วัดกุฎีจีน หรือ โบสถ์ซางตาครุส เป็นภาษาโปรตุเกสแปลว่ากางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ สร้างพ.ศ.2313 โดยพระเจ้าตากสินมหาราชทรงพระราชทานที่ดิน โบสถ์ปัจจุบันสร้างเป็นปูน สถาปัตยกรรมเด่น "เรอเนสซองส์" ผสม "นีโอคลาสสิก" ยอดโดมสีแดงเด่นเป็นสง่า รูปร่างคล้ายกับโดม"มหาวิหารฟลอเรนซ์" อิตาลี
บริเวณชุมวัดกุฎีจีนมีตรอกซอกซอยให้เดินสำรวจ ภาพวาดผนัง"กราฟฟิตี้"บนฝาผนังมีลวดลายสวยสดงดงามตลอดทาง บ้านไม้เก่าแก่คลาสสิก "พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน" ให้เข้าชมฟรี ชั้นล่างเป็นคาเฟ่เล็กๆ ชั้นบน บอกเล่าที่มาของชาวคาทอลิค ที่มีเชื้อสายโปรตุเกส ยวน จีน ฝรั่งชาติอื่นๆที่เข้ามาในสมัยร.3 อย่างเช่นหมอบรัดเลย์ ชาวอเมริกา ก็เคยอาศัยที่นี่ เผยแผ่วัฒนธรรม เครื่องใช้ยุคนั้น หลากหลายเป็นเสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัส
ชมวิวบนชั้นลอยเห็นทิวทัศน์วัดกุฎีจีนอย่างทั่วถึง แม่น้ำเจ้าพระยาสายเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชาวไทยมายาวนาน เชิญ ชวน ชิม ขนมไข่ หอมนุ่มอร่อย ท็อปปิ้ง ลูกเกด ลูกพลับ ฟักเชื่อม น้ำตาลทราย ต้นตำรับจากโปรตุเกส
วัดกุฎีจีนเดิมเป็นไม้สักทั้งหลัง บริเวณใกล้วัดเป็นชุมชนที่นับถือคาทอลิค ศาสนาพุทธ ศาลเจ้าจีน และอิสลาม คืนนั้นเกิดไฟไหม้รอบบริเวณใกล้ๆวัดกุฎีจีน ไฟลุกโชติช่วงลุกลามไปทั่ว ชายชาวพุทธหนีความร้อนของไฟที่ไหม้บ้านตัวเอง มาอาศัยอยู่หน้าวัดกุฎีจีน มองไปบนยอดโดม เห็นหญิงสาวสวยชุดขาวสลับฟ้า ผ้าโพกศีรษะสีขาว ยืนโบกไล่เปลวไฟกำลังจะลุกลามเข้ามาที่วัดกุฎีจีน หลังจากเพลิงสงบ ผู้สำรวจแปลกใจที่ชุมชนรอบวัดถูกเพลิงเผาผลาญราบคาบ แต่ส่วนตัววัดไม่มีรอยไหม้สักจุดเดียว ก็สร้างความแปลกใจให้กับชุมชนแถวนั้น ความจริงก็ปรากฎชายชาวพุทธที่เห็นเหตุการณ์ก็เล่าว่ามีหญิงสาวชุดขาวฟ้ามายืนโบกไล่ไฟ ชาวคาทอลิกพาชาวพุทธเข้าไปในโบสถ์ เขายืนยันว่าผู้หญิงคนนี้แหล่ะที่เขาเห็นว่ายืนบนหลังคาโบสถ์ เขาก้มลงกราบพระรูปพระแม่มารีอาด้วยความศรัทธา และประกาศว่าเขาขอเป็นชาวคาทอลิคด้วย
อาเว มารีอา อาเว มารีอา อาเว มารีอา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in