:: Birthday ::
Title : Birthday
Pairing : Ziyi x Yueyue
Genre : One shot
Song : LOMOSONIC -
Note : สั้น และ กาวมากๆ มากมาก บทสนทนาก็เยอะมาก ไม่ถนัดบรรยาย แต่แค่อัดอั้น ต้องเขียนออกมาค่ะ หลุดคาร์ด้วย อย่าคาดหวังมาก
--------------------------------------------
10 กรกฎาคม 2018
วันเวลายังคงผ่านไปรวดเร็วและดำเนินไปอย่างปกติเช่นเคย
ชีวิตของเยว่หมิงฮุยก็ยังคงเป็นเช่นเดิมไม่มีอะไรหวือหวา
ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของเขา แต่เขาไม่ได้เป็นคนที่อะไรๆกับวันเกิดมากนัก ยังไงชีวิตของเขาก็ยังคงวนเวียนไปกับการทำงานอ่านหนังสือ เล่นกีตาร์ และเลี้ยงแมวสีเทาตัวเดิมที่อยู่เป็นเพื่อนเขามาตลอดหลายปีนี้
ถ้าไม่มีคนที่บริษัทเอาเค้กมาเซอร์ไพรส์เขายังแทบจะลืมวันเกิดตัวเองไปด้วยซ้ำ แล้วยิ่งตอนนี้ลาออกมาใช้ชีวิตฟรีแลนซ์...ดีไม่ดีม่องเท่งหน้าคอมไปยังไม่น่ามีใครรู้เลย..
สิ่งมีชีวิตที่ใกล้ตัวเขาที่สุดก็คือเจ้าแมวตัวสีเทานั่นแหละ
ได้มาเมื่อหลายปีก่อนเป็นของขวัญวันเกิดจากคนๆนึง
เขาบอกว่าคนที่เป็นแฟนกันไม่ควรซื้อสัตว์เลี้ยงให้กัน เพราะถ้าวันนึงเลิกกันไป จากของแทนใจอาจจะกลายเป็นความทรงจำร้ายๆก็ได้
แต่เลี้ยงเจ้าแมวสีเทาตัวนี้ สำหรับเขาแล้วก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ มันก็เป็นเพื่อนที่ดี
เวลามันมานอนทับเป็นนาฬิกาปลุกในตอนเช้าหรือตอนที่มันมาเดินวนไปวนมารอบๆขาโต๊ะเวลาทำงาน ก็น่ารักดี
อีกอย่างก็ เพราะเขากับคนๆนั้นก็ไม่ได้จบแย่นัก แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่..
ตัวห่างกันไป ใจก็คงห่างตามไปด้วยละมั้ง
13 กรกฎาคม 2018
ในงานวันเกิดของหวังจื่ออี้มีคนมากมายที่ไม่รู้มาจากไหนกัน บางคนเขาก็รู้จัก เพราะเป็นเพื่อนร่วมงานเพื่อนที่เคยเรียนมหาลัยด้วยกัน แต่บางคนก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร อาจจะติดสอยห้อยตามใครมาสักคนหรือไม่ก็แว้บเข้ามา แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก
งานวันเกิดปีนี้ก็น่าเบื่อเหมือนเดิม แต่เพราะคนรู้จักตระกูลหวังมากมาย ถ้าไม่จัดเพื่อนก็คงโวยวายกันว่าทำไมไม่ป๋าเลยวะ
แต่ไม่ว่าวันเกิดคนมากมายจะอวยพรเขามากมายแค่ไหน
แต่ไม่เคยรู้สึกดีได้เท่า การที่ได้เป่าเทียนบนเค้กกับพี่คนนั้นเลย
บางทีเขาก็เป็นคนที่อยากให้คนอื่นมีความสุข ห่วงคนอื่นมากจนลืมความรู้สึกตัวเองไป
กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เอาแต่ห่วงคนอื่นๆ จนลืมคนที่ใกล้ตัวที่สุดไป
หรือเป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้
ความสัมพันธ์ของเขาและพี่คนนั้นก็เลยจบลง
เจ็บนิดหน่อย แต่ก็คงจะชาแล้วล่ะ
เพราะมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว
แต่จริงๆตอนนั้นน่ะ มันดีมากเลยนะ
เป็นไปได้ก็อยากจะรักษามันไว้ให้นานหน่อย
อยากให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม
5 ปีก่อน
“จื่ออี้ พี่ว่าจะไปเรียนต่อสกอตแลนด์”
เยว่เยว่พูดขึ้นมาในขณะที่พวกเรานั่งอยู่ข้างๆสนามบาส
ที่ที่พวกเราเล่นบาสด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนตอนนี้พี่เขากำลังจะจบจากรั้วมหาลัย แต่ตัวผมเองกำลังจะเข้ามหาลัย
อากาศวันนี้เย็นสบายแต่ท้องฟ้ากลับเป็นสีส้มแดงอบอุ่น ฝูงนกฝูงหนึ่งบินผ่านตาของผมไป
“ทำไมต้องไปไกลขนาดนั้นด้วย”
“ก็..อยากเปิดหูเปิดตาด้วยมั้ง อีกอย่างถ้าไปเรียนแล้วกลับมาก็คงไปได้ไกล งานก้าวหน้าขึ้นอะไรแบบนี้มั้ง”
“พี่ไม่ไปไม่ได้เหรอ”
“บ้านรวยอยู่แล้วนี่ เรียนให้เก่งเท่าพี่แล้วก็ตามมา”
หลอกด่าผมว่ารวยแต่โง่ป่ะเนี่ย...
