เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
From Cern(เจิ้น) to CernYanisa Sunthornyotin
Day58: ยูนิคอร์นหาเรื่องอีกแล้วว

  • 30 กรกฏาคม


    วันนี้ได้แวะเข้าไปที่ออฟฟิสค่ะเพราะว่ามีตัวReportฝึกงานของทางมหาลัยที่ต้องการลายเซ็นของSupervisor มิ่งก็ไหนๆก็เข้าไปหาSupervisorแล้วอยากจะลองเลียบๆเคียงถามว่าโปรเจคที่ทำเนี่ย...เอาขึ้นProductionยังไง


    อันนี้คือถามเพราะว่าอยากรู้เฉยๆนะ

    เห็นsupervisorเงียบๆไปก็เกรงว่าเขาจะเป็นคนเอาขึ้นProductionให้ 


    แต่คือมิ่งก็ไปถามเขาไง55555

    เขาก็เลยอ่ะงั้นลองเอาไปDeployเองเลยมะ


    มิ่งก็อ่ะ...อ่อค่ะได้ค่ะ


    ระบบนี้ที่มิ่งไม่แน่ใจว่าจะใช้ดีรึเปล่ามิ่งต้องเป็นคนเอามันขึ้นเองจริงๆเหรอถถถถถ


    แล้วก็ได้ค้นพบความจริงข้อนึงค่ะ

    คือตัวPipelineของMLที่เราพัฒนาขึ้นมาเนี่ยมันสามารถใช้กับStreaming dataframeได้ด้วยนะทั้งยังรองรับModelของDeep learningจากKerasด้วย

    แบบใช้Modelที่เทรนจากข้อมูลเก่าแล้วเอามาPredictกับข้อมูลreal-timeได้เลย

    หากไม่ติดว่าตัวDataframeของเราจำเป็นต้องเป็นStatic(เอวังความStructured streamingไม่รองรับMultiple aggregationนี้)ก็คงจะรันได้ยาวๆแบบไม่ต้องมานั่งเขียนสคริปต์ดึงทุกวันแล้วค่ะ


    หนอย~


    เห็นคนเข้าไปสร้างticketในGithubแล้วต้องไปกดโหวตรัวๆ


    เห็นแก่ความดีงามของโลกใบนี้ทำให้มันเกิดขึ้นเถอะนะStructured streaming~


    แต่ก็นั้นแหละค่ะแปลว่าได้งานมาทำต่อช่วง2-3สัปดาห์ที่จะกลับแล้ว


    ทำได้ทำทันก็ดีทำไม่ได้ทำไม่ทันก็...โยนทิ้งไป\\ผิด

    รอคนมาทำต่อค่ะเผลอๆSupervisorอาจจะทำเองก็ได้ถถถถ


    แต่คิดว่าไม่ช้าก็เร็วมิ่งก็น่าจะได้ทำงานนี้อีกอยู่ดีอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจคจบด้วย

    เพราะคนที่ริเริ่มโยงโปรเจคของCERNเข้ากับโปรเจคจบที่ไทยก็คือมิ่งเองนี่นะ555 


    ...อืมหาเรื่องใส่ตัวจริงๆ


    จะได้เพิ่มแรงฮึดในการทำงานไงคะทั้งสองงานเลย


    พูดถึงเรื่องSenior projectเคยได้ยินข้อคิดเกี่ยวกับการทำโปรเจคจบมั้ยคะ?


    บางคนก็เคยได้ไว้กล่าวว่าทำอะไรก็ได้ที่เราจะไม่ทำอีกในอนาคต

    บ้างก็ว่าทำๆส่งไปให้จบๆ


    แต่สำหรับมิ่งดูเหมือนมันจะไม่ใช่แบบนั้นค่ะ


    มิ่งตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอยากจะส่งSenior projectตีพิมพ์ค่ะแล้วก็ต้องเป็น1st authorด้วย\\ตั้งเป้าไว้ซะสูงเลย5555

    เหตุผลหลักๆเลยก็คือเพื่อนำมาSupportการเรียนต่อ...พอดีอยากไปเรียนเมืองนอกอยากไปเรียนฮอกวอตส์เอ้ยOxfordค่ะ(เอวังIELTSยังไม่ถึง)


    แล้วการยื่นเรียนต่อนี้สำหรับสายScientific ส่วนมากก็คือต้องหาProjectที่อยากทำติดต่อSupervisorไว้ก่อนถึงจะดีค่ะ


    แล้วเค้าจะรับเราได้ยังไงถ้าเกิดว่าความสนใจเรามันไม่ตรงกันถ้าเกิดเราไม่มีประสบการณ์ในเรื่องที่จะไปทำมาก่อนเหมือนหาคู่นั้นแหละค่ะถ้ามันคลิ๊กกันก็ไปด้วยกันได้


    และข้อดีของการเรียนจบสายTechหรือComputer/Information/Electrical engineerมาก็คือสายงานนี้เหมือนเป็นทั้งToolsและBased Knowledge สามารถapplyได้กับหลายๆField ง่ายๆก็คือเป็นสายที่ค่อนข้างกว้างค่ะออกไปทำอะไรก็ได้ในScopeของTechnology


