5 สิงหาคม 2562
“มึงบินวันไหนนะ”
คอมเมนต์พร้อมเสียงแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊คดังขึ้นมาหลังจากที่ฉันกดแชร์ข่าวยกเลิกเที่ยวบินในฮ่องกง ฉันเฝ้าติดตามสถานการณ์และข่าวสารด้วยความกระวนกระวายใจ รวมทั้งภาวนาให้ทุกอย่างคลี่คลายได้โดยเร็ว
เพราะมีแพลนจะเดินทางไปดูคอนเสิร์ตที่ฮ่องกงในเดือนหน้า
ฮ่องกงไม่เคยเป็นจุดหมายปลายทางของฉันเลย แม้วงที่ชอบจะไปเปิดคอนเสิร์ตที่นั่นก็ไม่เคยสนใจ ดิสนีย์แลนด์ก็ไม่เคยอยู่ในความคิด ส่วนเรื่องไปทัวร์กินก็ตัดออกเพราะไม่ชอบอาหารจีน ไหว้พระขอพรก็ไม่อยู่ในหัวเพราะไม่ได้ศรัทธาสิ่งนี้ หรือแม้กระทั่งอีเวนท์เซลยกเกาะก็ไม่เคยสร้างแรงดึงดูดให้ฉันได้
แต่ทุกอย่างมันเริ่มมาจากบทสนทนาในรถยนต์เชฟโรเลตเมื่อวันที่11 มีนาคม 2562
จำไม่ได้แน่ชัดว่าเดินทางมาจากไหน และทำไมวันนั้นฉันถึงไม่ได้ขับรถตัวเอง แต่รู้ว่าจุดหมายปลายทางคือบ้านฉัน และคนขับรถคนนั้นคือหัวหน้า
เราคุยกันเรื่องออกกำลังกายและสุขภาพ ฉันก็พยายามชักชวนให้เขาหันมาออกกำลังกายเหมือนทุกที หัวหน้าก็สาธยายไปตามบุคลิกและนิสัยของแก บอกว่าตัวเองรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะมีสุขภาพดีและผอมลง ฉันจำได้ว่าวันนั้นขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าอยู่บนทางด่วนฉันหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยันพร้อมพูดว่า“พี่ก็รู้หมดอะค่ะ แต่ทำไม่เห็นจะได้เลย”
ประโยคนั้นของฉันคงจะไปกระตุ้นความคิดอะไรบางอย่างของเขา หัวหน้าเลยตอบกลับมาว่า เขาจะลดพุงให้ได้ 3 นิ้ว ภายใน 3 เดือน ฉันก็พยักหน้าไปแกน ๆเพราะรู้ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางทำได้หรอก และท่าทางของฉันอาจจะทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาก็ได้เลยพูดต่อว่า“ถ้าทำไม่ได้นะ อยากไปไหนบอกมา”ฉันเลิกคิ้วแล้วใช้สมองตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกว่า “งั้นขอตั๋วเครื่องบินไปสิงคโปร์”หัวหน้าย้อนกลับมาว่า “ใกล้ไป ๆ ฮ่องกงละกัน”
ฮ่องกงเหรอ... จะไปทำอะไรฮ่องกงวะ
แม้ในตอนแรกฉันจะขอเปลี่ยนเป็นไทเป(ฉันรักเมืองนี้และบ่นอยากกลับไปเที่ยวอีกอยู่เป็นประจำ)หัวหน้าก็ยังยืนยันว่าฮ่องกงนั่นแหละ หรือเพราะเขารู้ว่าฉันไม่ได้อินอะไรกับประเทศนี้ หรือเพราะเขาคิดว่ายังไงตัวเองก็ทำสำเร็จ
ฉันเลยตกลงตามคำท้านั้น และถ้าเขาทำสำเร็จ หัวหน้าบอกว่าขอแค่อาหารดี ๆ กับหนังสักเรื่องก็พอ
ไม่ตกลงก็บ้าแล้ว
หัวหน้าบอกกับฉันในวันนั้นว่า ขอเริ่มวันที่ 15 มีนา นะ ฉันก็ตอบตกลงไปว่าไม่มีปัญหา แต่ขออนุญาตบันทึกเอาไว้เผื่อใครคนใดคนหนึ่งลืม
แน่นอนว่าฉันไม่ลืมหรอก แค่กลัวหัวหน้าเบี้ยวต่างหาก
อันที่จริงจะว่าฉันรู้อยู่แก่ใจก็ไม่เชิงว่าเขาจะทำไม่สำเร็จนะ เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเขามันดูไม่เอื้อต่อการลดเอว 3นิ้วภายใน 3 เดือนเลยสักนิด ไหนจะนอนไม่พอ ไม่ควบคุมอาหาร กินมื้อดึก แถมหนักสุดคือไม่ออกกำลังกาย
ชนะใสๆ ว่ะ
แต่ฉันก็ไม่อยากประมาท เพราะรู้ว่าหัวหน้าตัวเองเอาตัวรอดเก่งเป็นเลิศ เลยเฝ้าจับตาดูอยู่ตลอด คอยเตือนว่าอย่าลืมนะ และแม้ฉันจะอยากชนะคำท้าครั้งนี้มากเท่าไรก็ตาม แต่ฉันอยากให้เขาหันมาออกกำลังกายอย่างจริงจังและดูแลสุขภาพตัวเองสักที
ความจริงตั้งใจว่าถ้าเขาออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารสักหน่อย แม้จะลดได้ไม่ถึง 3 นิ้ว ฉันก็ยินดีจะเสียสละตั๋วเครื่องบินฟรีนะ