“แล้วเรื่องพวกเราพี่จะเอาไงอ่ะ”
“ถ้านายหนักแน่น พี่หนักแน่น อะไรก็ทำไรเราไม่ได้ไหมอ่ะ ห่วงไรเนี่ย”
ก็จริงแบบที่พี่เขาพูด แต่พี่เขาจะไปนานไหมนะ
11 กรกฎาคม 2018
“โอ๊ะ ขอโทษครับ”
เค้กชิ้นสุดท้ายในร้านเกือบหลุดออกจากมือไปแล้วเยว่หมิงฮุย ความมือไวของนายทำงานได้ดีมาก!
แต่ไอ้คนที่เดินมาชนนี่ เอาตาวางทิ้งไว้บ้านเหรอก่อนออกมา
“..ไม่เป็นไร”
“พี่เยว่...”
“จื่ออี้..”
ทำไมต้องมาเจอแฟนเก่าในสถานที่แบบนี้ด้วยเนี่ย
ทีแรกก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพชอะไรหรอก ที่วันเกิดตัวเองแล้วต้องมาซื้อเค้กชิ้นเดียวกลับไปกิน เพราะยังไงก็ทีมสายแดก- อยู่แล้ว
แต่พอเห็นหน้าแฟนเก่ารุ่นน้องที่เคยคบกัน
คนที่เคยฉลองวันเกิดด้วยกัน..
กลับรู้สึกแปลกพิกล
ทำไมจู่ๆก็คิดถึงช่วงเวลาตอนนั้นขึ้นมาด้วยวะเนี่ย
4 ปีก่อน
12 กรกฎาคม
“พี่ ออกมาเปิดประตูหน่อย”
ข้อความขึ้นแจ้งเตือนในโทรศัพท์ โชคดีเวลานี้ไม่ใช่เวลานอนของเขาพอดี เพราะยังมีงานมากมายที่ต้องสะสาง ไหนจะการอ่านหนังสือสอบอีก เขาเลยหยิบโทรศัพท์แล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
“อะไรอีก ทำไมเมื่อวานก็บอกแฮปปี้เบิร์ธเดย์ฉันแล้วไม่ใช่เหรอ หรือซื้ออะไรให้ใครเอามาวางไว้หน้าห้องฉันอีก”
“ถ้าบอกว่ามาหาจะเชื่อไหม :P ”
อีโมจิแลบลิ้น..น่ารักตายแหละ
“อมยิ้มอยู่เหรอ อ่านแล้วตอบช้านะ รีบมาเปิดเร็วเข้า”
“ไร้สาระว่ะ โม้ๆ”
เสียงกดออดเริ่มดัง
เดี๋ยว หรือว่าที่จื่ออี้พูดจะจริงวะ เอาจริงเหรอ มาหากันถึงที่นี่อะนะ สกอตแลนด์นะโว้ย เออ แต่บ้านจื่ออี้ก็รวยนี่ ตั๋วเครื่องบินราคาเท่านี้ ขนหน้าแข้งไม่น่าจะร่วง
เยว่เยว่รีบวิ่งออกไปส่องตาแมวที่ประตูและพบว่ามีมนุษย์สูง 186 เซนติเมตร ผมอันเดอร์คัตมัดจุก เสื้อผ้าราคาแพงที่คุ้นตายืนอยู่หน้าห้อง
... เอาจริงเรอะ
“ท่ะด้า เซอร์ไพรส์! อ่ะนี่ รู้ว่าพี่ไม่ชอบการซื้อดอกไม้อะไรแบบนี้เพราะมันโคตรจะผู้หญิ๊งผู้หญิง แต่ก็รู้สึกว่าอยากให้ ช่วยรับไป แล้วก็รับใจผมไปด้วย”
เขายื่นช่อกระดาษสีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยดอกคัตเตอร์สีขาวช่อใหญ่มาให้
