.
.
.
สายฝนโปรยปรายในเวลาเร่งด่วนหลังเลิกงานมักชวนให้อารมณ์ของใครหลายคนเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงได้ง่ายๆในเวลานี้เช่นเดียวกับชายหนุ่มผู้หนึ่งที่อาศัยป้ายรถเมล์เป็นที่หลบอยู่นานแล้วแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าไอ้ฝนบ้าๆที่มันตกกระหน่ำซ้ำเติมชีวิตจะหยุดตกเสียที
สุดท้ายจึงตัดสินใจเดินลุยสายฝนไปต่ออย่างมากก็แค่ป่วย ยังไงซะพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องทำงาน ไม่จำเป็นต้องโทรไปลาป่วยกับใครให้เปลืองค่าโทรอยู่แล้วเพราะเพิ่งโดนไล่ออกจากบริษัทเฮงซวยนั่นมาหมาดๆ
เสียงไขประตูดังก๊อกแก๊กเมื่อร่างสูงที่เดินฝ่าความหนาวจนกระทั่งถึงบ้านเปิดประตูเข้าไปเจอกับความเงียบเหงาเดิมๆบ้านที่ยังคงไร้เสียงหัวเราะเป็นปกติเหมือนเช่นทุกครั้งที่เปิดประตุเข้ามาไม่มีใครมาคอยต้อนรับ ไม่มีใครคอยให้กำลังใจหรือคำปลอบโยนกับข่าวร้ายๆยามที่ได้เผชิญเพราะพ่อแม่เสียชีวิตไปนานแล้ว ญาติพี่น้องก็ไม่มีที่ไหนให้นับถือส่วนแฟนสาวที่คบกันมาตั้งนานหลายปีก็เพิ่งบอกลาไปคบกับคนที่รวยกว่า
ก็นั่นล่ะนะชีวิต...
ถ้าธรรมดาเกินไปคงไม่ได้เรียนรู้...
แต่มันจำเป็นต้องทดสอบปัญหาทุกด้านพร้อมกันทุกอย่างในเวลาเดียวกันเลยมั้ยวะห๊ะ
“
เพราะมัวแต่จมอยู่ในความคิดตาเรียวจึงไม่ทันได้สังเกตสิ่งที่อยู่บนพรมกว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่ปลายเท้าไปสัมผัสเข้าใส่สิ่งมีชีวิตสี่ขาที่อาศัยพรมตรงหน้าประตูคุดคู่ราวกับว่าหนาวจัดจนคนมองอดเวทนาไม่ได้มือที่หยิบฉวยอะไรสักอย่างใกล้ตัวที่กำลังยกค้างไว้ค่อยๆลดระดับลงเมื่อความตั้งใจแรกที่อยากปาสิ่งของไล่หายไปให้เอื้อมมือไปหยิบผ้าสะอาดที่อยู่ใกล้ๆมาห่มคุมหมาน้อยตัวมอมแมมไว้แทน
อ้อมแขนแกร่งประคองกอดร่างสี่ขาในห่อผ้าที่หนาวสั่นไว้อย่างระมัดระวังร่างเล็กๆนั้นขยับตัวน้อยๆเมื่อรู้สึกถึงไออุ่นที่ได้รับ ใจจริงก็อยากไล่ๆไปให้พ้นเพราะยังไม่พร้อมจะเอาอะไรมาเป็นภาระในเวลานี้แต่เหมือนกับชั่วขณะเวลานั่นได้หยุดนิ่ง ตอนที่ตากลมๆมองสบกลับมาเมื่อยามแรกที่แย้มเปลือกตาขึ้นมองให้คนที่เจอแต่ความเคร่งเครียดมาทั้งวันเผลอมอบรอยยิ้มอบอุ่นส่งกลับไปแล้วหลุดคำพูดออกมาว่า
“
.
.
.