    อย่างที่เคยพูดไว้ในตอนก่อนๆใช่มั้ยล่ะคะว่ามิ่งอยากจะหาสิ่งที่เป็นExpertiseของตัวเอง\\ตอนนี้เป็นเป็ดอยู่


    ที่เล็งๆไว้คืออยากไปลองเรียนพวกNeuroscienceกับQuantum computingแนวๆนั้นดู


    ซึ่งโปรเจคจบที่มิ่งเลือกทำเป็นแนวๆพวกBlockchainค่ะ..ดูเหมือนจะไม่เข้าพวกเลยใช่มั้ยล่ะคะ

    มองในอีกมุมนึงถ้าเราApplyความรู้เกี่ยวกับการAnalyze Data streamingเข้าไปDetect peakหรือSpikeแบบReal-time เรื่องนี้สามารถนำไปต่อยอดกับการDetectสัญญาณประสาทได้ค่ะมีหลายresearchด้านNeuroscienceที่กำลังทำเรื่องนี้อยู่ส่วนQuantumอันนี้มิ่งมองว่าเป็นอีกToolsที่กำลังจะมาแรงนะคะตอนนี้กำลังค้นคว้าในแง่ของApplicationของมันกันอยู่ซึ่งหมายถึงมันสามารถApplyกับหลายๆโปรเจคนั้นแหละค่ะสมมติถ้าเราทำResearchเรื่องนี้อยู่อยากจะปรับให้มันมาใช้FeatureของQuantum computing/informatics อันนี้ก็สามารถยื่นเป็นResearch projectระดับป.โทได้เหมือนกัน


    สรุปคือ..ควรกลับไปทำงานต่อได้แล้วค่ะ555 ทำวันนี้ให้เต็มที่Enjoyกับสิ่งที่ได้ทำแล้วอย่างอื่นจะแถๆไหลๆลงมารวมกันเอง\\อิหยังนิ


    ตอนเย็นวันนี้หมดPassionในการทำอาหารกินเองสุดๆ

    หารู้ไม่ว่าการหมดPassionในการทำอาหารนี่แหละที่จะเป็นตัวจุดประกายเมนูใหม่ให้ถือกำเนิดขึ้น!!!


    ใช้เวลานานเหมือนกันในการพินิจดูแผงเนื้อสัตว์ตรงหน้าอืมกินอะไรดี


    แล้วก็เหลือบไปเห็นชื้นเนื้อสไลด์ค่ะ!!


    ณตอนนั้นราวกับมีแสงสว่างสาดส่องมาจากด้านบนได้ยินเสียงสวรรค์กระซิบลงมา


    ..นะ..เนื้อผั...เนื้อผัดน้ำมั...


    “เนื้อผัดน้ำมันหอย!!!!”


    ใช่เลย!เมนูนี้แหละมันได้! มันโดน!\\ถึงจะไม่รู้ว่าทำยังไงก็ตามแต่ก็ซื้อเนื้อซื้อพริกหยวกมาก่อน555


    กลับไปก็ไปลองละเลง(?!) พร้อมกับสายตาของพันธมิตรหม้อหุงข้าวที่คอยมองดูอยู่ห่างๆคงคิดในใจว่า

    “คราวนี้เอ็งจะทำอะไรออกมาให้ชั้นกินอีก...”


    มาอวยพรให้มิ่งไม่ทำห้องครัวระเบิดกันเถอะทุกคน


    ตอนทำกับข้าวก็มีการแลกหมูแลกเนื้อเกิดขึ้นเล็กน้อยเพราะพันธมิตรคนนี้ลืมเอาไก่มาDefrostค่ะเลยยืมเนื้อที่เหลือของมิ่งไป...แล้วเอาไก่มาให้แทน


    ว่าแต่มันคุ้มมั้ยล่ะคะเนี่ย...


    ไม่เป็นไรเขาให้มาเยอะอยู่!

    ทางนั้นเขาทำพาสต้าเราทำเนื้อผัดน้ำมันหอยกับข้าวไข่เจียวเอาสิ!ให้มันรู้กันซะบ้างกินกันไม่ลงเลยทีเดียว


    แต่สิ่งที่เหมือนกันมีอยู่อย่างนึงค่ะ...ไร้สูตร...

    คือจับทุกอย่างมายำรวมกันนั้นเอง


    ดั่งคำกล่าวของวิทยายุทธ์จีนความเก่งกาจที่แท้จริงของจอมยุทธ์น่ะ...มันต้อง...

     -ไร้กระบวนท่า-


    เรานี่บรรลุขั้นนึงของการทำอาหารแล้วสินะ


    สรุปคือออกมากินได้อยู่นะคะไม่ถึงกับแย่\\เค็มไปนิดเพราะทำซีอิ๊วหกใส่ถถถถ

    ขอให้ไม่ท้องเสียก็เป็นอันประสบความสำเร็จแล้วค่ะ555

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in