ดอกคัตเตอร์สีขาว มันเป็นดอกไม้สีขาวที่ธรรมดาไม่ได้ดูโดดเด่น เป็นดอกไม้ที่คอยเอาไว้แทรกอยู่ข้างหลังดอกไม้อื่นๆในช่อดอกไม้ช่อใหญ่ แต่ผมกลับชอบมัน เพราะมันไม่ได้สวยมากแต่สามารถทำให้ดอกไม้อื่นๆดูงดงามขึ้นได้
และดีใจที่จื่ออี้ยังจำได้ว่าผมชอบมัน
“แหยะ น้ำเน่าสุด ผู้ชายคูลโบรแบบหวังจื่ออี้ทำอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ”
“ระดับนี้ ไม่ต้องเรียนรู้วิธีการจีบอะไรแล้ว เพราะนี่เป็นการจีบแบบโปรเฟสชั่นนอลที่สุด เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์เลยจะบอกให้”
“แต่ก็..ขอบคุณนะขอบคุณที่อุตส่าห์บินมาหากั-”
จู่ๆเขาก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบบนริมฝีปากผมแบบเร็วๆ
“เอ๊ะ หวัง จื่อ อี้!”
“เป็นแฟนกันแล้วทำแบบนี้มันผิดตรงไหน แค่จุ๊บเองนะ มากกว่านี้ก็ทำมาแล้วป่ะ”
“หวัง จื่ออี้!!”
“ฮ่ะๆ หยอกน่า แต่สุขสันต์วันเกิดอีกครั้งนะพี่ จริงๆแล้วอ่ะ พี่ก็เกิด 11 กรกฎา ส่วนผม 13 เพราะงั้น หลังจากนี้ไป วันที่ 12 กรกฎา เราควรฉลองวันเกิดด้วยกันมั้ย พี่คิดว่าไงอ่ะ ดีป่ะ”
เขาพูดเองเออเองเสร็จสรรพ ทำเป็นถามความเห็นตอนท้ายแต่เขาก็คงจะทำทุกปีอย่างที่ว่านั่นแหละ
พูดไปก็เอามือมาลูบจุกผมบนหัวของผม แล้วก็อมยิ้มแบบเดิมที่เจ้าตัวชอบทำ สายตาอบอุ่นอ่อนโยนยิ่งกว่าไมโครเวฟนั่นก็จ้องมาที่ตาของผมแบบคาดหวังสูงมากๆ
“โอเค แบบนั้นฉันก็ชอบเหมือนกัน”
นั่นเป็นคำตอบของผม
11 กรกฎา ปัจจุบัน
“พี่มาทำอะไรที่นี่”
“มาซื้อเค้กน่ะ”
“...สุขสันต์วันเกิดนะพี่”
“สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้าเหมือนกันจื่ออี้”
จื่ออี้โตขึ้นเยอะ เมื่อห้าปีก่อนเขาก็เป็นผู้ใหญ่ แต่ตอนนี้เขาดูเป็นจื่ออื้ที่เปลี่ยนไปเยอะเลย
หรืออาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้เจอกันนานก็ได้ ผมก็เลยคิดแบบนั้น
เด็กผู้ชายคนนั้นที่มาวอแวให้สอนวิชาอะไรต่อมิอะไรให้ในตอนนั้น เติบโตมาอย่างดีเลยนะ
“พี่ยังใช้เบอร์เดิมอยู่ไหม”
“อือเดี๋ยวลูกค้าจะจำไม่ได้น่ะ”
“เจ้าแมวเป็นไงบ้าง”
“ก็สบายดี แต่แก่แล้วล่ะ”
เขานิ่งไปสักพัก แล้วก็พูดออกมาว่า
“จะเป็นอะไรไหมถ้าผมแวะไปเล่นกับมัน..ที่ห้องพี่”
“ได้สิ”
“พรุ่งนี้พี่จะสะดวกไหม”
