เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Nichaday : เกาหลี 101nini2907
เกาหลี 101 | ตอนที่ 2 : everland
  • ก่อนไปเอเวอร์แลนด์ มีเหตุการณ์นึงที่อยากเล่าให้ฟัง
    หลังจากกินข้าวกินขนมกันเสร็จในคืนแรก พวกเราก็กลับที่พักมาเตรียมพักผ่อน 
    ต่างคนต่างรื้อกระเป๋า กระเป๋าใหญ่ไม่มีอะไร แต่มีกระเป๋าเดินทางใบเล็กใบนึง
    เปิดไม่ออกอ่ะ ใส่รหัสแล้วเปิดไม่ออก
    มันเป็นกระเป๋าที่เกือบจะว่าง ข้างในมีหมวกมีอะไรนิดหน่อยในนั้น เตรียมใบนี้มาเพื่อใส่ของช็อปปิ้ง
    ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น แต่มันคาใจ
    ก็นั่งคุยกันว่า เหย เปลี่ยนรหัสมั้ย ก็ไม่มีใครเปลี่ยนนะ
    หรือใครไปกระแทกโดนปุ่มเปลี่ยนรหัสโดยไม่ตั้งใจ

    เอาหล่ะ 000-999 เลขไหนอ่ะทีนี้
    ไปค่ะ สงสัยต้องลองมันทุกเลข
    แต่คืนนั้นแอบเหนื่อย และอยากเก็บแรงไว้เอเวอร์แลนด์พรุ่งนี้ 
    ช่างมันก่อน



    เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นกันตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ เพราะฮงแดไม่มีไก่

    ที่ต้องตื่นเช้ามากเพราะสวนสนุกอันนี้อยู่แถบชานเมือง เดินทางด้วยรถไฟ 
    เวลาที่ประมาณไว้มันสองชั่วโมงกว่าๆ และด้วยความบ้าพลังของพวกเรา ก็อยากเก็บของเล่นมันทุกอย่าง
    ก็เลยกะจะไปแต่เช้าแล้วกลับค่ำๆหน่อย กลัวคนเยอะด้วย เลยกะให้เวลาเต็มที่

    แถมต้องเผื่อเวลามาอาบน้ำอีก มนุษย์ห้าคนอาบน้ำห้องน้ำเดียวมันก็เสียเวลาพอตัว
    นี่คือข้อเสียของการจองห้องพักแบบห้องเดียวห้าคนอย่างนึง จดไว้ว่าคราวหน้าแยกเป็นสามสองน่าจะดีกว่า

    อาหารเช้าเป็นขนมปังทาเนยกับแยม คอนเฟลค ชากาแฟ มีน้ำส้มกับนมด้วย  
    เป็นบริการของทางเกสต์เฮาส์
    อาหารเช้าเซ็ทนี้คือเซ็ทที่พวกเรากินกันหกเจ็ดวันได้หน้าตาเฉย
    คงเพราะขนมปังแผ่นอร่อยมาก ขนมปังเขานุ่มมากๆ ยี่ห้อปารีสบาร์เกต์ 
    เอามาเข้าไมโครเวฟก็อร่อย เอาไปปิ้งเกรียมๆหน่อยก็ฟิน
    ขนมปังแบบที่ประเทศไทยหากินยาก โดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัดอย่างเรา 


    มีเรื่องสารภาพด้วย วันแรกๆที่ไปใช้เครื่องปิ้งขนมปังเขาไม่เป็น คิดว่าไฟต้องขึ้นก่อนถึงปิ้งได้
    จนได้หม่าม๊ามาชี้ทางสว่างว่าต้องใส่ขนมปังลงไปก่อนเครื่องมันถึงทำงาน
    นังเด๋อ..... เด๋อตลอด

    ความจริงอาหารเช้า คุณจิน เจ้าของที่พักจะจัดการเอาของมาวางไว้บนโต๊ะให้ช่วงแปดโมงเช้า 
    แต่เนื่องด้วยตารางเที่ยวของเราที่แน่นยิ่งกว่าคิวงานของซุปตา
    เราจึงขอว่าเราขอกินเจ็ดโมงนะ รบกวนคุณจินเตรียมขนมปังไว้ให้เราด้วย
    คุณจินใจดีมากๆจึงโอเคแล้วบอกว่าให้หยิบกินได้เลย เดี๋ยวเขาเตรียมนมน้ำส้มไว้ให้