“
“
เสียงเห่าตอบกลับราวกับกำลังตอบรับคำสั่งอย่างหมายมั่นในหน้าที่ที่ได้รับจนคนเป็นเจ้านายอดนึกเอ็นดูไม่ได้ต้องคว้ามาจับฟัดก่อนก้าวออกไปพ้นจากประตูบ้านสักทีสองทีหมาน้อยยื่นหน้าออกไปนอกประตูรั้วจนเจ้านายสุดหล่อเดินออกไปลับตาก่อนจะเดินมุดเข้าทางช่องประตูเล็กมานอนแผ่พุงอยู่บนโซฟาเป็นดั่งเช่นทุกวันตามปกติ
แจฮยอนไปทำงานแล้วงั้นมาร์คก็พูดกับทุกคนได้สิเนอะ
สวัสดีฮะทุกท่านนี่มาร์คเองนะฮะ มาร์คเป็นหมาสีขาวสดใสขนฟูๆ ตายิ้มๆ หน้าตาน่ารักที่ใครต่อใครเห็นแล้วก็พากันเอ็นดูมาร์คมาอาศัยอยู่กับเจ้านายสุดหล่อได้ปีกว่าแล้วตอนแรกก็ไม่นึกไม่ฝันหรอกฮะว่าจะมีใครสักคนที่จะเก็บหมาข้างถนนอย่างมาร์คมาไปเลี้ยงก็ตอนนั้นน่ะสภาพมาร์คงี้แย่สุดๆเลย ใครเห็นก็พากันยี้ใส่ไม่มีใครคิดเก็บมาเลี้ยงสักคน T_T
มาร์คเจอกับเจ้านายในวันที่ฝนตกมันเป็นวันที่ฝนตกหนักมากมากเสียจนแม่ของมาร์คที่ออกไปหาอะไรมาประทังชีวิตไม่กลับมาหามาร์คอีกเลยมาร์ครอแม่นานเท่าไหร่ไม่รู้รู้แต่ว่าวันนั้นมาร์คหิวจนต้องออกไปแอบขโมยขนมปังจากร้านอาหารแถวนั้นมาได้ชิ้นหนึ่งแต่ก็ถูกจับได้และไล่ตีมาร์คซัดเซพเนจรหนีมาเรื่อยๆจนเห็นประตูบ้านนี้เปิดทิ้งไว้กะจะหลบลมหนาวขอนอนแค่ไม่กี่นาทีแล้วจะไปแต่พอตื่นมาก็เจอคนหน้าตาดีมากๆกำลังกอดมาร์คไว้อยู่แต่กอดอุ่นๆนั้นนั่นและทำมันสร้างปัญหามันทำให้มาร์คไม่อยากไปไหนแล้วก็ไม่รู้อะไรดลใจคนๆนั้นเหมือนกันนะฮะที่ไม่ไล่และรังเกียจมาร์คแถมยังรับเลี้ยงเอาไว้อีกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามาร์คเลยได้กลายเป็นหมาน้อยสุดที่รักของเจ้านายสุดหล่อนามว่าแจฮยอนมาจนถึงทุกวันนี้
กิจวัตรประจำวันของหมาน้อยแสบสบายตัวนี้ไม่มีอะไรมากหรอกฮะวันๆหนึ่งหมดไปกับเรื่องกินและเรื่องนอน แต่มาร์คก็มีหน้าที่สำคัญเหมือนกันนะหน้าที่ของมาร์คก็แค่นอนกลิ้งไปกลิ้งมารอเจ้านายกลับบ้านนั่นแหละคือหน้าที่ที่สำคัญสุดๆแล้ว เพราะเจ้านายแจฮยอนชอบยิ้มอบอุ่นให้ตอนที่มาร์ควิ่งไปคอยรับรอยยิ้มใจดีของแจฮยอนแบบนั้นน่ะมาร์คชอบที่สุดเลยแหละ
มีบางครั้งที่อาจจะติดเหงาบ้างนิดหน่อยตอนแจฮยอนต้องไปทำงานแล้วกลับไม่เป็นเวลาแต่มาร์คน้อยตัวนี้ก็อยู่ได้สบายๆนะฮะ ไม่ได้สร้างความวุ่นวายอะไรมากมาย ก็แค่
