อย่างที่บอก วันนี้เราต้องทำเวลามาก เลยไม่ค่อยได้หยุดถ่ายรูป เราไปถึงที่ Chhomrong ตอนค่ำ และใช้เวลาเดินอีกนานมากกว่าจะถึงที่พัก คือที่พักอยู่บนยอดภูเขาน่ะ ตอนนั้นแอบคิดในใจ จำเป็นไหมที่ต้องพักสูงขนาดนี้ ทำไมไม่ถึงสักที ทั้งตากฝนหนัก ทั้งมืด ทั้งเหนื่อย ทั้งไอมากขึ้น เราเริ่มเดินช้าลง ช้ากว่าตอนขึ้น ABC อีก เราบอกไรอันว่าไปก่อนเลยไม่ต้องรอก็ได้ แต่ไรอันบอกว่าไม่เป็นไร เราไม่จำเป็นต้องรีบ ค่อย ๆ ไปพร้อมกันก็ได้ ต้องขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ใจเย็นรอเรา
พอถึงที่พัก เราก็ไปเอากระเป๋าและซื้อน้ำอุ่นอาบเลย (ราคาน้ำอุ่นประมาณ 100-150 NPR) ไม่อาบไม่ได้แล้ววันนี้ เปียกซกมาก กว่าจะอาบเสร็จก็นานหน่อย เพราะมันปรับอุณหภูมิไม่ค่อยได้ ต้องคอยปิดเปิดใหม่แล้วรออุณหภูมิที่เราโอเคเรื่อย ๆ
คืนนั้นสั่งข้าวเปล่ามากินกับปลากระป๋อง ไม่อร่อยมาก ๆ 55555 ไม่คิดว่าปลากระป๋องเย็น ๆ จะรสชาติแย่ขนาดนี้ คราวหลังจะไม่ทำแบบนี้อีก จะไม่แบกของกินไปแล้วววว
ก่อนนอนเราก็ไอหนักมาก น่าจะเป็นเพราะเจออากาศเปลี่ยนทั้งวัน ไอจนไรอันไลน์มาถามว่าโอเคไหม ยูไอหนักเกิ๊น เราก็ว่าโอเคแหละ แล้วก็หลับไป Zzzz
จำได้ว่าช่วงบ่ายวันนี้เข้าไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง ที่เป็นทางไปบ่อน้ำพุร้อน หมู่บ้านนี้สีสันเยอะ น่ารักดี เราวางกระเป๋าไว้ในหมู่บ้านนั้น แล้วเดินไปที่น้ำพุร้อนกัน ประมาณ 20 นาทีได้
เสร็จจากน้ำพุร้อน เราก็มากินมื้อกลางวัน มื้อนี้เรากินมันต้มอย่างเดียว เห็นแบบนี้อิ่มมากนะ อร่อยด้วย แต่เราปอกเปลือกช้าไปหน่อย ซอบินคงกลัวทำเวลาไม่ทัน เลยมาช่วยปอก
เส้นทางช่วงบ่ายเป็นทางขึ้นภูเขาแบบไม่มีวันจบ มีทั้งช่วงที่เป็นทางลูกรังโล่ง ๆ และช่วงที่มีต้นไม้ที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์ เริ่มเห็นเฟิร์นอยู่ข้างทางมากขึ้น พอมองหันกลับไปก็ยังเห็นหิมาลัยอยู่ไกล ๆ
พอข้ามสะพานตรงนี้ไปไม่นานก็ถึงที่พักเล็ก ๆ เราซักเสื้อ 1 ตัว และรอเวลากินข้าว เราสั่งข้าวผัดอะไรสักอย่าง คือให้มาเยอะมาก ยังพูดกับไรอันอยู่เลยว่าจะหมดไหม เพราะปกติกินนิดเดียว แต่สรุป หมดจ่ะ อร่อยมาก 55555
พอหลังกินข้าวเสร็จ ลูกหาบชวนกินเหล้าขาวของเนปาล เราก็กินไปนิดหน่อย เพราะไม่ใช่สายนี้ แล้วก็ไปนอน
ช่วงบ่ายเราเร่งเดินให้เร็วขึ้น และเจอฝนตกหนักบางช่วงจนต้องหยุดพัก เราแยกกับไรอันวันนี้ เพราะไรอันวางแผนการเดินทางไว้ 9 วัน ซึ่งจะต้องลงไปถึงข้างล่างให้ทันวันนี้ แต่เราแพลนไว้ 10 วัน เลยเหลือเวลาชิล ๆ อีกหนึ่งวัน
อีกอย่างเราอยากใช้เวลาคืนสุดท้ายกับวันสุดท้ายที่นี่ให้นานขึ้น อยากมีเวลาซึมซับบรรยากาศ และความรู้สึกเกี่ยวกับการเดินทางให้เต็มที่ด้วย
ช่วงประมาณบ่าย 3-4 โมง เราก็แยกกับไรอันที่ Deurali เราลาไรอันและลูกหาบของไรอันด้วยการบอกขอบคุณที่ดูแลกันและยินดีที่ได้เดินทางร่วมกันตลอด 8 วัน
หลังจากแยกกับไรอัน เราก็เข้าพักที่เกสต์เฮาส์ตรงจุดที่แยกกันทันที ถือว่าเป็นวันที่ได้พักเร็วที่สุด เรารีบเก็บของแล้วออกมานั่งเล่นด้านหน้า