    เราถึงมีอาหารเช้ากินแบบที่ไม่ต้องไปตามหาในทุกเช้าของทริป


    เดินทางจากฮงแดไปเอเวอร์แลนด์ด้วยรถไฟใต้ดินทั้งหมด 
    มาถึงตรงนี้ก็รู้สึกได้ถึงความสมจริงของประเทศนี้แล้ว
    แปดโมงเช้าวันทำงานของที่นี่ในระบบรถไฟใต้ดินนี่วุ่นวายเอามากๆ

    คนหนุ่มสาววัยทำงานในชุดเสื้อผ้าสีเข้ม ผู้ชายใส่สูทผู้ไทด์ ผู้หญิงในชุดกระโปรง
    สวมทับด้วยโอเวอร์โค้ท เพราะอากาศตอนนั้นประมาณสิบองศาต้นๆ
    วิ่งกันด้วยความเร็วสูงเพื่อเปลี่ยนขบวนรถตามสถานีเปลี่ยนขบวน
    ครั้งแรกที่เห็นคือในสถานีฮงแดนี่แหละ
    คนวิ่งกันอย่างกับว่าถ้าพลาดรถขบวนนี้แล้ว ขบวนถัดไปต้องรออีกนาน 
    ทั้งที่ความจริงรอแค่สามสี่นาทีเอง
    เราไม่รู้ว่าการวิ่งแบบนั้นมันช่วยให้เร็วขึ้นขนาดไหน
    แต่คนที่ไปทำงานดูเร่งรีบมากจริงๆ
    เห็นผู้หญิงขาเล็กๆที่วิ่งอยู่บนรองเท้าส้นสูงแล้วชื่นชมอยู่ลึกๆ

    อีกอย่างที่เป็นสิ่งที่เราไม่คุ้นเคยเลยคือแผงกั้นที่ต้องใช้บัตรแตะเพื่อเข้าระบบรถไฟฟ้า
    ของบ้านเรามันแบ่งชัดเจนว่าเลนไหนเข้าเลนไหนออก คนต่อแถวกันเวลาคนเยอะๆ
    แต่ที่เกาหลีใต้ไม่มี เข้าออกทางเดียวกันได้หมด ตามแต่ท่านจะเลือกสรร
    นักท่องเที่ยวสกิลต่ำต้อยอย่างเราใช้เวลาค่อนข้างนานในครั้งแรกที่ต้องแตะบัตรเข้าไป
    เพราะคนจากอีกฝั่งแตะสวนแล้วเดินออกมาก่อนทุกทีที่เราจะแตะบัตร

    จำได้ว่ามีครั้งนึงน้องชายกำลังจะเดินออก แตะบัตรลงไปแล้ว
    หน้าจอขึ้นเลขตัดเงินไปแล้ว แต่อีกฝั่งสวนมาเลย
    แล้วพอแตะอีกทีบัตรก็ขึ้น error ก็ต้องพากันไปที่ตู้ประชาสัมพันธ์ให้เขาช่วยจัดการแก้ให้
    ก็วุ่นวายดี

    แต่หลังๆพวกเราสกิลสูงขึ้นมาก แตะปรี๊ดๆ เดินกันไม่สนใจใครทั้งสิ้น
    ก่อนหน้านี้ที่ช้าเพราะมัวแต่เกรงใจคนอื่น ดูๆไปก็พบสัจธรรมว่าไม่ต้องเกรงใจหรอก
    แตะแล้วเดินไปเลย

    บัตรรถไฟใต้ดินของเกาหลีเป็นระบบที่เราชอบมาก อยากให้มีในเมืองไทย
    เขาเรียกมันว่าบัตร T-money เป็นบัตรทีใช้ได้หมดจะรถไฟใต้ดิน รถบัส รถแท็กซี่
    เติมเงินง่าย เติมที่ร้านสะดวกซื้อได้หรือเติมที่สถานี
    บัตรเราลายโคนี่สีชมพูด้วย น่ารัก




