เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Yuri!!! On Ice FanfictionKolya Plisetsky
Shape of my heart : Episode 3
  • ตอนที่ 3

    มินาโกะสังเกตได้ว่าเช้านี้ยูริไม่สามารถจดจ่อสมาธิกับการซ้อมสำหรับงานกาล่าคืนนี้ได้เลยจะพูดให้ถูกก็คือยูริทำตัวผิดปกติมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว อดีตบัลเลริน่าสาวมองอย่างเป็นกังวลเมื่อเห็นยูริกระโดดพลาดอีกครั้ง ถ้าปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่ๆ จึงเรียกยูริให้พักโดยไม่ฟังเสียงประท้วงของชายหนุ่มเลย 

    “เมื่อคืนทะเลาะกับวิคเตอร์ใช่มั้ย”มินาโกะซักยูริทันทีที่อยู่ตามลำพังกันสองคนยูริได้แต่พยักหน้าแกนๆพลางเล่าเรื่องราวที่เขากับวิคเตอร์ทะเลาะกันให้ผู้ที่เขาเคารพเหมือนแม่คนที่ 2 ฟัง

    “ผมยอมรับว่าผมอยากได้คำชมเชยจากวิคเตอร์หลังจากทำสไปรัลนั่นได้สำเร็จ...” ชายหนุ่มบีบมือตัวเองบนตักแน่น พลางแค่นหัวเราะ

    “ทั้งๆที่ผมอุตส่าห์พยายามเพื่อเซอร์ไพรส์วิคเตอร์ แต่เขากลับไม่ดีใจเลยสักนิดแถมยังต่อว่า เหมือนกับว่าความพยายามของผมมันไม่มีความหมายอะไรเลย จนอดไม่ได้ที่จะมีความคิดแย่ๆ มาว่าที่เขาไม่พอใจเพราะเขาไม่อยากให้ผมชนะเขาหรือเปล่า”

    "โธ่เอ๋ย...พ่อคุณของครู” มินาโกะรั้งศีรษะของยูริให้มาซบที่ไหล่ ยูริคงรู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดขึ้นมากจริงๆ 

    “ผมเกลียดตัวเองที่มีความคิดแบบนี้แต่ผมห้ามความคิดนั้นไม่ได้” ชายหนุ่มโอบแขนรอบเอวบางของมินาโกะแน่น ไหล่หนาเต็มไปด้วยมัดกล้ามนั้นสั่นเทิ้มราวกับพยายามสะกดอารมณ์ที่กำลังท่วมท้นอยู่ "ผมต้องทำยังไงดีครับ ครูมินาโกะ" 

    “ฟังนะยูริ...มันไม่ได้มีอะไรผิดหรอกที่เธอจะขัดคำสั่งวิคเตอร์ ถ้าสิ่งที่ทำผลลัพธ์มันออกมาดี มันก็แค่เป็นสัญชาติญาณของนักกีฬาที่อยากจะชนะการแข่งขัน” มินาโกะถอนหายใจยาวพลางลูบศีรษะของยูริเบาๆ

    “แต่ความสัมพันธ์ของพวกเธอควรอยู่บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจ และความเคารพซึ่งกันและกัน  ที่วิคเตอร์ต่อว่าเธอนั้นส่วนหนึ่งก็เพราะเธอไม่เคารพการตัดสินใจของเขา ที่เธอขัดคำสั่งของเขาก็เหมือนเธอไม่เชื่อใจเขา ถ้าเธอยังทำตัวแบบนี้เรื่อยๆ ความสัมพันธ์ของพวกเธอก็จะพังทลายลงไปในที่สุดเธอเข้าใจมั้ย” มินาโกะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลนั้น

    “ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยตอนนั้นผมคิดแต่ว่าทำยังไงถึงจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองที่เคยทำเอาไว้ให้ได้” ยูริขยี้ผมสีเข้มของตัวเองจนยุ่งเหยิงไปหมด  “ให้ตายเหอะ ผมนี่มันโง่จริงๆ เลย”