บรรยากาศที่หมู่บ้านนี้สดชื่นและชุ่มฉ่ำ เพราะฝนเพิ่งหยุดตก เราเริ่มเห็นบ้านอิฐน้อยลง แถวนี้เป็นบ้านปูนผสมไม้ซะส่วนใหญ่ และเห็นหิมาลัยเป็นฉากหลังอยู่ไกล ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่าเรากำลังใกล้ถึงจุดสิ้นสุดการเดินทาง
ร่ำลารสชาติแพนเค้กเสร็จก็เริ่มออกเดินทางทันที เส้นทางวันนี้เดินง่ายมาก ๆ ส่วนใหญ่เป็นทางลงเขาและพื้นราบ แต่ที่ยากคืออาการเจ็บเข่าเวลาลงบันได ทำให้เดินได้ช้ากว่าที่ควร
เราเดินกันแค่ครึ่งวันก็ถึง Phedi ซึ่งเป็นจุดขึ้นรถกลับ เราเช่ารถกลับเหมือนเดิม ราคาแรงเหมือนเดิม ความจริงเหมือนมีรถประจำทางที่ราคาถูกกว่า แต่ก็กินเวลาเยอะมาก ตอนนั้นเราก็อยากถึงที่พักเร็ว ๆ เลยยอมเสียค่ารถไปเลยจบ ๆ
เรานั่งรถกลับมาที่ Phokhara และเอาถุงนอนไปคืนที่ร้านเช่า จากนั้นไปโฮสเทลที่จองไว้ เราลาซอบินกันที่นี่โฮสเทลนี้ ซอบินบอกว่าถ้ามีอะไรทักมาได้ตลอด เราให้ทิปซอบินไปนิดหน่อย ซึ่งความจริงคือตั้งใจจะให้มากกว่านี้ แต่ลืมให้! เพราะเงินที่แบ่งไว้ให้อยู่อีกกระเป๋า >< เลยคิดว่าเดี๋ยวส่งไปให้ทีหลัง
โฮสเทลที่เราจองไว้ ชื่อ Hotel Forest Lake Backpackers' Hostel จดชื่อไว้เลยค่ะ แนะนำมากโฮสเทลนี้ เป็นโฮสเทลที่ใหม่มาก สะอาดมาก และดูดีมาก คิดเป็นเงินไทยประมาณคืนละ 150 บาท
ห้องนอนและเตียงเป็นไม้สีอ่อน น่านอนมาก แถมวิวทะเลสาบสวยด้วย ห้องน้ำก็สะอาดมาก ๆ นี่ได้แต่เสียดายว่าทำไมไม่จองที่นี่ทั้ง 2 คืน และทำไมไม่ถ่ายรูปมามากกว่านี้ ถ่ายมาแต่ห้องส่วนกลางเนี่ย
ตอนเช็คอินเข้าที่พัก พนักงานบอกว่าเกิดวันเดียวกันเลย เราก็เออะ ทริปนี้เจอคนเกิดวันเดียวกัน 2 คนแล้ว เรื่องบังเอิญเยอะจังแหะ
พอเก็บของเสร็จ เราก็อาบน้ำเลย อาบให้สมกับที่ไม่ได้อาบมาหลายวัน 555 แล้วก็กินขนมกับข้าวที่เหลืออยู่ในกระเป๋าเป็นมื้อกลางวัน จากนั้นก็นอนพัก ชาร์จแบต ฟังเพลง เขียนไดอารี่สักพัก และนอนรอเวลาจนถึงเย็นค่อยออกไปเดินเล่น
พอตอนเย็นเราก็ออกไปเดินเล่นริมทะเลสาบ โชคดีที่จำทางตอนซอบินพาไปเมื่อตอนมาถึงได้ ส่วนวิวก็ไม่ต่างจากวันที่มาวันแรกเลย ฝนครึ้มมาเหมือนเดิม แต่เราชอบวิวริวทะเลสาบนี้นะ ดูเป็นที่ที่เหมาะกับการเตรียมตัวเริ่มต้นเทรคกิ้งและพักผ่อนหลังเทรคเสร็จจริง ๆ
ตอนเดินไปเกือบสุดทาง ฝนก็ตกหนักมาก เราเลยต้องหยุดรอฝนที่หน้าห้องน้ำสาธารณะ กลิ่นห้องน้ำกับอากาศชื้นนี่ไม่รื่นรมย์เท่ากลิ่นข้าวโพดปิ้งแน่นอน
พอฝนหยุด เราก็เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงโซนขายของที่ระลึก เราใช้เวลาซื้อของอยู่ที่นี่นานมากกกก ซื้อทั้งชา น้ำผึ้ง ภาพวาด โปสการ์ด พวงกุญแจ กำไล หรือแม้กระทั่งไพ่รูปหิมาลัย 5555 ไปรอบหน้านี่กะว่าจะไปหอบชากับน้ำผึ้ง และกำไลมาอีกเยอะ ๆ ดีมากและถูกมาก
ท้องฟ้าเริ่มมืด งบในกระเป๋าเริ่มหมด เราเลยตัดสินใจเดินกลับโฮสเทลดีกว่า ระหว่างทางก็แวะกินปอเปี๊ยะทอดเป็นมื้อเย็นที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง
เรากลับมานั่งเล่นตรงโซนส่วนกลางด้านนอกห้องพัก เห็นแบ็คแพ็คเกอร์หลายคนมานั่งคุยกัน บางคนก็นั่งเล่นดนตรีร้องเพลง บรรยากาศตอนนั้นชิวมาก เรานั่งซึมซับบรรยากาศจนพอใจ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ก่อนกลับเข้าไปคลุกฝุ่นที่เมืองหลวงต่อพรุ่งนี้
(มีต่อ)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in