  • รถไฟใต้ดินขาไปเอเวอร์แลนด์แน่นมาก คนเยอะตลอด
    โหนราวกันเป็นชั่วโมง 
    ได้นั่งเอาตอนท้ายบนรถไฟขบวนเล็กที่มุ่งหน้าเข้าเอเวอร์แลนด์แล้ว

    ถึงเอเวอร์แลนด์ประมาณสิบโมงนิดๆ คนไม่เยอะอย่างที่คิด 

    ช่วงที่ไปเป็นช่วงเทศกาลทิวลิปกับซากุระกำลังบานพอดี
    ดอกไม้ที่นั่นเลยสวยมาก รัก ถ่ายรูปมาเต็มไปหมด








    แต่ที่ไม่ได้ถ่ายเลยคือเครื่องเล่นที่นั่นมาเลย แอบเสียดายนิดๆ
    เครื่องเล่นที่นี่สนุกทุกอัน หวาดเสียวเยอะมาก
    โชคดีที่ป๊ากับม๊าเรายังแข็งแรง สู้ชีวิต เล่นมันทุกอย่างที่สามารถ 
    เล่นได้ หวาดเสียวแค่ไหนป๊าม๊าก็เล่นกับเรา 

    อันแรกที่ไปเริ่มเล่นกันกะว่าขอเบาๆก่อน พออุ่นเครื่องให้เลือดสูบฉีด


    เบาแล้ว..... /เซ

    เด็กๆมอปลายที่ขึ้นพร้อมกับเราร้องว่ากลัวกันยกใหญ่ 
    พี่คนนักพากย์ก็บอกว่าไม่น่ากลัวนะ สนุก

    อ่ะ สนุกก็สนุก เรานั่งท้ายสุดเลยค่ะ เหมือนตัวจะหลุดออกมาจากเครื่อง
    ก้นงี้ลอยเลย เหวี่ยงกันขนาดนั้น


    หลังจากเซลงมาจากอันแรก ก็ไปรอต่อคิวเครื่องเล่นอันที่อยู่ตรงข้ามกัน
    เหมือนเฮอริเคนบ้านเรา หมุนไปหมุนมานั่นอ่ะ
    สมัยเด็กๆเคยไปเล่นที่ดรีมเวิร์ลแล้วสบถออกมาว่า ชาตินี้จะไม่เล่นอีกแล้ว
    แต่รอบนี้เล่นไปสองรอบค่ะ สนุกจังเลย....
    โตแล้วคงใจกล้าขึ้นแหละมั้ง



  • หลังจากนั้นก็ไปตัวพีคเลย กลัวไม่ได้เล่น 



    T-express
    ยืนมองรางไม้จากเครื่องเล่นอันแรก เห็นรถไฟมันตกมาจากรางไม้ก็วูบในใจลึกๆ
    โหย สูงจังเว้ย ไหวมั้ยเนี่ย

    แต่สุดท้าย ก็ไปเล่นแหละค่ะ 55555555555
    เป็นรถไฟที่จะนานอะไรขนาดนั้น วูบแรกเสียวมาก หลังจากนั้นก็เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา
    ลงมาจากรถม๊าบอกว่าม๊าคิดว่าทำไมมันไม่จบซักทีเนี่ย
    แต่สนุกมากเลย ต่อคิวไปห้าสิบนาที คนเยอะตามประสา
    ตรงคิวที่ต่อ มันมีป้ายบอกให้ยืดเส้นยืดสายก่อนเล่นเครื่องเล่นนี้
    ยังคุยกะป๊ากะม๊าเลยว่าเขาให้ streching ด้วย
    ก็หมุนคอตามนะ เป็นคนเรียบร้อย ทำตามคำสั่งคำแนะนำที่เขาบอก 
    พอขึ้นไปเล่นจริงก็เข้าใจ รถไฟมันเร็วมากจนเหมือนมีแรงอัดมากดที่ตัวเราบางจุด 
    คนหลังไม่ดีกระดูกไม่ดีอย่าเล่นเลย เสี่ยงชีวิต