    “เธอไม่โง่หรอกยูริ อีกเหตุผลหนึ่งที่วิคเตอร์ดุเธอก็เพราะเขาแคร์เธอมากยังไงล่ะ เพราะถึงแม้ว่าเธอจะชนะรายการนี้แต่ถ้าเกิดเธอบาดเจ็บหนักขึ้นมาจริงๆ เธออาจจะหายไม่ทันการแข่งชิงแชมป์โลกก็ได้ซึ่งนั่นหมายความว่าความพยายามของเธอและวิคเตอร์ที่ทุ่มเทมาตลอดทั้งปีก็จะสูญเปล่า"

    ยูริร้องร้องโอดหลังจากฟังมินาโกะพูดจบ "แล้วผมจะง้อวิคเตอร์ยังไงดีเนี่ย" 

    มินาโกะหัวเราะร่วนพลางตบไหล่ "ถ้าเธอยังคิดไม่ตกว่าจะง้อวิคเตอร์ยังไงก็เริ่มซ้อมต่อกันได้แล้ว!"

     *****************

    ยูริโอะมองวิคเตอร์ที่กำลังโลดแล่นอยู่บนลานน้ำแข็งอย่างเป็นห่วง ทั้งๆที่ตอนนี้อีกครึ่งชั่วโมงก็จะสี่ทุ่มแล้ว หมอนั่นยังไม่เลิกซ้อมอีก 

    "นี่ก็ค่ำมากแล้วเธอกลับบ้านไปกับลิเลียก่อนเถอะยูริเดี๋ยวฉันจะปิดริงก์เอง" ยาคอฟพยักเพยิดไปที่ลิเลียที่รอเขาอยู่ตรงประตูทางออกเด็กหนุ่มหันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สายตาดุจัดของยาคอฟจะทำให้เขายอมทำตามแต่โดยดี

    ยาคอฟมองศิษย์เอกที่ไถลสเก็ตอย่างสะเปะสะปะก็ได้แต่ถอนหายใจ แสดงว่ามีเรื่องทุกข์ใจอยู่สินะถึงได้มาระบายกับลานน้ำแข็งแบบนี้  

    เสียงกระแอมดังขึ้นไม่เบานักทำให้วิคเตอร์หยุดการสเก็ตแล้วไถลสเก็ตมาหาชายผู้เป็นโค้ชที่ข้างริงก์ 

    "แค่นายเป็นแชมป์โลกห้าสมัยก็ไม่ได้หมายความว่านายจะเป็นโค้ชที่ดีได้หรอกนะวิทย่า" ยาคอฟพูดเสียงเรียบพลางยื่นกระบอกน่้ำดื่มให้ชายหนุ่ม 

    "ท่าทางกรรมจะตามทันผมแล้วสินะ..." วิคเตอร์ถอนหายใจเมื่อนึกถึงบทสนทนาอันเผ็ดร้อนระหว่างเขากับยูริเมื่อเช้า... ชายผมสีแพลตินัมแค่นหัวเราะเสียงขม “บางทีอาจจะจริงอย่างที่คุณเคยด่าผมก็ได้ว่า คนที่คิดถึงแต่ตัวเองอย่างผมจะเป็นโค้ชใครได้ยังไงกัน”

    **************************

    เพราะดูเหมือนจะมีเรื่องให้คุยอีกนาน ยาคอฟจัึงชวนวิคเตอร์ไปคุยต่อที่สแน็คบาร์ใกล้ๆ ย่านที่พวกเขาอยู่ ซึ่งอีกฝ่ายออกปากว่าจะเป็นคนเลี้ยงเอง 

    "ยูริเป็นคนที่ขี้ขลาดกว่าที่คิด ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนที่อ้อนวอนขอให้ผมมาเป็นโค้ชให้เขาแท้ๆ" วิคเตอร์กระดกวิสกี้ดื่มจนหมดแก้ว "แถมดูเหมือนเขาจะไม่เคยเชื่อใจผมเลยสักครั้ง" 

    ดวงตาสีเขียวของยาคอฟอ่อนแสงลง มือหนาหยาบกร้านของชายชราลูบหลังของศิษย์รักด้วยความเอ็นดู

