เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่าจากหุบเขาเวิ้งว้างlooksorn (♡˙︶˙♡)
แปลรักฉันด้วยใจเธอ : ความงดงามที่ติดในใจชั่วกาล

  •       บรรยากาศที่บ่งบอกว่าใกล้หมดฤดูฝน เมื่อลมหนาวพัดผ่านมาบาง ๆ ตลอดวัน พระอาทิตย์ลาขอบฟ้าเร็วขึ้น จนรู้ตัวอีกทีท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีเป็นสีคล้ำ ให้เรารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น


    ไม่เพียงแต่ฤดูที่กำลังจะเปลี่ยน แต่เราก็กำลังเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อีกปีเช่นกัน

        และช่วงเวลาแบบนี้ก็ทำให้เรานึกถึงซีรีย์เรื่องหนึ่ง ที่ช่วงเวลานี้เมื่อปีที่ผ่านมาเรากำลังตั้งตารอชม นั่นคือซีรีย์ของเด็กวัยรุ่นที่กำลังเติบโตเหมือนกับฤดูที่กำลังจะเปลี่ยนไปอย่างซีรีย์ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” (I Told sunset about you) เรื่องราวของเด็กชายสองคนที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันแต่กลับกลายเป็นศัตรู จนกลับมาเจอกันอีกครั้งเมื่อต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย และเกิดความรู้สึกบางอย่างในหัวใจ ที่เรื่องราวถ่ายทอดความงดงามออกมาให้ผู้คนได้รับชมจนได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมากแม้เวลาผ่านมาบรรจบครบปี เราจึงรวบรวมความงดงามที่ติดตรึงในใจของผู้ชมหลายคนมาถ่ายทอดอีกครั้ง


    งดงามด้านเนื้อหา


        เนื่องจากซีรีย์ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์พิเศษ BKPP Project ที่มีนักแสดงนำโดย บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ทำให้ผู้เขียนบทและกำกับอย่าง บอส นฤเบศ กูโน ร่วมมือกับทีมงานเขียนบทขึ้นมาโดยให้บิวกิ้นและพีพีเป็นเค้าโครงต้นแบบและหาจุดกึ่งกลางที่เหมาะสมกับลักษณะของตัวละครในเรื่องจนกลายมาเป็น “เต๋” และ “โอ้เอ๋ว” ที่ผู้ชมรู้จัก

        โดยเนื้อหาของซีรีย์นอกจากจะพูดถึงการข้ามผ่านวัย การค้นพบตัวเอง และมิตรภาพแล้ว ยังแทรกเนื้อหาเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว และเสียดสีการศึกษาในไทยไม่น้อย เห็นได้จากการที่ตัวละครกลับมาพบกันอีกครั้งจากที่เรียนพิเศษ เพราะการเรียนในห้องไม่สามารถทำให้เข้าใจเนื้อหาที่จะไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ หรือการที่ครอบครัวของตัวละครเข้าใจและมองว่าการชอบหรือมีความรักเป็นเพศเดียวกันนั้นปกติ รวมถึงให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างตัวละครเสมอ อีกทั้งยังมีการสอดแทรกสัญญะต่าง ๆ เข้าไปในฉากเพื่อให้ผู้ชมสามารถดูและคิดตามพร้อมกับเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกตัวละครได้มากยิ่งขึ้น หรือแม้แต่ชื่อภาษาอังกฤษของซีรีย์เรื่องนี้ที่ใช้ชื่อว่า I told sunset about you ซึ่งเป็นเหมือนการอยากบอกเล่าเรื่องบางอย่างแต่อึดอัดเกินกว่าจะเล่าได้ จึงทำได้เพียงบอกถึงเรื่องราวนั้นผ่านดวงอาทิตย์ ทำให้เห็นว่าแม้เนื้อหาจะมีความเรียบง่ายแต่หลายองค์ประกอบในซีรีย์นี้กลับแทรกข้อคิดหรือสัญลักษณ์ออกมาได้อย่างงดงามทีเดียว



    งดงามด้านสถานที่

       ในซีรีย์แปลรักฉันด้วยใจเธอ เรื่องราวที่เกิดส่วนใหญ่อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต สถานที่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม โดยการดำเนินเรื่องส่วนใหญ่อยู่ในย่านเมืองเก่าภูเก็ตที่มีสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก รวมถึงการใช้ฉากที่ทะเลที่มีพระอาทิตย์ตกสวยงาม สอดคล้องกับชื่อเรื่องและเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศและการปรับความเข้าใจกับความดั้งเดิมและความคิดสมัยใหม่ การเลือกเมืองภูเก็ตเป็นตัวถ่ายทอดนี้ ก็ทำให้เรื่องราวที่ดำเนินไป มีความงดงามและทำให้ซีรีย์มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น