    มื้อเที่ยงในสวนสนุกอร่อยกว่าที่เราคิดไว้เยอะ
    จากประสบการณ์ความอร่อยในสวนสนุกญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่
    เลยไม่ได้หวังอะไรกับอาหารในสวนสนุกเกาหลีมาก กะว่ากินกันตาย 
    ดันอร่อยซะงั้น

    แต่ความเฟลคือแดดตอนเที่ยงแรงมาก แล้วลืมลด iso กล้องลง
    ภาพที่ได้คือ...







    epic fail

    แต่มันอร่อยนะ พิซซ่าชีสนั่นนัวมาก ไม่มีแป้งเลย ชีสที่แท้จริง มีแต่มันฝรั่งกึ่งนุ่มกึ่งกรอบมาตัดกับชีส
    แทะแตงดองในกระป๋องคู่ไปด้วย โหย อยากจะได้เบียร์มาแกล้ม
    แต่ร้านที่นั่งกินนี่มีเบียร์ขาย มีไก่เป็นตัวขายด้วย
     
    ถ้าไม่กลัวว่าจะพะอืดพะอมจะกินเยอะกว่านี้ 555555555

    บ่ายๆเด็กเริ่มเยอะ รถเข็นสีม่วงๆเข็นกันให้ควั่ก
    ลูกเด็กเล็กแดงวิ่งกันต๊อกแต๊ก ควีโยมีมากๆ
    เด็กเกาหลีตัวขาวแก้มแดงเป็นเอกลักษณ์






  • เดินไปอีกโซนมีสวนสัตว์ย่อยๆอยู่ เหมือนจะมีหลายอย่างเลย
    มีการแสดงด้วย มีหมีแพนด้าที่เปิดหลังจากเรากลับมาถึงไทยไม่กี่วัน
    แต่วันนี้ไม่เน้น เลยแค่เดินไปทักทายคุณเสือกับคุณหมีขาวเฉยๆ




    แล้วก็เดินไปเล่นของเล่นต่อ....






    ที่ชอบอีกอย่างของสวนสนุกคือเครื่องเล่นไหนสนุกๆ คนคุมเครื่องเล่นจะสนุกมาก 
    เต้นกันตลอดเวลา เต้นประกอบจังหวะเพลงโจ๊ะที่เปิดไป คนที่คอยกดปุ่มคุมเครื่องเล่นยังเต้น
    คนที่ดูความเรียบร้อยความปลอดภัยก็เต้น คนพากย์เสียงเต้นไปพูดไป
    เราเองฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็ยังรู้สึกสนุกไปด้วย

    อย่างที่บอกว่าบ้านนี้อึด เล่นมันทุกอย่าง รู้ตัวอีกทีแสงก็จะหมดแล้ว
    ต้องไปดูสวนดอกไม้ด้วยในสุดก่อนแสงหมด
    สวนด้านในเป็นสวนกว้างๆที่มีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปมุมนู้นนี้อยู่
    ดอกทิวลิปเยอะมากกกกกก ละลานตาไปหมด 
    เดินวนอยู่แถวนั้นเป็นชั่วโมงเลย แค่ดอกไม้กับตึกสีสวยๆเนี่ย
    มีความสุข :3








    สวนสนุกคือสถานที่ที่ไม่ว่าเราไปกี่ครั้ง เราก็มีความสุข
    ได้กรี๊ดจนสุดเสียง ได้หัวเราะกว้างๆ ตกอกตกใจกับบางอย่าง เหมือนได้ระบายอะไรออกไปบ้าง
    ซึ่งเราว่ามันก็ดีเหมือนกัน
    ถือเป็นการคลายความเครียดที่ดีของเราอย่างนึง


  • ความระทึกใจวันนี้คือการเปลี่ยนสายรถไฟใต้ดินค่ะ
    สถานีนึงที่เป็นสถานีเชื่อมต่อ มีรถไฟสี่สายมาบวกเข้าด้วยกัน
    แล้วนี่ก็เด๋อหาทางมุดไม่ถูก เดินมุดลงไปสี่ชั้นแล้วก็ยังไม่เจอ
    ในแอพรถไฟก็บอกว่าสถานีนี้แหละ มุ่งหน้าอันนี้ แต่ไหงป้ายสถานีจริงๆไม่ยักจะมี
    ช่วยกันดูกับป๊าม๊าแล้วก็ยังงงๆ

