20กรกฏาคม
วันนี้ออกจากโรงแรมแต่เช้าเพื่อไปยังสถานีรถไฟค่ะ
วันนี้เราจะไปเมืองเล็กๆแถบตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส -โคลมาร์- กัน!
แรงบันดาลใจแรกเลยนะคะ
คือคุณแม่อยากไปค่ะ5555
นี่ก็ไปให้แม่
แล้วก็มาพบทีหลังว่าเมืองนี้เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจฉากหลังของเรื่องHowl's moving castleของStudio Ghibliซึ่งเป็นเรื่องที่มิ่งชอบมากๆเรื่องหนึ่งรองลงมาจากSpirited away
แล้วก็ยังเป็นเมืองต้นแบบของBeauty and the beastด้วย
โคลมาร์เป็นเมืองเมืองหนึ่งในแคว้นAlsace หนึ่งในเส้นทางชิมไวน์ที่นักชิมไวน์ทั้งหลายไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง//ถึงมิ่งจะกินไวน์ไม่เป็นแต่ขึ้นชื่อเสียขนาดนี้ก็ว่าจะลองเสียหน่อย
ไม่เพียงแค่นั้น!
ที่ Colmar นี้เป็นเมืองเกิดของศิลปินเอกที่มีชื่อเสียงอีกคนหนึ่ง คือ Frederic Auguste Bartholdi ผู้เป็นคนออกแบบเทพีเสรีภาพที่ฝรั่งเศสได้มอบให้แก่สหรัฐฯ ตั้งตระหง่านอยู่ที่นิวยอร์คมาจวบจนปัจจุบัน
เท่านี้ก็เป็นเหตุผลเพียงพอให้ต้องไปเยือนแล้วล่ะค่ะ
เนื่องจากSwisspass flexที่ซื้อมาได้หมดโควต้าลงแล้ว มิ่งเลยซื้อตั๋วแบบSuper saverผ่านApplication SBBที่ลดถึง60-70%!! เงื่อนไขเดียวคือจะFixedรอบรถไฟและต้องขึ้นให้ทันสายที่ซื้อตั๋วไว้เท่านั้น ซึ่งก็เรียกว่าคุ้มนะคะ แค่ต้องวางแผนกะเวลาดีๆนิดนึง อันนี้เป็นตั๋วจากGenevaไปBaselค่ะ
ส่วนจากBaselไปColmarจะเข้าสู่เขตฝรั่งเศสต้องเปลี่ยนไปจองรถไฟฝั่งทางนั้นแทน ซึ่งก็ซื้อตั๋วONLINEเช่นกันค่ะ
พอเรามาถึงColmar วันนี้ก็ขออนุญาติแวบไปเมืองRiquewihrที่อยู่ข้างเคียงเสียหน่อยนะคะ การที่จะไปเมืองนั้นได้สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวหรือจักรยาน จะต้องนั่งรถบัสไปค่ะ ซึ่งรถบัสนั้นรอบน้อยมากกกกกก ออกจากColmarบ่ายโมงกว่าจะกลับมาได้ก็ตั้ง6โมงแหน่ะค่ะ
แต่Riquewihrเป็นเมืองน่ารักมากค่ะ คล้ายเมืองในเทพนิยาย ระหว่างทางไปจะเห็นไร่องุ่นไกลสุดลูกหูลูกตา กับเทพีเสรีภาพที่มีเพียงสองตัวเท่านั้นคือที่อเมริกาและที่บ้านเกิดของผู้ออกแบบ ที่-Colmar-แห่งนี้ค่ะ
มีหอนาฬิกาประจำเมือง Thief's towerที่เอาไว้จองจำขโมย บ้านนักทำไวน์ที่เปิดให้คนเข้าไปลองชิมรสชาติไวน์กันดู มิ่งก็ลองชิมไวน์หวานไปแชมเปญนึง อร่อยดีค่ะ มีฉากหลังเป็นเมืองเทพนิยายมันก็จะรู้สึกฟินหน่อยๆ
บ้านเมืองที่นี่จะเป็นอาคารแบบ half-timbered House ถูกดัดแปลงภายในให้กลายเป็นร้านอาหาร ร้านขายไวน์ ร้านขายของที่ระลึกและอีกมากมาย แต่ก็ยังคงความคลาสสิคไว้ได้เป็นอย่างดี
ตอนกลางวันก็ลองสั่งไก่พันชีส ซอลฟัวกรากับพาสต้าAlsaceมากิน มิ่งชอบพาสต้าที่นี่มากค่ะ เหมือนขนมปังไข่คนดี เป็นแป้งนะคะ แต่แอบมีรสชาติของไข่ผสมไปด้วย
โดยรวมแล้วประทับใจเมืองนี้เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ติดว่ารถไปกลับน้อยไปนิด เพราะใช้เวลาเพียง1-2ชม.ก็เดินทั่วแล้วค่ะ ตอนแรกก็ว่าจะเดินกลับ แต่เห็นระยะทาง13กิโลแล้วก็ขออนุญาตินั่งจิบไวน์รอแล้วกันนะคะ5555 ถือซะว่าได้shotวิวสวยๆเพิ่มขึ้นมา
พอกลับมาถึงตัวเมืองColmarก็ออกไปกินข้าวเย็นตามพิกัดที่แนะนำกันในเว็บค่ะ
ปรากฏว่าเต็มทุกร้านครับท่านผู้ชม!!
ใครที่อยากมากิน อย่าลืมจองก่อนมานะคะ
ในโคลมาร์เห็นร้านมิชลินตั้งอยู่เยอะมาก เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่ยังไงก็ไม่อดตายแน่ๆขึ้นอยู่แค่ว่าจะมีเงินรึเปล่าเท่านั้นเอง555
ก็เลย เอาเถอะ เข้าร้านไหนก็ได้ที่มีที่นั่งแล้วกัน
หวยเลยไปลงที่ร้านพิซซ่าค่ะ
สั่งพิซซ่าที่ทำจากชีสท้องถิ่นมาลองกินดู อร่อยใช้ได้เลยนะคะ ไม่แพงมากด้วย แป้งบางยิ่งกว่าพิซซ่าแถบอิตาลีเสียอีก
ดีค่ะ ไม่อ้วนดี
ในส่วนของโรงแรม ต้องสารภาพเลยว่าโรงแรมที่Colmarนั้น แพงที่สุุดในทุกทริปที่จัดมาเลยค่ะ
เพราะที่พักค่อนข้างหายากที่จะใกล้สถานีรถไฟและเมืองเก่า และที่นี่ก็เป็นที่ๆราคาย่อมเยาว์และสะดวกที่สุดเท่าที่จะหาได้แล้ว
ที่สำคัญคือ มันมีแอร์กับทีวีด้วยล่ะค่ะทุกคนนนนน พระเจ้า! ตั้งแต่มาสวิสมิ่งยังไม่เคยได้นอนห้องพักเช่นนี้ซักครั้ง
ซาบซึ้งน้ำตาจะไหล
นอนหลับฝันดีละคืนนี้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in