-ฮอลิเดย์ โกไลต์ลี ,น.34-

.

หลายคนอาจจะรู้สึกคุ้นภาพผู้หญิงสวยสง่าในชุดเดรสสีดำที่มาพร้อมกับถุงมือยาวถึงศอกและสร้อยคอไข่มุก ซึ่งเป็นภาพที่มาจากภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันกับหนังสืออย่าง Breakfast at Tiffany's นั่นเอง หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ ไม่หนามาก แต่ทุกหน้าอัดแน่นไปด้วยเก๋ไก๋ในแบบฉบับของฮอลลี โกไลต์ลีผู้เป็นตัวละครเอกของเรา เรื่องราวในเรื่องดำเนินไปในยุค 40's ของอเมริกา ซึ่งเป็นช่วงยุคที่สงคราม ทำใหบรรยากาศในเรื่องค่อนข้างอึมครึม ไม่ได้สดใสเหมือนนิยายรักโรแมนติกทั่วไป แต่ก็ยังทำให้เราดื่มด่ำไปกับบรรยากาศในมหานครนิวยอร์กได้ไม่ยาก มื้อเช้าที่ทิฟฟานีส์ บอกเล่าชีวิตของฮอลลี โกไลต์ลีผ่านสายตาของนักเขียนหนุ่มนิรนามผู้ซึ่งอาศัยอยู่ที่ห้องชั้นล่างในอพาร์ทเมนต์ของเธอ ในสายตาของผู้คนรอบข้างฮอลลีเป็นผู้หญิงที่ดูร่ำรวย มีเสน่ห์และไม่สนกฎเกณฑ์ใดๆ ฮอลลีคบผู้ชายมากหน้าหลายตาไปหมด เธอเคยมีสามีแต่ยังอายุน้อย หนีจากมา และเปลี่ยนชื่อตัวตนใหม่ และท้ายที่สุดยังไปพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวจนต้องหายตัวไปในที่สุด 

.

หลังจากอ่านจบแล้วจึงได้เข้าใจแจ่มชัดว่านวนิยายเรื่องนี้ไม่ใช่นวนิยายรัก แต่เป็นนวนิยายที่กำลังบอกเล่าความสับสนในชีวิตของฮอลลี ผู้หญิงซึ่งกำลังอยู่ระหว่างทางค้นหาตัวตนของเธอ ที่ต้องใช้คำว่าระหว่างก็เพราะอ่านมาจนจบเรื่องฮอลลีก็ยังคงตามหาตัวเองต่อไป ผู้อ่านและนักเขียนนิรนามที่หลงรักฮอลลีเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฮอลลีมากไปกว่าที่เธอแสดงออก เพราะเรื่องนี้เล่าผ่านมุมมองของชายหนุ่มนิรนาม ทำให้ตัวตนของฮอลลีดูลึกลับและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ภาพของฮอลลีที่ผู้อ่านอย่างเราเห็นจึงเป็นภาพของผู้หญิงที่ดูเก๋ ต่างไปจากผู้หญิงในยุคนั้น เพราะเธอให้ความรู้สึกที่เป็นอิสระจากพันธนาการมาก เราทุกคนเองก็อาจเคยมีช่วงเวลาที่สับสน ไม่รู้จักตัวเอง และต้องเดินวนอยู่ในกรงขังแคบๆ ฮอลลีจึงเป็นดั่งตัวแทนของมนุษย์ที่มีความกล้าบ้าบิ่นพอที่จะปลดเปลื้องพันธนาการและออกเดินทางไปตามหาความหมายของชีวิตที่แท้จริงของตัวเอง แม้ว่าในตอนท้ายเรื่องอาจจะไม่ได้มีบทสรุปที่แน่ชัด แต่การไม่มีความแน่ชัด ก็นับเป็นความชัดเจนอย่างหนึ่งที่เช่นกัน หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสืออีกเล่มที่เหมาะกับคุณ ผู้ซึ่งอาจกำลังแสวงหาตัวตนของตัวเองอยู่เช่นกัน