เรื่องราวประทับใจของมาร์คกับเจ้านายแจฮยอนมีเยอะแยะไปหมดเลยแหละฮะแบบว่าเล่าวันนี้ก็คงไม่จบ แต่เรื่องที่มาร์คภาคภูมิใจสุดๆไปเลยก็คือ วันนั้นมาร์คนอนกลิ้งไปกลิ้งรอเจ้านายกลับบ้านมาตามปกติแต่มีเจ้าหนูที่ไหนไม่รู้แอบเข้ามาในบ้านมาร์คคิดว่ามันจะต้องมาขออยู่กับแจฮยอนอีกตัวแน่ๆ แต่คิดหรอว่ามาร์คจะยอมมาร์คก็เลยจัดการไล่มันไปรอบๆแล้วตะปบทำลายหลักฐานซะให้หมดๆเหลือหลักฐานไว้ไม่ได้หรอกฮะ เดี๋ยวแจฮยอนกลับมาเห็นแล้วใจอ่อนยอมให้เจ้าหนูนั้นอยู่ด้วยดีไม่ดีอาจจะดุมากอีกว่ามาร์คเป็นหมาไม่รักเพื่อนร่วมโลกมาร์คคงทำใจไม่ได้ถ้าโดนเจ้านายดุ ก็เจ้านายไม่เคยดุมาร์คเลยสักครั้งนี่
แต่สงสัยผลจากสงครามครั้งนั้นคงทำให้ข้าวของในบ้านกระจัดกระจายเละเทะไปซะหน่อยแจฮยอนเปิดประตูบ้านมาเห็นงี้อึ้งสนิทไร้น้ำพูดไปเลยฮะแต่มาร์คว่าเจ้านายต้องกำลังภูมิใจในตัวมาร์คแน่ๆไม่งั้นน้ำตาคงไม่ไหลพรากๆออกมาแบบนั้นหรอก
มาร์คมีคำอธิบายดีๆให้แจฮยอนนะ
มาร์คก็แค่ไม่ชอบให้แจฮยอนแบ่งความรักไปให้ใครตัวไหนนอกจากมาร์คนี่นา
ส่วนเรื่องผู้หญิง
เป็นธรรมดาแหละฮะที่เจ้านายจะพาสาวที่ไหนไม่รู้กลับมาบ้าน ก็แจฮยอนน่ะสิหน้าตาดีแบบขั้นเทพขนาดบอยแบนด์บางคนเห็นแล้วยังอาย แถมยังใจดีเป็นที่หนึ่งด้วย ก็ไม่แปลกหรอกที่ผู้หญิงคนไหนจะหลงรัก
แต่มาร์คนี่สิไม่ชอบเลยอ่ะ ตอนแรกๆที่เจ้านายพาผู้หญิงคนไหนมาบ้านทีไรชอบหายไปในห้องกับผู้หญิงคนนั้นสองต่อสองทุกที พอมาร์คไปแอบฟังใกล้ๆก็ได้ยินแต่เสียงอื้ออ้ามาร์คพยายามทั้งข่วนประตูทั้งส่งเสียงร้อง แต่แจฮยอนก็ไม่ยอมเปิดประตูให้กว่าจะพากันออกมาได้ก็พระอาทิตย์วันใหม่โผล่มาทักทาย
แต่อย่าคิดนะว่ามาร์คจะปล่อยผ่านไปได้กับการที่เจ้านายจะไม่สนใจมาร์ค มันต้องมีสักวิธีเอาคืนกันบ้าง มาร์คก็แค่อดข้าวอดน้ำประท้วงซะเลย มันก็ได้ผลอยู่นะฮะวิธีนี้เพราะหลังจากนั้นเจ้านายไม่เคยพาผู้หญิงที่ไหนหายเข้าไปในห้องสองคนอีกอย่างมากก็แค่พามาบ้านให้มาร์ครู้จัก ถ้าทนกับความป่วนของมาร์คได้ก็ได้อยู่ต่อ
แต่ก็...
ไม่เห็นมีใครทนได้สักรายเลยนี่เนอะ
ไม่ใช่ว่ามาร์คหวงแจฮยอนหรอกนะฮะ
อ้ะๆๆ ยอมรับก็ได้ว่าหวงน้อยกว่ากระดูกที่ซุกไว้ตามต้นไม้นิดนึง
แต่เชื่อมาร์คสิไม่มีใครรักแจฮยอนได้เท่ามาร์คหรอก มาร์ครู้มาร์คสัมผัสได้
คึ
.
.
.
