มางานแต่งที ก็โพสรูปลงเฟทบ้าง ลงอินทราแกรมบ้าง บ่อยจนคนรู้จักหลายคน ถามว่าเมื่อไหร่จะเป็นงานของเราบ้าง #มองบน นี่คือคำถามยอดฮิตที่คนวัยสามสิบที่ยังโสดทั้งหลายโดนถามกันบ่อยมากที่สุด คนที่ไม่โสด(มีแฟน) ก็คงตอบไปว่า ยังไม่พร้อม ยังอีกนาน แต่สำหรับไอคนโสดอย่างเราเนี่ย บางทีก็เบื่อที่จะตอบเหมือนกันนะ เราก็เลยมีคำตอบที่เป็นคำถามกลับไปถึงคนถามเราตลอดว่า หาคนมาแต่งให้ได้ก่อนมั้ย? จบข่าว ปิดจ๊อบ ไม่มีคำถามตามมาแต่อย่างใด เงียบๆ แยกย้ายกันไปคุยเรื่องอื่น

เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ เป็นห่วงเรามาก โดยเฉพาะคนที่คอยติดตามเฟทบุ๊ค หรืออินทราแกรมของเรา จะมีคำถามบ่อยๆ ว่า มันเป็นเพื่อนเจ้าสาวเกือบทุกงาน แล้วถ้างานจริงๆ คงมีคนมางานเราเยอะแน่ๆ เอี๊ยดดดดด เบรกกันตัวโก่งได้เลยค่ะเพื่อน บอกแล้วว่า หาคนมาแต่งด้วยให้ได้ก่อนนะคะ อย่าเพิ่งคิดไปถึงเรื่องงานแต่งเลย แต่ถ้าถามถึงความรู้สึกของเรา เรายินดีเป็นอย่างมาก ที่เราได้รับเชิญให้ไปงานแต่ง ยิ่งยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้เป็นเพื่อนเจ้าสาว 

ไม่ใช่ว่าเผื่อฟลุ๊คได้เพื่อนเจ้าบ่าวมาเป็นแฟนหรอกนะ กรณีนั้นไม่เคยได้เกิดขึ้นในชีวิตการเป็นเพื่อนเจ้าสาวเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพื่อนๆ ที่รู้จักกันอยู่แล้วทั้งนั้น หรือไม่เพื่อนเจ้าบ่าว มันก็มีแฟนของมันอยู่แล้ว จบปิ้งกับนิยายน้ำเน่าที่เพื่อนเจ้าสาวมาเป็นแฟนกับเพื่อนเจ้าบ่าว แต่ที่เรายินดีปรีดาที่ได้รับเชิญนั้น เพราะว่าเรารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นคนอื่นรักกัน ยิ่งเป็นเพื่อนของเราแล้ว มันก็ยิ่งมีความสุข การได้เป็นส่วนหนึ่งของความสุขที่อยู่ตรงหน้า มันดีไม่ใช่หรือ 

ยิ่งการที่เราได้ช่วยงานแต่ง ไปช่วยเจ้าสาวแต่งตัว ไปช่วยเหลือในงาน ไปคอยรันคิวให้กับงานที่เพื่อนอยากจัดกันเองแบบไม่จ้างคนจัดงาน มันยิ่งทำให้เราภูมิใจ ว่าเราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เพื่อน หรือคนรู้จักของเรามีงานแต่งที่สมบูรณ์ และมีความสุข

งานล่าสุดที่ไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว (เป็นเพื่อนกับเจ้าบ่าวด้วย) เป็นเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันตอนมัธยมปลาย เคยเลิกแล้วกันไป แต่สุดท้าย ไอเจ้าบ่าวมันไปเจอเจ้าสาว แล้วยังรู้สึกรักอยู่ เลยมาขอไลน์ไอดีกับเรา ทำให้ทั้งสองได้เริ่มต้นสานสัมพันธ์กันใหม่จนกระทั่งได้แต่งงานกัน มันเป็นเรื่องที่เราเราก็ภูมิใจอยู่ไม่น่อยเลยทีเดียว และก็ยินดีมากๆ ที่เพื่อนของเราทั้งสองได้เติบโต และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ผ่านพ้นอุปสรรคมากมาย จนสุดท้ายก็ได้อยู่ด้วยกัน

จะบอกว่าเราไม่หวังอะไรจากการที่ได้มาเป็นแขกในงานแต่ง หรือจากการมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวก็ไม่ได้ เพราะสิ่งที่เราหวังที่จะได้จากการมางานแต่งนั้น คือซองกันประตู #ไม่ช่ายยยย คือการได้รับความสุขจากบรรยายกาศในงานที่มันอบอวลไปด้วยความรัก และการได้มองดูคนที่เรารัก หรือคนที่เรารู้จักเค้ามีความสุข นั่นคือสิ่งที่เราหวังมากที่สุด 

อุทิศเรื่องนี้ให้แก่เพื่อนที่เรารักที่ได้แต่งงานไปแล้วทุกคู่นะคะ แล้วก็คนโสด ไม่ต้องกลัวกับคำถามนั้นหรอกนะ ถ้ามันจะคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันหรอกค่ะ มันแค่ยังไม่ถึงเวลาของเราก็เท่านั้นเอง #ปลอบใจตัวเอง (๑>◡<๑)