9.30 น. ก็แวะทรานซิสที่สนามบินมุมไบ (BOM) สูดหายใจเฮือกแรก แพ้ฝุ่นไปเลยจ้า ความจริงนี่เป็นครั้งแรกที่เดินทางแบบทรานซิส ตื่นเต้นเบา ๆ แต่ก็เดินตามป้ายและตามคนที่ดูเป็นนักเดินทางไปเทรคที่เนปาลเหมือนเรา เรานั่งเล่นรอไม่กี่ชั่วโมงก็ไปต่อ
ตามกำหนดการ เราควรจะถึงสนามบินตรีภูวัณประมาณบ่ายสองกว่า ๆ เราจำไม่ได้ว่าถึงตามเวลาไหม แต่กระเป๋าดีเลย์แน่นอน ดีเลย์ไปหลายชั่วโมงมาก พอถึงที่สนามบินเนปาล เราก็กรอกเอกสารขาเข้า โดยมีผู้ชายอิสราเอลหน้าตาดีคนหนึ่งหยิบเอกสารมาให้ประหนึ่งมาด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่ตรงหน้าเขาเหลือกระดาษแค่ใบเดียว พอเขายื่นให้เราเสร็จ เขาก็เดินไปหยิบของเขาเองตรงอื่นแทน น่ารักมาก แล้วเราก็แยกกัน
เสร็จแล้วก็รอเอากระเป๋า รอนานมากกกกก สนามบินนี้ค่อนข้างเล็กนะ ตรงที่เอากระเป๋าต้องแออัดกันหน่อย และชุลมุนพอประมาณ ซึ่งกระเป๋าเราดีเลย์หนักมาก หลังจากได้กระเป๋าก็รีบไปแลกเงิน และซื้อซิม เราซื้อของ Ncell ประมาณ 1,300 NPR และเจอผู้ชายอิสราเอลคนเดิมถามว่าจะเข้าเมืองไปยังไง เหมือนจะชวนหารด้วย แต่นี่ก็บอกที่พักจะมารับ เลยปฏิเสธไป และเราก็แยกกันอีกครั้ง
พอออกมาจากสนามบินก็เห็นฉากหน้าเป็นซีนสีส้มฝุ่น และคนขับรถแท็กซี่คอยถือป้ายเรียกผู้โดยสารเรียงราย เราเดินหาป้ายชื่อตัวเองนานมาก วนไปมาประมาณ 10 รอบ ไม่มีจ้า สรุปฉันโดนที่พักเท เพราะกระเป๋าดีเลย์ แท็กซี่แถวนั้นเลยเรียกมาถามว่าจะไปไหน เราก็เอาชื่อที่พักกับเบอร์โทรให้ดู เขาก็โทรไปหาที่พักนั้น แล้วบอกว่าคนขับรถของโรงแรมมารอแล้ว แต่กลับไปแล้ว ให้หาทางไปเอง ฟิลตอนนั้นคือแบบ เอ้า ไงต่อล่ะทีนี้ ซวยจริง
เราก็ไม่รู้หรอกว่าแท็กซี่นั้นโทรจริงเปล่า แต่ ณ จุด ๆ นั้นก็ทำไรไม่ได้ละ ไปกับนางก็ได้ ซึ่งรถเป็นแท็กซี่คันใหญ่ ๆ ต้องรอหารกับนักท่องเที่ยวคนอื่น พอหาคนหารได้เต็มก็ออกรถ
ถนนที่เนปาลไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฝุ่นฟุ้งตลอดทาง วิวอาคารบ้านเรือนข้างทางก็ดูมีความเป็นเอกลักษณ์ของเนปาลดี จากถนนใหญ่เริ่มเข้าไปในซอยแคบ ผู้คนพลุกพล่าน เราจะเห็นนักท่องเที่ยวเยอะมากขึ้น ตอนนั้นก็พอจะเดาได้ว่าเข้าสู่ย่านทาเมลแล้ว
ย่านทาเมล (Thamel) เป็นศูนย์กลางนักท่องเที่ยวของเนปาล ผู้คนมักมาแวะอยู่นี่ก่อนเดินทางไปโพคารา ที่นี่เลยมีที่พัก ร้านอาหาร และร้านขายอุปกรณ์เทรคกิ้งเยอะมาก ใครจะเลือกซื้อที่นี่ก็ได้เลย หลากหลายแบบ หลากหลายราคามาก หรือจะไปซื้อที่โพคาราก็ได้ มีเยอะเหมือนกัน
สุดท้าย แท็กซี่ปล่อยเราไว้กลางทาง และบอกว่าเดินไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว
แต่...ฉันหาไม่เจอจ้า ทางคือซอกแซกมาก เราเดินหลงไปมานานมากจนเหนื่อย ระหว่างนั้นจะมีคนคอยเรียกให้ไปพักไปส่งตลอด ต้องใจแข็งหน่อย จนสุดท้ายเราไม่ไหว เลยเข้าไปถามทางคนหนึ่ง เขาขอเบอร์โทรที่พักและโทรไปที่พักของเรา แล้วบอกเราว่าเขาได้ cancel ที่พักนั้นแล้ว ให้ไปกับเขาแทน ตรงนี้ต้องระวังให้ดี เพราะเราไม่รู้ว่าเขาโทรจริงไหม ยิ่งเขาพูดภาษาเนปาลด้วย เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาคุยอะไรกันจริง ๆ ถ้าไม่ระวังอาจโดนหลอกให้จ่ายสองรอบได้ ทางที่ดีปฏิเสธไปดีกว่า เราก็ปฏิเสธเขาไป