    วิ่งไปถามพี่ร้านขายไก่ทอดหน้าตาใจดี
    พี่เขาบอกให้ลงไปอีกชั้นนึง

    อ่ะ ถ้าลงอีกชั้นนึงไม่เจอจะมุดไปหาแกนโลกแล้วแหละ ลึกเสียเหลือเกิน

    ขากลับเอาอีก หาไม่เจออีกว่าต้องขึ้นตรงไหน ป้ายสถานีมันงงจังเลยค่ะพี่ 
    คราวนี้เดินไปถามคุณลุงใส่สูทผูกไทด์กำลังจะกลับบ้าน
    คุณลุงเขาคงพูดไม่ถูก เดินนำเราไปส่งถึงหน้ารถเลย
    แล้วสถานีดันต้องเดินย้อนขึ้นไปบนดิน
    ระหว่างที่คุณลุงเดินข้างหน้า เราก็คุยกะน้องว่าลุงเขาไปทางเดียวกับเราหรือแค่พาเรามาเนี่ย

    สุดท้ายพอถึงที่หมาย ลุงเขาเดินลงกลับไปเลยอ่ะ
    ฮือ รักเขา
    พูดขอบคุณเป็นภาษาเกาหลีไป คุณลุงยิ้มพิมพ์ใจมาหนึ่งทีแล้วเดินลงบันไดเลื่อนไป

    กลับจากเอเวอร์แลนด์ดึกมาก สามสี่ทุ่มแล้ว
    ข้าวเย็นยังไม่ได้กิน
    ดึกขนาดนั้นควรหาอะไรเบาๆกิน เตรียมเข้านอน เพื่อสุขภาพที่ดี



    เช่น ขาหมู
    ก็ร้านมันอยู่ใกล้ที่พักเนอะ 
    หนาวด้วย ต้องการไขมันในเส้นเลือดเพื่อความอบอุ่น
    ข้ออ้างอีกแล้ว 



    สังเกตความมือสั่น
    ตอนนั้นหิวขนาดขี้เกียจควัก dslr ออกมาแล้ว พี่ขอกล้องมือถือละกัน

    สิ่งที่ไม่ได้ถ่ายมา (เพราะหน้ามืดด้วยความหิว) ของเมนูเย็นนี้คือเครื่องเคียงนิดหน่อยกับแกงกิมจิ
    ที่ม๊าเรียกมันว่าแกงส้ม
    ก็มันเหมือนแกงส้มจริงๆ 
    แล้วก็ต้มจืดลูกชิ้นปลา เกาหลีเรียกอะไรไม่รู้ จำไม่ได้ ที่อร่อยดี แต่รู้สึกว่าแพงไปหน่อย

    ขาหมูอร่อยมากกกกกก ไม่เลี่ยนอย่างที่คิด คงเพราะมันไม่ได้เยอะขนาดนั้น
    แฮปปี้ เนื้อนุ่ม หนังมันๆ 
    สลัดซอสเปรี้ยวตัดกันอย่างดี
    ยอมรับเลยว่าเกาหลีขยันหาของมาตัดกับอาหารหลักได้ดีมาก
    รักเขา รักของกิน 5555555

    เดินกลับเข้าเกสท์เฮาส์ มาจัดการกระเป๋าที่เปิดไม่ออกเมื่อวานนี้
    น้องชายหน้ามนคนขยันหมุนรหัสไปจนครบทุกเลข ก็ยังไม่ออก
    หรือจะต้องเริ่มใหม่

    แต่ซักพักหม่าม๊าที่กำลังจะไปอาบน้ำ ก็เดินมานั่งหน้ากระเป๋า
    มาใช้ปลายเหล็กเล็กทิ่มไปทิ่มมาหมุนรหัสดึงข้อล็อคอีกสองสามที
    กระเป๋าก็เปิดออกเฉย ที่รหัสเดิมที่ใช้กันมาทั้งชีวิต

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in