“12 กรกฎาเหรอ”
12 กรกฎาคม 2018
เสียงกดออดดังอยู่หน้าห้อง
เยว่หมิงฮุยในชุดนอนสีน้ำเงินที่นอนเล่นโทรศัพท์บนโซฟามานานหลายชั่วโมงจนสาย และยังไม่ได้อาบน้ำ ผมมัดจุกแบบลวกๆ หน้ายังไม่ล้าง จึงต้องขยับตัวเป็นครั้งแรกในเช้านี้
คนข้างนอกน่ะ..ก็เป็นแฟนเก่าคนนั้นที่เจอแบบบังเอิญเมื่อวาน
ไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์อะไรกันหรอก มากกว่านั้นก็เห็นกันมาแล้ว
และด้วยอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้เลิกกันแล้วไม่ได้เปลี่ยนเบอร์ ไม่ได้ย้ายห้อง ไม่ได้ย้ายอะไร
เยว่หมิงฮุยยังอยู่ที่เดิม
ทำให้หวังจื่ออี้มาหาได้ง่ายเหมือนตอนที่ยังคบกันก่อนที่จะไปสกอตแลนด์
เปิดประตูหน้าห้องในตอนนี้ แต่สายตาเหมือนเห็นภาพทับซ้อน ผู้ชายตัวสูงคนเดิมกับช่อดอกคัตเตอร์สีขาว ยืนอยู่หน้าห้องเมื่อสี่ปีก่อนไม่มีผิด
เขายังไม่ตื่นดีเหรอหรือสายตาไม่ดีแล้ว จะว่าทำงานกับคอมเยอะไป สายตาอาจจะแย่จริง
เลอะเลือนใหญ่แล้วนะ
“ผมคิดว่าถึงเราจะไม่ใช่...แบบนั้นแล้ว แต่พี่ยังชอบดอกคัตเตอร์สีขาวใช่มั้ย”
สติถึงกลับคืนมาว่า เขาไม่ได้ตาฝาดไป ยังจำได้อยู่อีกเหรอ
“เอ่อ ใช่ ขอบคุณนะ เข้ามาก่อนสิ”
เขาหันหลังกลับและเดินนำจื่ออี้ไปที่ห้องนั่งเล่นและแมวตัวสีเทายังนอนอยู่บนโซฟาตัวเดิม
“พี่ตั้งชื่อให้มันหรือยัง”
“ยัง ฉันก็เรียกมันว่าเจ้าแมวสีเทาเหมือนเดิม”
อยากจะตั้งเป็นชื่อแฟนเก่าอยู่หรอก เพราะเจ้าแมวตัวนี้เหมือนกันจื่ออี้เหลือเกิน
ท่าทางของมันที่ไม่ได้หยิ่งผยองแต่ถ่อมตัว แล้วก็..น่ารัก
“ผมคิดถึงพี่มากนะ”
จื่ออี้พูดขึ้นมาและห้องก็เงียบไปชั่วขณะ
นี่คงเป็นอารมณ์เดียวกันกับตอนที่ผมบอกเขาว่าจะไปสกอตแลนด์สินะ
หัวใจมันเต้นวูบวาบแบบแปลกๆจะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี
“เค้กที่ซื้อมาเมื่อวานน่ะ พี่กินไปรึยัง”
“ยัง..เอาตรงๆเห็นหน้านายเมื่อวาน ละกลับมามองเค้กแล้วรู้สึกแปลกๆ เลยยังอยู่ในตู้เย็น”
“พี่เกลียดผมขนาดนั้นเลยเหรอ ฮ่าๆ”
เสียงหัวเราะแห้งๆของอีกฝ่ายดังขึ้นมาหลังจากพูดจบประโยค
“ไม่ใช่สักหน่อย แบบไม่คิดว่าจะได้เจอนายอีกน่ะ”
“เรามาฉลองวันเกิดด้วยกัน เหมือนที่เราเคยทำไหม”
.
.
.
.