แสงสีส้มของดวงอาทิตย์ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มบ่งบอกว่ายามเย็นกำลังเยือนอีกครั้ง
“
ไร้ท่าทีดีใจต่อการกลับมาของเจ้านายในวันนี้หูที่ลู่ไปด้านหลัง กับหางที่เคยโบกสะบัดตกลงบ่งบอกให้รู้ว่าไม่ยินดีกับการที่เจ้านายพาใครอีกคนกลับมาด้วยเลยสักนิด
“
“
อยู่ๆบทสนทนาระหว่างเจ้านายกับหมาน้อยก็โดนเปลี่ยนหัวข้อคุยไป เมื่อผู้หญิงที่มาด้วยต้องการแทรกเข้ามามีส่วนร่วม
“
“
“
“
“
มาร์คไม่เข้าใจนักหรอกว่าคนทั้งคู่กำลังสนทนาด้วยหัวข้ออะไรกันอยู่ แต่ถ้าใครได้เห็นหน้าแจฮยอนต้องบอกได้โดยไม่ต้องเดาอย่างแน่นอนว่าแจฮยอนต้องไม่อยากคุยกับผู้หญิงคนนี้อยู่แน่ๆมาร์คไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองนะ ท่าทางของเจ้านายมันแสดงออกแบบนั้นจริงๆ
เจ้านายหายเข้าไปในครัวพักหนึ่งแล้วทิ้งมาร์คไว้ที่ห้องรับแขกให้นั่งจ้องคนที่มาด้วยไม่วางตา ใจจริงมาร์คก็อยากตามไปอยู่ใกล้ๆแจฮยอนไม่ให้ห่างตาหรอกนะ แต่ถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นนึกอยากขโมยกระดูกที่ซ่อนไว้แถวนี้ติดมือกลับบ้านไปด้วยเพื่อแกล้งมาร์คแล้วจะทำยังไง
ยิ่งท่าทางไม่น่าไว้ใจอยู่ด้วย
“
ทุกการขยับตัวของหญิงสาวจะได้ยินเสียงขู่จากเจ้าสี่ขาให้รู้สึกทุกรอบเช่นเดียวกับครั้งนี้ที่เธอขยับเข้าไปใกล้ๆ เมื่อนึกได้ว่าอย่างแกล้งอะไรหมาน้อยบางอย่าง ลิปสติกในมือกับรอยยิ้มร้ายแสดงจุดประสงค์อย่างชัดเจนว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีที่มีต่อมาร์คแน่นอน
“
ฟันคมฝังลึกลงไปในเนื้อกระเป๋าราคาแพงแล้วสะบัดไปรอบๆ อย่างคิดจะทำลายมันให้ไม่เหลือซากหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของกระเป๋ารีบตามไปคว้ามันไว้ จนเป็นเหตุให้เกิดการยื้อแย่งกันระหว่างคนและหมา ปลายเท้าที่ใส่ส้นสูงอยู่ออกแรงทั้งถีบและเตะเพื่อหวังให้เจ้าหมาน้อยเจ็บตัวและปล่อยของออกจากปากเร็วๆ แต่แน่นอนว่ามาร์คไม่ยอมให้มันจบง่ายๆ จนกว่ากระเป๋าแสนหรูใบนี้จะเละคาปากตัวเองแน่
“
ยังไม่ทันได้เกิดเหตุข้าวของเสียหายพังยับเยินเสียงตวาดอย่างที่เจ้านายใจดีไม่เคยใช้กับหมาน้อยทำเอามาร์คหยุดการกระทำ หญิงสาวจึงใช้จังหวะนั้นสะบัดกระเป๋าให้หลุดออกจากการฝังลึงของฟัน และเพราะเผลอผ่อนแรงจึงเป็นเหตุให้หมาน้อยถูกแรงสะบัดกระเด็นไปชนกับขอบโต๊ะให้เจ็บจนร้องเสียงหลง
แต่หมาดื้อก็ยังเป็นหมาดื้อเมื่อมีคนทำให้เจ็บคนๆนั้นก็ต้องโดนเอาคืน
มาร์คตั้งใจที่จะพุ่งเข้าไปตะปบคนที่คิดจะแกล้งอีกครั้ง โชคดีที่แจฮยอนคว้าร่างสี่ขานั้นไว้ได้ก่อนที่จะไปก่อเหตุร้ายกาจมากไปกว่านี้
“
ตวาดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงโมโหจัด มิหนำซ้ำยังยกมือใหญ่ขึ้นฟาดไปหนึ่งทีจนให้ต้องครางเสียงงิ้งๆบ่งบอกให้เจ้านายรู้ว่ากำลังเจ็บแต่นั่นคงไม่เท่ากับตอนที่มองสบไปยังดวงตาเรียวที่ฉายชัดว่าไม่ได้แกล้งโกรธกันในดวงตาคมคู่นั้นด้วยแล้ว...