    "ยูริเป็นคนที่รับมิือยากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาก แปลกนะ... ทั้งๆ ที่ผมก็เจอคนมามากมาย แต่ทำไมกับยูริ... เขาไม่เหมือนคนอื่น ไม่ว่าผมจะคิดหรือพูดอะไรก็ดูจะไม่ถูกไปเสียทุกอย่าง" วิคเตอร์ค้อมศีรษะลงอย่างทดท้อ

    "เพราะความรักยังไงล่ะวิทย่า กับคนอื่นเธอไม่ต้องแคร์ความรู้สึกของคนเหล่านั้น ดังนั้นเธอจะทำอะไรก็ได้ตามใจเธอ แต่กับยูริ คัทสึกินั่น มันไม่ใช่" ยาคอฟยิ้มอ่อนด้วยความเอ็นดูเมื่อเห็นใบหน้าและใบหูของวิคเตอร์ขึ้นสีแดงจัด

    "о, чёрт… (ให้ตายเหอะ)" ชายหนุ่มยกมือทั้งสองขึ้นมาปิดหน้าตัวเองเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ "เห็นจะจริงอย่างที่คุณว่า ผมคิดว่าผมควบคุมเขาได้ แต่จริงๆ แล้วผมเองต่างหากที่กลายเป็นฝ่ายโดนปั่นหัวเหมือนคนบ้า"

    "เชื่อมั้ย... ทุกครั้งที่ผมเห็นเขาสเก็ต ผมก็รู้สึกเหมือนตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น"

    “แล้วเธอเคยบอกเขามั้ยล่ะว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา?" เงียบ... ไม่มีคำตอบจากคนที่หนุ่มกว่า 

    "ที่เธอโมโหใส่เขา เพราะว่าโกรธที่เขาขัดคำสั่งของเธอในฐานะโค้ช หรือว่าโกรธเพราะฐานะอื่นกันแน่ล่ะ?” ชายชราหัวเราะร่วนเมื่อเห็นวิคเตอร์มองค้อนให้ตัวเอง

    "มีคำกล่าวเก่าแก่เคยบอกไว้ว่าคนเราจะเข้าใจคนอื่นได้ก็ต่อเมื่อเราเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้เสียก่อน"

    "นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ ปีเลยมั้งที่ได้ยินอะไรแบบนี้จากคุณ" วิคเตอร์ย้อน

    "ก็ถ้าเธอยังจะชอบประชดกันแบบนี้ชาตินี้ทั้งชาติเธอก็ไม่สามารถเข้าใจ 'ลูกศิษย์' ของเธอได้หรอก ไปนอนคิดให้ดีๆ ละกัน" ยาคอฟว่าพลางโบกมือให้บาร์เทนเดอร์คิดเงิน ก่อนที่ทั้งสองคนจะดื่มมากไปกว่านี้

    "พรุ่งนัี้ฉัันให้เธอหยุดวันนึง ไว้พวกเธอคืนดีกันได้เมื่อไหร่ก็ค่อยมาซ้อมก็แล้วกัน" 

      *****************

    เช้าแล้ว...วิคเตอร์ยังคงนอนมองเพดานอยู่บนที่นอน... เพราะยาคอฟสั่งให้เขาหยุด วันนี้จึงไม่ต้องไปที่ริงก์แต่เช้าเหมือนทุกวันที่มีการฝึกซ้อม ชายหนุ่มมองนาฬิกา งานกาล่าของงาน 4CC ที่เกาหลี น่าจะเริ่มราวๆ ช่วงเช้าของที่นี่... คงอีกไม่นานแล้วสินะ 

    เมื่อคืนทั้งคืนเขาพยายามทำตามที่ยาคอฟบอก เขาหยิบเอาความไม่เข้าใจทั้งหมดตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันจนถึงบัดนี้ว่าอะไรกันแน่ที่เป็นสิ่งที่คั่นกลางระหว่างเขากับยูริ 

    "'คนเราจะเข้าใจคนอื่นได้ก็ต่อเมื่อเราเข้าใจตัวเอง' อย่างน้อยที่ยาคอฟพูดมามันก็ถูกต้องสินะ" วิคเตอร์แค่นหัวเราะ