และโชคก็เข้าข้างเรา เราเจอผู้ชายอิสราเอลคนเดิม เจอกันบ่อยจนต้องถามชื่อละล่ะ เขาชื่อ Aviv เป็นนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คที่แพลนจะเที่ยวเป็นเดือน ซึ่งความจริง Avive คือผู้ชายที่นั่งบนเครื่องบินแถวเดียวกับเรา โดยมีผู้หญิงคั่นแค่คนเดียว นางเลยเห็นซีนที่แอร์มาถามอายุเรา แล้วก็แซวใหญ่
Avive ช่วยสะพายกระเป๋าหาที่พักให้เราจนเจอ เราแลก contact กัน แต่ไม่ได้นัดอะไรกันเพราะต่างมีนัดกันทั้งคู่ เราแซวกันว่าจะเจอกันอีกรอบไหมเนี่ย
ที่พักนี่อยู่ในซอกหลืบสุดฤทธิ์ ชื่อ Mitra Garden Inn ราคาคืนละ 294 THB ตอนกลางคืนน่ากลัวอยู่ แต่เราเข้าไปถึงช่วงเย็น เข้าไปแล้วบรรยากาศก็อบอุ่นดี เจ้าของที่พักน่ารักมาก เฟรนด์ลี่สุด เขาเอาชาดำมาให้ระหว่างรอเข้าห้อง ถามเราใหญ่เลยว่าจะไปไหนยังไง และช่วยให้ข้อมูลเราเต็มที่ เขาก็บอกว่าแท็กซี่โทรมาหาเขาจริง ๆ บอกว่าคนขับไปรอตั้งนาน เห็นไม่ออกมา เลยกลับมาก่อน เจ้าของที่พักชวนเราคุยนู่นนี่นั่นเหมือนกลัวเราเหงา 5555 และช่วยบอกเส้นทางท่ารถบัสไปโพคารา แล้วก็จองที่นั่งแบบออนไลน์ให้ ส่วนห้องพักก็ไม่มีอะไรพิเศษมาก มี 3 เตียง และมีเราคนเดียวนอน 3 เตียง
เราเก็บของอะไรเรียบร้อย กินยาแก้แพ้ 1เม็ด และติดต่อเพื่อนชาวเนปาล ชื่อ Dipend ซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนอีกที พอดีเพื่อนเรามีเพื่อนเนปาลที่ทำงานอยู่ที่ไทย เพื่อนเนปาลคนนั้นเลยฝาก Dipend มาช่วยดูเราอีกที Dipend มาหาแถว ๆ ที่พัก และเราก็ได้บังเอิญเจอ Aviv อีกรอบ ครั้งนี้เราทักทายกันนิดเดียวและแยกกันของจริง สรุปทริปนี้บังเอิญเจอ Aviv หลายรอบมาก ประมาณ 4-5 รอบได้เหมือนพระเจ้าส่งมาช่วย 555555 ต้องขอบคุณ Aviv มากจริง ๆ
Dipend พาแว้นมอเตอร์ไซต์ไปกินอาหารค่ำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งและแนะนำให้สั่ง Momo เราก็สั่งมาเป็นแบบต้มยำ อร่อยมาก คล้าย ๆ ขนมจีบผสมเกี๊ยวอยู่ในน้ำต้มยำ Dipend บอกว่า ตัวเขาเองยังไม่เคยไป abc เลย และพนันกันได้เลย ยูไปไม่ถึง abc หรอก เราก็ตอบว่าเดี๋ยวคอยดู!!!!!
โมโม่ เป็นอาหารเนปาลชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายซาลาเปาไซส์มินิ มีแป้งห่อไส้บาง ๆ คล้ายเกี๊ยวหรือขนมจีบ ด้านในใส่ไส้ได้หลายแบบทั้งไส้ไก่ หมู เนื้อต่าง ๆ และไส้ผักล้วน ซึ่งจะผสมเครื่องเทศแบบเนปาลไว้ในไส้ ทำให้รสชาติมีลักษณะเฉพาะตัว โมโม่เสิร์ฟได้หลายแบบ ทั้งแบบนึ่ง ทอด ใส่ในซุป และเสิร์ฟพร้อมกับซอสที่หลากหลาย ถ้าใครมาเนปาลแล้วไม่ได้ชิม ถือว่ามาไม่ถึงนะ ^^
หลังจากมื้ออาหาร Dipend พาเราเดินเล่นแถวนั้นท่ามกลางอากาศหนาวเย็นและฝุ่นฟุ้ง จุดพีคคือ เราจำทางกลับที่พักไม่ได้ ขนาดใช้แมพยังหายากเลย เนี่ย นิสัยไม่เคยจำทาง หลงแล้วหลงอีก พา Dipend หลงด้วย ดีที่เขาใจเย็น ค่อย ๆ พาเราหาทางกลับ เราลากับ Dipend และรีบพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางอีกไกล...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in