มันราวกับโลกทั้งใบของมาร์คได้พังลงเมื่อแจฮยอนที่เป็นทั้งชีวิตไม่มีความใจดีหลงเหลือให้อีก
ถ้าแจฮยอนไม่อยากเลี้ยงงั้นมาร์คไปเองก็ได้!!
.
.
.
“
ไม่ใช่เพราะอยากปกป้องผู้หญิงที่เป็นอดีตแฟนเก่าแต่เป็นเพราะไม่อยากให้มาร์คเป็นหมานิสัยไม่ดีในสายตาใคร แจฮยอนจึงจำเป็นต้องดุต้องตี หากแต่การกระทำนั้นมันคงยากต่อการเข้าใจของเจ้าหมาน้อยที่วิ่งหนีไปไกลลับตาโดยที่เค้าไม่ทันได้รั้งไว้
“
หากแต่ยังไม่ทันได้ตามเจ้าสี่ขาที่วิ่งหนีไป แขนแกร่งถูกรั้งไว้จากหญิงสาวที่เป็นตัวปัญหาให้ต้องหันหน้าไปจัดการปัญหาที่อยู่ตรงหน้าให้มันจบๆ แขนข้างที่ถูกรั้งสะบัดมือเล็กนั้นออกอย่างไม่ออมแรงด้วยท่าทีแสดงว่ารังเกียจอย่างไม่ปกปิด ไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนีี้มายุ่งด้วยต่อใดๆทั้งนั้น
“
“
“
“
“
สายตาคาดโทษอย่างแสดงว่าจะทำจริงตามคำพูดทำให้หญิงสาวหยุดการกระทำทั้งหมด ทำได้เพียงแค่ยืนข่มอารมณ์ไม่ให้กรี๊ดแตกอีกครั้ง ก่อนจะเดินกระแทกส้นสูงหายออกไปจากประตูบ้านเมื่อเห็นว่าร่างของหญิงสาวไปพ้นสายตาแล้ว ขายาวจึงรีบวิ่งไปทั่วบริเวณละแวกนั้นเพื่อตามเอาหมาน้อยคืนมาแต่เพราะเวลาที่ทิ้งห่างมากเกินไปเมื่อมองไปทางไหนจึงเจอแต่ความว่างเปล่า
“
“
โชคดีที่คนแถวนี้นึกเอ็นดูมาร์คอยู่ไม่น้อย ทำให้การตามหาไม่ยากเท่าที่ควร แจฮยอนรีบวิ่งตามไปยังทิศที่มีคนใจดีชี้บอก ใช้เวลาไม่นานขายาวก็พาเจ้าของร่างมาถึงสวนสาธารณะภายในหมู่บ้านตาเรียวมองไปรอบๆอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะสะดุดกับหางสีขาวโผล่พ้นออกมาจากเครื่องเล่นที่มีลักษณะเหมือนโดมให้เด็กเล็กปีนเล่น
“
ใบหน้าหล่อของคนเป็นเจ้าของโผล่ไปตามช่องว่างที่ไม่สามารถลอดตัวเข้าได้พร้อมรอยยิ้มใจดี หมาน้อยที่เมื่อรู้ว่าเป็นใครว่าปรากฏตัวตรงหน้าก็ตั้งท่าจะวิ่งหนีออกอีกทางแต่โชคดีที่ครั้งนี้แจฮยอนวิ่งมาดักและรั้งตัวหมาน้อยมาไว้ในอ้อมกอดได้ทันทำให้ไม่ต้องออกแรงวิ่งตามหากันอีกรอบ
แม้จะถูกกอดรั้งไว้แต่เจ้าตัวดื้อก็ไม่มีท่าทางว่าจะหมดฤทธิ์ลงง่ายๆ มาร์คออกแรงทั้งดิ้นทั้งสะบัดแต่ทั้งที่โกรธและน้อยใจมากขนาดนั้นแต่ก็ไม่กล้าลงเขี้ยวลงเล็บกับผู้เป็นเจ้าของ
“
.