    หลังจากวางอัตตาของตัวเองลง เขาก็คิดว่าเขาเริ่มที่จะเข้าใจอะไรๆมากขึ้นแล้ว เขายอมรับว่าเขารักยูริจนหมดหัวใจ แต่ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่กล้าพูดออกไปเพราะอัตตา และกลัวที่จะถูกยูริปฏิเสธ เขาจึงเลือกที่จะปล่อยให้ทุกอย่างมันคลุมเครือเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อวานที่เขาเห็นยูริสามารถชนะและดัดแปลงฟรีโปรแกรมโดยไม่ต้องพึ่งเขา ซึ่งนั่นไปสั่นคลอนความเชื่อมั่นของเขา ว่ายูริไม่จำเป็นต้องมีเขาคอยเคียงข้างอีกต่อไปแล้วก็ได้ 

    วิคเตอร์ถอนหายใจพลางจ้องแหวนทองบนนิ้ว ไม่ว่ายูริจะรู้สึกเช่นใดกับเขา มันก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไปแล้ว ได้แต่หวังว่าถ้าหากโชคชะตาและพรหมลิขิตมีจริง เขากับยูริคงได้เผยความในใจอย่างหมดเปลือกกันได้เสียที

     *****************

    เสียงออดหน้าประตูอพาร์ทเมนต์ดังขึ้นถี่ๆ เหมือนมีคนแกล้งกด วิคเตอร์ขมวดคิ้วเรียวอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินไปมองที่จออินเตอร์คอมว่าใครกันที่มากดออดแบบไร้มารยาทแบบนี้แต่เช้า

    “อ้าว ยูริโอะเองเหรอ” ชายหนุ่มกดปลดล็อคประตูจากเครื่องอินเตอร์คอม ไม่กี่อึดใจเด็กหนุ่มผมทองก็เดินปึงปังเข้ามาในอพาร์ทเมนต์ของเขา

    “คิดยังไงถึงปิดมือถือหา?” ไม่พูดเปล่าเด็กหนุ่มเจ้าของฉายารัสเชียนแฟรี่ (แต่เจ้าตัวอยากให้เรียกว่าไอซ์ไทเกอร์ของรัสเซียมากกว่า) นั่งปุอยู่บนโซฟาแล้วกดเปิดสมาร์ททีวีในห้องนั่งเล่นอย่างถือวิสาสะ

    “ต่อให้นายทะเลาะอะไรกับเจ้าคัทสึด้งก็ไม่ควรปิดมือถือสิ ชาวบ้านที่ไหนเค้าจะติดต่อนายได้กัน” แสนรู้จริงนะ.... วิคเตอร์ค่อนขอดผู้มาใหม่ในใจ

    “ก็วันนี้เป็นวันหยุดของฉันนี่นา” วิคเตอร์ในชุดลำลองแบบสบายๆ พูดเสียงอ่อนพลางรินนมใส่แก้วให้ยูริโอะ และกาแฟสำหรับตัวเขาเอง “ว่าแต่ที่มาหาฉันแต่เช้านี่มีธุระอะไรเหรอ?”

    “ทีวีบ้านลิเลียเสีย แถมวันนี้ฉันได้พักด้วยก็เลยว่าจะมาดูงานทีวีที่บ้านนายแทน” ยูริโอะรับแก้วนมจากวิคเตอร์มาจิบพลางชี้รีโมทไปที่สมาร์ททีวีที่ตอนนี้บนจอเป็นภาพการถ่ายทอดสดรอบนิทรรศการของการแข่งขัน 4CC วิคเตอร์หัวเราะเบาๆ กับความท่ามากของยูริโอะ 

    "แล้วก็นี่! เพราะนายมัวแต่ปิดมือถือเลยตกข่าวสินะ" คนแก่กว่ารับแท็บเล็ตจากจากยูริโอะมาแบบงงๆ เมื่ออ่านหน้าเว็บเพจที่หน้าจอซึ่งเป็นข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันเมื่อวานนี้ คิ้วสีทองคำขาวขมวดมุ่น เมื่อในเนื้อข่าวย่อหน้าหนึ่งพูดทำนองว่ายูริมีความเสี่ยงที่จะมีอาการบาดเจ็บที่หลัง

