การได้ตัวลูชาโน่ สปัลเล็ตติของอินเตอร์ มิลาน ทำให้แฟนๆ ชาวเนรัซซูรี มีความคาดหวังที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับฤดูกาลใหม่ 2017/18
ชื่อชั้นของเทรนเนอร์วัย 58 ปีเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นของจริง สามารถฝากความเชื่อมั่นได้มากกว่า สเตฟาโน ปิโอลี, แฟร้งค์ เดอ บัวร์ หรือแม้แต่โรแบร์โต้ มันชินี ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะผลงานที่ผ่านมาพาโรม่ารั้งอันดับ 2 ในลีกสำเร็จ ตามหลังแชมป์อย่างยูเวนตุสเพียง 4 แต้ม ทั้งยังปลุกปั้นให้เอดิน เชโก้ ยิงกระจุยกระจายถึง 29 ประตู จนได้ตำแหน่งดาวซัลโว
ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับโรม่า ทั้งๆ ที่โรม่าอยากต่อสัญญาใจจะขาด แต่เมื่อดูถึงเบื้องหลังการตัดสินใจแล้วก็คงไม่น่าประหลาดใจนัก เพราะเทรนเนอร์ชาวฟลอเรนซ์รายนี้คงไม่อยากทำงานร่วมกับฟรานเชสโก้ ต๊อตติ รวมถึงไม่ได้รับการสนับสนุนจากแฟนบอลเท่าที่ควร เมื่ออะไรๆ ก็ดูไม่เข้าที่เข้าทาง สปัลเล็ตติแกก็คงแอบเซ็ง รู้งี้ไม่น่ากลับมาคุมทีมเล้ย สบโอกาสให้งูใหญ่ทาบทามเป็นเจ้านายใหญ่ในถิ่นจุเซปเป้ เมอัซซาเสียเลย
คอบอลกัลโช่มองตรงกันนะครับว่า สปัลเล็ตติ มีคุณสมบัติตรงตามที่อินเตอร์ กำลังต้องการ โดยเฉพาะการกลับมาทวงความสำเร็จหลังจากห่างหายไปเกือบทศวรรษ
โรแบร์โต้ กายาร์ดินี มิดฟิลด์ของทีม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังการทำงานร่วมกับสปัลเล็ตติสักระยะหนึ่ง ดาวเตะชาวอิตาเลียนบอกว่า สปัลเล็ตติมีบุคลิกของการเป็นกุนซือที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ซึ่งสิ่งนี้จะสร้างอิทธิพลให้กับผู้เล่นในทีมได้เป็นอย่างดี
แม้จะเก่งกาจมาจากที่ไหนก็ตาม แต่งานการคุมทัพทีมน้ำเงินดำไม่เคยเป็นเรื่องง่ายของเทรนเนอร์นะครับ อินเตอร์ มีปัญหาสะสม ไล่ตั้งแต่ขนาดทีมที่ใหญ่เกินไป ซึ่งมีมากถึง 32 คน ซ้ำร้ายนักเตะที่มีคุณภาพพอที่จะอยู่ในระดับลุ้นแชมป์ ลุ้นพื้นที่ยุโรปกลับมีเพียงแค่ครึ่งเดียว จึงเป็นงานที่ไม่ง่ายเลยที่อดีตเทรนเนอร์โรม่าจะสร้างสมดุลให้แก่ทีม
ในด้านที่แย่ก็มีด้านที่ดี เพราะเนรัซซูรีก็มีปัจจัยเกื้อหนุนการทำงานของสปัลเล็ตติให้ง่ายขึ้นเหมือนกัน เช่น การดึงคนเก่งมีฝีมืออย่างวอลเตอร์ ซาบาตินี อดีตผู้อำนวยการฟุตบอลของโรม่าเข้ามาช่วยงานด้านการซื้อขาย เพราะที่ผ่านมาอินเตอร์ มิลาน เป็นทีมที่อับโชคในการซื้อตัวนักเตะ ซื้อมาสิบคนอาจจะเล่นได้จริงไม่ถึงครึ่ง ดังนั้นปัญหานี้น่าจะหมดไปเมื่อได้ซาบาตินีมาดูแล อีกทั้งการที่ซาบาตินีกับสปัลเล็ตติเคยทำงานร่วมกันมาก่อนที่โรม่าจึงน่าจะเข้าใจว่า นักเตะคนไหนเหมาะกับทีมของสปัลเล็ตติ
พร้อมกันนี้กลุ่มซูหนิง กรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของทีมก็มีศักยภาพด้านการเงิน สามารถเทงบประมาณซื้อตัวนักเตะที่สปัลเล็ตติอยากได้ แต่ผมยังเชื่อว่า สปัลเล็ตติจะเลือกวิธีขายนักเตะในทีมเพื่อลดขนาดทีมก่อน โดยชื่อของอันเดรีย ราน็อคเคีย, ดาวิเด ซานตอน, โจนาธาน เบียเบียนี, ยูโตะ นากาโตโมะ ถูกจับขึ้นบัญชีขายเรียบร้อยแล้ว แถมแว่วๆ ว่าสเตฟาน โยเวติช และกาเบรียล บาร์โบซ่า ก็ไม่อยู่แผนการทำทีม เพียงแต่อาจปล่อยยืมไปก่อน ถ้าหากเข็นไม่ไหวก็ขายทอดตลาดไปเลย
ส่วนในรายอิวาน เปริซิช รายนี้ย้ายแน่ถ้าหากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอินเตอร์ มิลานตกลงค่าตัวกันได้
เมื่อเป็นเช่นนั้น หากเนรัซซูรีโละนักเตะที่ว่าออกจากทีมได้หมด ขนาดของทีมก็จะหดลง พร้อมกับรายจ่ายที่ลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อกฎ Financial Fair Play
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่อินเตอร์ มิลาน ฤดูกาล 2017/18 จะไม่ได้วาดลวดลายในเกมฟุตบอลยุโรปแม้แต่รายการเดียว จึงเป็นเรื่องยากที่จะหว่านล้อมดาวเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ให้มาค้าแข้งในถิ่นจุเซปเป้ เมอัซซ่า งานนี้คงต้องมาลุ้นกันว่า ชื่อเสียงของซาบาตินีและสปัลเล็ตติจะดึงดูดใครได้บ้าง
ว่าไปแล้วกัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2017/18 ก็ดูจะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่น่าติดตามเสียเหลือเกิน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in