    งดงามด้านโทนสีและอารมณ์

        งดงามตรึงใจผู้ชมหลายคนจนเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในเรื่องของ Mood and Tone ที่ผู้สร้างมีความใส่ใจในรายละเอียดและถ่ายทอดออกมาให้เรื่องราวธรรมดามีความพิเศษมากยิ่งขึ้น ซึ่งผู้กำกับภาพ ตั้ง ตะวันวาด วนวิทย์ ได้มีการเลือกใช้เทคนิคการถ่ายทำ ถ่ายทอดให้เมืองภูเก็ตสอดคล้องและเป็นตัวละครหนึ่งที่เล่นไปพร้อมกับเรื่องราวในเรื่องมากขึ้น จะเห็นได้ว่าหลายฉากในซีรีย์ มุมภาพ บรรยากาศต่าง ๆ แม้แต่โทนสีที่ออกมา ช่วยทำให้ภาพและตัวละครในเรื่องที่ถ่ายทอดออกมามีความหมายสื่อถึงอารมณ์ในฉากต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น และส่งให้ผู้ชมรับรู้และเข้าใจอารมณ์และสถานการณ์ในเรื่องจนคิดว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง




    งดงามด้านดนตรี

    Music Score มีส่วนช่วยให้ผู้ชมเข้าถึงอารมณ์แต่ละฉากได้ดียิ่งขึ้น หลายฉากในเรื่องนี้มีการใช้ Music Score เป็นตัวสื่อสารความรู้สึกของตัวละคร ทำให้ผู้ชมเข้าใจและอินไปกับสถานการณ์ของฉากนั้น และทำให้เมื่อฟังก็ยังนึกถึงบรรยากาศของเรื่องได้เป็นอย่างดี ในด้านของเพลงประกอบละคร ก็มีความหมายที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง และมีการใช้ภาษาที่งดงาม ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน




    Music Score แปลรักฉันด้วยใจเธอ
    Original Music Score : Hualampong Riddim Composer : Vichaya Vatanasapt




    OST. แปลรักฉันด้วยใจเธอ
    Producer : ปัณฑพล ประสารราชกิจ (โอม Cocktail), ธิติวัฒน์ รองทอง, กร มหาดำรงค์กุล

    งดงามด้านการแต่งกาย

    เสื้อผ้าที่ปรากฏในแต่ละฉาก ก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ มายน์ ชญานุช เสวกวัฒนา คอสตูมดีไซน์เนอร์ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายให้ความสำคัญเช่นกัน ทุกตัวละครและเสื้อผ้าที่ออกมาในแต่ละฉากมีการคิด และวางแผนให้เหมาะสมเข้ากับอารมณ์ของตัวละครด้วย โดยจะเห็นว่าตัวละครเต๋มักมีการแต่งกายโทนสีฟ้า ส่วนโอ้เอ๋วมักมีการแต่งกายโทนสีแดง เมื่อฉากที่ทั้งสองมีความรู้สึกดีให้แก่กัน จะมีการแต่งกายที่แสดงให้เห็นว่าทั้งสองคิดถึงและซึมซับความเป็นคน ๆ นั้นผ่านเสื้อผ้าที่สวมใส่ หรือแม้แต่การแต่งกายของแม่และเพื่อน ๆ ก็บ่งบอกถึงความหลากหลายที่มักพบได้ในจังหวัดภูเก็ตทำให้การแต่งกายมีความงดงามและสมจริงมากขึ้น




    เพราะความงดงามไม่ข้อจำกัด

    เราเชื่อว่าความงามที่เกิดขึ้นไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว มันคือศิลปะและความแปลกใหม่ให้เราได้ลองทำเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เครื่องประดับก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เราคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีข้อจำกัดการใส่อยู่ที่เพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น และเครื่องประดับจาก midi.5 ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถใส่ได้ทุกเพศทุกวัย ตอบรับความคิดสมัยใหม่ที่ทุกคนเท่าเทียมกัน อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่หลากหลายให้ทุกคนได้ลองเลือกซื้อ ซึ่งสามารถตามไปดูทางโซเชียลมีเดีย และร้าน FRANK! สยามสแควร์
     




         แม้เวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี หรือเราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกกี่หน อย่างน้อยขอให้ทุกคนได้ลองทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ได้ดูหนังดี ๆ กินอาหารอร่อย ๆ และมีความสุขที่ได้ทำอยู่เสมอ มีความงดงามทุกช่วงเวลาของชีวิตเอาไว้หวนคิดเวลานึกถึงนะคะ


    ขอบคุณข้อมูลและภาพที่งดงามจาก






เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in