกแห่งความเป็นจริงที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่เราก็ชอบมากๆ คือคนข้างบนจะทำขนาดนี้ไม่ได้ จะไม่เห็นคนข้างล่างไม่เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดนี้ไม่ได้ ไม่งั้นสุดท้ายมันจะพังลงมาด้วยกันทั้งหมด เราชอบประเด็นนี้มากๆ แล้วยังชอบกับดักของด่านนี้ ที่ข้าหลวงใหญ่ก็เป็นอดีตผู้ปีนหอคอยเหมือนกัน คือรู้สึกว่าแบบ...ว้าว เป็นพลอตที่เจ๋งดีนะ
อีกอย่างก็คือชอบการคลี่คลายประเด็นการที่โลกนี้เป็นแค่นิยายของเรื่องอะ ตอนที่ตู้เจ๋อเผชิญหน้ากับเทพผู้สร้างโลก หรือการที่ซิวทำลายโลก โอเคมันอาจจะดูเว่อๆไปบ้าง รวมถึงการที่ซิวทะลุมาอยู่ในโลกนี้
ซีนที่เราชอบอีกซีนคือฉากที่อี่เยี่ยจือชิวคุยกับบก.เรื่องสมองในโหลอะ สมองในโหลหรือภาษาอังกฤษคือ brain in a vat ซึ่งจริงๆก็เป็นปรัชญาเวอร์ชั่นร่วมสมัยของปรัชญาที่เคยมีการพูดกันมาแล้วในอดีตเช่นการอุปมาเรื่องถ้ำของเพลโต หรือถ้าได้ยินกันบ่อยๆในนิยายจีนก็คือ จวงจื่อฝันเป็นผีเสื้อ หรือผีเสื้อฝันเป็นจวงจื่อ
เราค่อนข้างชอบมาก โดยเฉพาะซีนสุดท้ายที่อี่เยี่ยจือชิวถามบก.ว่า รู้ได้ยังไงว่านี่ไม่ใช่นิยายอีกเรื่องนึง
เพราะว่าพวกเราที่เป็นคนอ่านย่อมรู้เรื่องนี้อยู่แล้วว่า นี่ก็คือนิยายอีกเรื่องนึงไง
สรุปก็คือ รวมๆเราไม่ได้ชอบขนาดนั้น ช่วงกลางๆรู้สึกว่ายืดย้วยอยู่บ้าง แต่ก็มีซีนที่ประทับใจในช่วงเล่มสุดท้ายหลายซีนค่ะ ก็คิดว่ารวมๆอ่านได้เพลินๆค่ะ
เรื่องย่อหลังปก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in