ดอกคัตเตอร์สีขาว เค้กวันเกิด สายตาคู่เดิมและผู้ชายคนเดิมที่ยืนอยู่หน้าประตู
ทำให้ความรู้สึกเมื่อห้าปีก่อนกลับมา
ความจริงพวกเราไม่ได้เลิกกันเพราะเกลียดกัน จื่ออี้เป็นคนดีมาก
แต่พอห่างกัน ระยะทางมันทำให้เราเย็นชาใส่กันเรื่อยๆ
ตัวจื่ออี้เองก็มีงานมากมายที่ต้องอยู่ในสังคมที่คนเยอะ ในขณะที่ผมก็ทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ อยู่ต่างประเทศ
อะไรก็ดูต่างกันไปหมด
มันเลยทำให้เราเลือกที่จะจบมันลง ก่อนที่มันจะเย็นชาใส่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆอีกหลายสิบปี
กลับมาเป็นพี่น้องกัน
หรือคนแปลกหน้าจะดีกว่าไหมนะ
“ผมไม่ได้คบกับใครเลยนะตั้งแต่เลิกกับพี่ ไม่รู้สึกคิดถึงกันบ้างเลยเหรอ”
“อืม จริงๆพี่ก็คิดถึงเธอแหละ”
11 12 13
07
1992
1996
จบ
ว้ากกกกกกกกกกกฉันเขียนอะไรลงป๊ายยยยยยยยย
ฮือ ไม่ได้เขียนนานแล้วอะ แต่วันนึงเหมือนสติเคว้งเมนเราเกิด 11 ส่วนจื่ออี้เกิด 13
มันน่าจะมีโมเม้นฉลองวันเกิดด้วยกันวันที่12 สิ
ฮรุกๆๆ มันได้ๆผีแค่ไหนแต่ถ้าใจเราดมกาวมันก็ต้องได้สิ ข้ามวงมาก แหะๆ
ตอนจบไปต่อเรื่องเอาเองนะคะเพราะคนเขียนขี้เกียจแล้วค่ะ ที่เขาเลิกกันนั่นก็ไม่มีปมไร ชั้นขี้เกียจกาวเองค่ะ แต่ลองฟังเพลงขอไปด้วยก็คงจะอินขึ้นมาได้นิสนุงมั้ยคะ
ไม่ได้เขียนแนวนี้นานด้วยอะเพราะไม่มั่นใจในตัวเองค่ะ ปกติเขียนเองเก็บอ่านเองบ้าง สกิลล์เลยไม่พัฒนานัก
แมวในนี้ให้นึกถึงภาพน้องเหมียนคู่ก็ได้นะคะ พี่เยว่ในเรื่องนี้อยากให้อารมณ์เป็นหนุ่มทาสแมว สันโดษ เล่นกีตาร์ อ่านหนังสือ ไทป์ผัวฮิปสเตอร์ค่ะ
ส่วนจื่ออี้เท่าที่จำได้ตอนอีพีท้ายๆรายการเหมือนจื่ออี้พูดว่า ถึงจะชอบเสื้อสักตัว แต่ถ้าคนอื่นชอบให้ใส่เสื้ออื่นที่ไม่ใช่ตัวนั้นเขาก็เลือกจะใส่ตัวที่คนอื่นชอบ เลยออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ กับที่ล่าสุดน้องคุนบอกว่าจื่ออี้โปรเฟสชั่นนอลในการจีบแต่เราอยากให้ออกมาเป็นหนุ่มขายมุกเสี่ยวงี้อะ 5555
อยากให้เป็นครต.หนุ่มหล่อสุภาพร่ำรวยแต่แอบกากแค่กับเธอคนเดียวไรแบบนั้น555
จะพยายามดึงให้เศร้า แต่เราเป็นคนสามช่าอะเลยออกมาเป็นขำแห้งแบบนี้ แหะๆ
ทอล์คยาวกว่าเรื่องอีกเด้อ เจริญจ้า
ฝากไว้ด้วยนะคะ /ไหว้แนบอก
และอยากบอกว่า
จื่ออี้กับมู่จื่อหยางก็อร่อยเหมือนกันค่ะ /พับไมค์แล้วเดินลงจากเวที
แวะมาหวีดกันได้ที่ @OnlyYouYueyue แอคภัยสังคมเจ้าเก่าเจ้าเดิม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in