.
.
เมื่อได้กลับมายังสถานที่ที่คุ้นเคยอีกครั้งท่าทางของหมาน้อยที่แจฮยอนตีความหมายได้ว่าหมาความโกรธคงลดน้อยลงไปแล้วแต่อาการงอนยังคงตกค้างอยู่ นึกหมั่นไส้มันเบาๆอยากจะเตะให้หายงอนในใจอยู่กันเหมือนกัน แต่ก็ทำไม่ลงเพราะไม่รู้ทำไมเหมือนกันที่ต้องใจอ่อนกับตาแป๋วๆคู่นั้นอยู่เรื่อยไป
“
มือใหญ่ตบเบาๆลงบนที่นอนข้างที่ว่างอยู่ เป็นสัญญาณบ่งบอกให้เจ้าแสนงอนมานอนด้วยกันข้างๆ หมาน้อยปรายตามองเหมือนกำลังใช้ความคิดก่อนจะตัดสินใจกระโดดขึ้นไปนอนลงที่ที่ว่าง แต่ยังเว้นระยะห่างไว้ไม่เข้าใกล้เหมือนเช่นดั่งทุกคืน
อยากงอนไม่ไปนอนใกล้ๆหรอกนะแต่บนพื้นมันหนาว
มาร์คยังไม่อยากแข็งตาย...
“
“
“
“
"
เพราะดวงไฟที่ถูกดับไปแล้ว ทำให้แจฮยอนไม่ทันได้เห็นว่าดวงตากลมๆของหมาตัวน้อยที่เงยหน้าขึ้นมองราวกับเข้าใจในสิ่งที่เจ้านายสื่อสาร หากแต่ว่ามาร์คไม่เข้าใจหรอกว่าที่เจ้านายตนพูดไปนั้นมีความหมายว่าอะไรแต่น้ำเสียงที่ใช้มันช่างแสนเหงาจับใจเหลือเกิน
มาร์คไม่ชอบน้ำเสียงเหงาๆแบบนี้...
ไม่ชอบมากกว่าน้ำเสียงตอนที่ถูกเจ้านายดุเมื่อเย็นซะอีก
หากตอนนี้พระเจ้าฟังอยู่ มาร์คก็มีคำขอที่อยากให้ท่านรับฟังสักครั้ง
มันเป็นคำขอเดียวที่อยากให้ท่านทำ
อะไรก็ได้ที่มาร์คได้มีโอกาสมากกว่าแค่รับฟัง
ได้พูดคุยเพื่อคลายเหงา
หรืออยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดอายุขัย
นั่นก็คงจะดี...
.
.
.
ราวกับพระเจ้าได้ยินและตอบรับในคำขอ...
ในความมืดมิดของยามค่ำคืนที่มีเพียงแสงจันทร์สีนวลลอดผ่านผ้าม่านสีหม่นส่องลงมายังเตียงกว้าง ร่างน้อยๆของเจ้าขนปุยสีขาวบริสุทธิ์ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นร่างเปลือยเปล่าของเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักนอนเคียงคู่กับร่างของผู้เป็นเจ้านาย ร่างเล็กค่อยๆขยับกายเข้าไปใกล้ๆอย่างต้องการซุกหาที่อบอุ่น จนสุดท้ายก็จมหายไปกับอ้อมกอดกว้างๆของแจฮยอน เข้าสู่ห้วงนิทราหลับสนิทอย่างอุ่นใจทั้งคนกอดและคนที่ถูกกอด
ตราบจนกระทั่งเช้าวันใหม่เข้ามาเยี่ยมเยือน...
.
||+~+~+~+~+~+~+~+~+~+~+~THE END~+~+~+~+~+~+~+~+~+~+~+||
.
by... dereine_
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in