    "หมอนั่นมันบ้า ทั้งๆ ที่ฉันเคยเตือนแล้วว่าร่างกายหมอนั่นแก่เกินกว่าจะทำท่าแบบนั้นได้ก็ยังจะทู่ซี้ทำ"  

    "นี่แสดงว่าเธอรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่แรกเหรอ?" วิคเตอร์ทำตาโตใส่นักสเก็ตรุ่นหลาน ยูริโอะที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอหลุดปากออกไปก็ได้แต่ทำไก๋เหมือนเมื่อกี้ไม่ได้พูดอะไร 

    "เงียบเหอะน่า... งานจะเริ่มแล้ว"

    ก่อนที่วิคเตอร์จะได้ซักฟอกยูริโอะไปมากกว่านี้ สัญญาณถ่ายทอดสดเริ่มงานกาล่าพอดี วิคเตอร์มองเด็กหนุ่มข้างๆ อย่างคาดโทษ เอาเถอะ... เห็นแก่ความน่ารักที่วันนี้มาอยู่เป็นเพื่อนเขา เขาจะยกประโยชน์ให้จำเลยไปสักวัน

     ******************

    หลังจากพิธีกรประกาศรายชื่อนักกีฬาและคิวการแสดงของผู้ชนะในแต่ละประเภทเสร็จแล้ว บรรดานักกีฬาทั้งหลายก็พากันกลับเข้าห้องแต่งตัว เพื่อรอการแสดงในคิวของตัวเองตามที่ได้ซักซ้อมกันไว้ เนื่องจากวิคเตอร์ไม่ได้มาด้วยกับเขาในงานนี้ ยูริเลยต้องสเก็ตเพลง Stammi Vicino (Stay close to me) เพียงคนเดียว (จริงๆ ยูริตั้งใจจะสเก็ตเพลงนี้คนเดียวอยู่แล้ว แต่วิคเตอร์อยากสเก็ตคู่กันตอน GPF เฉยๆ) 

    ที่ห้องแต่งตัวนั้นยูริแชร์ห้องพักกับพิชิต ซึ่งพิชิตได้ที่ 3 ของการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์นี้เขาแพ้เจเจไปแค่ไม่กี่จุดทศนิยมแค่นั้นเอง

    "เฮ้ ยูริ หลังนายเป็นยังไงบ้าง" พิชิต จุฬานนท์ ถามอดีตรูมเมทสมัยยังฝึกอยู่ดีทร้อยท์ด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอากำปั้นทุบบริเวณบั้นเอวของตัวเองเบาๆ

    "ไม่เป็นไรมากหรอก แค่มันตึงๆ เฉยๆ น่ะ" ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าความเจ็บนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเช้าเขาไปหาหมอประจำสนามดูแล้วซึ่งก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงมาก พักแค่อาทิตย์สองอาทิตย์ก็หาย และห้ามเล่นสเก็ตหรือทำอะไรที่กระทบกระเทือนกล้ามเนื้อที่เจ็บด้วย

    แต่ก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรต่อ ไอเย็นเฉียบพลันก็ทิ่มแทงเข้ามาที่บั้นเอวข้างหลังพร้อมกับเสียงฟู่ จนยูริเผลอร้องด้วยความตกใจ เมื่อหันไปพบว่าเป็นนิชิโกริที่ในมือมีสเปรย์ลดอาการปวดกล้ามเนื้ออยู่

     ******************

    "ถ้าเจ็บหลังก็ควรจะบอกกันทันทีสิ จะได้ช่วยกันดูอาการ ไม่ใช่อมพะนำแล้วแอบย่องไปหาหมอแบบนี้" นิชิโกริบ่น ก่อนที่จะหยิบแผ่นยาแก้ปวดมาแปะให้ตรงบั้นเอวของยูริที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น "ต่อให้หมอที่นี่บอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่ฉันว่านายต้องกลับไปให้หมอตรวจที่ญี่ปุ่นอีกรอบก็น่าจะดีนะ"

    "ไม่ได้หรอก ฉันยังมีอะไรบางอย่างที่จะต้องทำหลังจากเสร็จงานนี้" ยูริแย้งขึ้นมาทันที