แต่3 เดือนผ่านไปนั้น เขาไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ตัวเองพูดไว้เลยสักนิด เพราะฉะนั้นพอพ้นวันที่ 15 มิถุนายน 2562 ฉันจึงทวงตั๋วเครื่องบินตามสัญญา
“หนูรู้ว่าพี่เป็นคนรักษาสัญญาค่ะ”
ฉันบอกเขาไปแบบนั้น
และแน่นอนว่าคนอย่างเขาก็ทนไม่ได้ สุดท้ายก็จ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบินฮ่องกงมาให้แต่โดยดี ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
เล่าย้อนกลับไปสักนิด แล้วทำไมฉันถึงเลือกไปฮ่องกงช่วงกันยายน
หลังจากที่ท้ากันเรื่องฮ่องกงเมื่อเดือนมีนาคม ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปทำอะไรที่ฮ่องกง ชวนเพื่อนก็ดูยังไม่มีใครสนใจสักทีเดียว
จนกระทั่งเดือนมิถุนายน ก่อนใกล้จะจบระยะเวลาที่ท้ากันไว้กับหัวหน้า flumpoolก็ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตในฮ่องกงพอดิบพอดี
โอเค มีเป้าหมายในการไปฮ่องกงแล้ว
ฉันจองทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว เพราะไม่อยากไปลนลานเอาตอนใกล้ ๆทั้งบัตรคอนเสิร์ต ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก คิดว่าทำให้เรียบร้อยตั้งแต่เนิ่น ๆ น่าจะสบายใจ ปกติแล้วมันก็คงเป็นแบบนั้นแหละเนอะ
จนกระทั่งเดือนกรกฏาคม ฉันเริ่มเห็นข่าวการประท้วงในฮ่องกงตามสื่อต่างๆ
คงไม่มีอะไรมั้ง
เดี๋ยวก็คงสงบ
ฉันบอกตัวเองแบบนั้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังติดตามข่าวอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งวันนี้ วันที่ 5 สิงหาคม 2562 ซึ่งเป็นวันจันทร์ เช้าวันทำงานวันแรกของสัปดาห์
การไถทวิตเตอร์เป็นกิจกรรมที่ฉันทำเป็นประจำทุกเช้า ทั้งเช็คข่าวสาร การจราจร หรือทำไปเพื่อหย่อนใจ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะเริ่มต้นทำอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง
“ดีนะที่ไม่ได้บินคาเธ่”
เอ๊ะ...
ฉันชะงักเมื่อเห็นทวีตของผู้ใช้รายหนึ่ง เลยเลื่อนลงมาเรื่อย ๆจนกระทั่งเจอทวิตที่เขาพูดถึง และทวีตนั้นก็คือข่าวการระงับเที่ยวบินของสายการบินคาเธ่แฟซิฟิค พนักงานรวมตัวกันหยุดงานเพื่อไปเข้าร่วมการประท้วง
ใช่ ฉันเลือกสายการบินนั้นเดินทางไปยังฮ่องกง
ในใจฉันเริ่มกระวนกระวาย รีบเข้าเฟซบุ๊คเพื่อไปเช็คข่าวสารจากเพจคนไทยในฮ่องกงที่ติดตามไว้ และมันก็เป็นไปตามคาด เพจนั้นลงข่าวเรื่องการประท้วงที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆพร้อมอัพเดตสถานการณ์ล่าสุด ขณะนี้ขนส่งในฮ่องกงแทบจะเป็นอัมพาต และเที่ยวบินนับร้อยถูกยกเลิก
แน่นอนว่าร่วมถึงกรุงเทพ-ฮ่องกง ด้วย
แม้กำหนดการณ์เดินทางของฉันจะยังไม่มาถึงในช่วงเวลา2-3 วันนี้ แต่ระยะเวลาแค่ 40วันฉันว่ามันก็ไม่นานเท่าไรนัก ฉันอดห่วงไม่ได้ว่าสถานการณ์อาจจะยังไม่ดีขึ้น ซ้ำร้ายมันอาจจะกลายเป็นความรุนแรงที่ยากจะควบคุม เพราะดูจากข่าวแล้วฉันว่ามันบานปลายไปมากกว่าที่ใครหลายคนคาดการณ์ไว้มากนัก
คอนเสิร์ตจะยกเลิกหรือเปล่านะ
สายการบินจะกลับมาให้บริการเป็นปกติเมื่อไหร่
แต่สิ่งที่กังวลมากกว่านั้น และกังวลยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดนั้น
จะเกิดความรุนแรงเหมือนในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาหรือเปล่านะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in