    "ธุระอะไรของนายกันวะ สำคัญขนาดที่จะต้องรีบไปขนาดนั้น" นิชิโกริขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ "แล้วจะให้ฉันบอกวิคเตอร์เรื่องนี้มั้ย"

    "อย่าเพิ่งบอกวิคเตอร์ ฉันจะบอกเขาเอง" ยูริตอบเสียงเรียบก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองเพื่อนวัยเด็กของตัวเองด้วยสายตามุ่งมั่น 

    "นิชิโกริ.... ฉันมีเรื่องจะปรึกษานาย"

    ******************

    ยูริรับน้ำผลไม้จากพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินพลางเอ่ยขอบคุณเบาๆ ชายหนุ่มถอนหายใจยาว ตั้งแต่ทะเลาะกันวิคเตอร์ก็ไม่ยอมติดต่อเขาอีกเลย ไม่มีแม้กระทั่งการส่งข้อความหรืออีเมล์ นี่เป็นช่วงเวลาทุรนทุรายจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าวิคเตอร์กำลังลงโทษเขาอยู่ และไอ้ขี้ขลาดอย่างเขาเองก็กลัวที่จะติดต่ออีกฝ่าย เพราะกลัวที่จะรู้ว่าอีกฝ่ายจะตัดใจทิ้งเขาไป

    หลังจากคิดทบทวนมาตลอดทั้งวัน ยูริก็เข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ขวางกั้นระหว่างวิคเตอร์กับเขานั้นจริงๆ แล้วก็เป็นที่ความน่าสมเพชของเขาเองที่กลัวว่าวิคเตอร์จะทิ้งเขาไปสักวันหนึ่ง เพราะความคิดไม่เข้าเรื่องของเขาที่ตอกย้ำตัวเองอยู่เสมอว่าวิคเตอร์คือบุคคลที่อยู่สูงเกินเอื้อม เลยกลายเป็นกำแพงว่าเขานั้นไม่คู่ควรกับวิคเตอร์ ทั้งๆ ที่วิคเตอร์เคยบอกเขาหลายต่อหลายครั้งแล้วว่าจะไม่จากเขาไปไหน ผิดที่เขาเองที่ไม่เคยเชื่อใจคำพูดของวิคเตอร์และระแวงอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นว่าเขาสนใจแต่ความรู้สึกของตัวเองจนลืมนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายไปเสียนี่  ยูริโขกหัวตัวเองกับขอบหน้าต่างของเครื่องบินเบาๆ ราวกับเป็นการลงโทษตัวเองที่กว่าจะรู้ก็เกือบสายเกินไปเสียแล้ว

    "การที่คนสองคนจะรักกันมันต้องเปิดอกคุยกันเว้ย ไม่ใช่มัวแต่อมพะนำแล้วคิดเองเออเองแล้วเก็บไปจิตตกแบบนี้"

    "ถ้านายยังซื่อบื้อแบบนี้ต่อให้วิคเตอร์รักนายมากแค่ไหนเขาก็หมดรักได้ ความอดทนคนเรามันมีขีดจำกัดนะ รีบๆ ทำอะไรให้มันถูกต้องเหอะ"

    ยูริหัวเราะเมื่อนึกถึงคำพูดของนิชิโกริที่เทศน์เขาเสียยกใหญ่ก่อนจะเดินทาง จริงอย่างที่ว่า คนเราต่อให้รักกันมากแค่ไหนก็หมดรักกันได้ ชายหนุ่มมองภาพกราฟฟิคบนหน้าจอที่นั่งชั้นประหยัดของตัวเองที่แสดงเวลาว่าอีกสิบชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย แสงอาทิตย์นอกหน้าต่างนั้นหมดไปได้สักพักแล้ว และความเหน็ดเหนื่อยจากการแข่งขันทำให้ยูริเริ่มง่วง

    ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อถึงที่หมายแล้ว อะไรๆ ที่วางแผนเอาไว้น่าจะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้เสียที...

    ******************

    To be continued…

    ตอนหน้าน่าจะเป็นตอนจบแล้ว จะรีบจบไวๆ นะคะ หวังว่าตัวละครเอกในเรื่องจะไม่ดื้อกับคนเขียนมากนัก โฮๆๆๆ 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in