เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Walk Through My ThoughtsKaow Natthanitcha
ไดอารีเก็บความทรงจำ: ปี 2022
  • สวัสดีค่ะทุกคนน วันนี้ก็ 31 ธันวาคม 2565 (หรือปี 2022) แล้วววว ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวก่อนสำหรับคนที่เข้ามาอ่านบล็อกของเราเป็นครั้งแรก เราชื่อข้าวนะ อายุ 20 ปี ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่าา ปี 2022 เป็นปีที่เราพูดได้ว่าครบรสมาก ๆ สำหรับเราปีนึงเลย มีอะไรเกิดขึ้นเยอะแยะมากมายไปหมด นับไม่ถ้วน พอมองย้อนกลับไปทบทวน เราภูมิใจในตัวเองมากกกกที่มาไกลขนาดนี้ เราเลยเกิดไอเดียอยากเขียนบันทึกสิ่งที่น่าจดจำในปีนี้เอาไว้ เพื่อที่วันนึงเรากลับมาอ่านแล้วเราคงยิ้มมีความสุขกับตัวเองได้ว่าสิ่งเหล่านี้ได้เคยเกิดขึ้น

    ปี 2022 เป็นปีที่เราได้ก้าวออกจาก Comfort Zone นับครั้งไม่ถ้วนเลย เริ่มมาก็คือการที่เราเริ่มทำช่อง YouTube ของตัวเอง เราไม่คิดว่าจะทำมาก่อนเลย เราปฏิเสธมันมาโดยตลอด แต่พอวันนึงเราตัดสินใจมาเราจะเริ่มลงมือทำ เราก็เริ่มเลย ทุกคนลองไปส่องหรือกดติดตามกันได้นะ อิอิ  https://www.youtube.com/@kkhemnapak 
    อ้ออ นอกจากเราจะเริ่มทำ YouTube แล้ว เรามี Website เป็นของตัวเองอีกด้วยย https://kaownatthanicha.wixsite.com/my-site?fbclid=IwAR27G9rPU-uEvK7fM07TGHWAYCko3iac3HvR18Z1tjZsWnLRIGLAuaa4w6Y อยู่ ๆ วันนึงเราไปเห็น website แล้วรู้สึกว่าสวยดี เราเลยอยากมี website สวย ๆ เป็นของตัวเองบ้าง เราก็เลยลงมือทำเลย 555555

    มาเริ่มที่ประสบการณ์ใหญ่ ๆ อันแรกของเรากัน ปีนี้เป็นปีแรกที่เราได้มีประสบการณ์ฝึกงาน ช่วงปิดเทอมขึ้นมหาวิทยาลัยปี 3 เราได้เป็น Part-Time Intern ที่ American Corner Chiang Mai, Chiang Mai University (ACCM) การฝึกงานที่นี่ถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก ๆ ในชีวิตเราเลย เราได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำหลายอย่าง ได้ลองประสานงานกับผู้คนมากหน้าหลายตาและจากหลายองค์กร เราได้ทำ infographics วันสำคัญของอเมริกาลงบนเพจเฟสบุ๊คของ ACCM เรายังได้คิดออกแบบกิจกรรมเกมให้คนติดตามเพจได้มีส่วนร่วมและลุ้นรับของรางวัล เราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ที่เราทำ ถ้าได้มาอ่านคงเหมือนไม่มีอะไรมาก ดูเป็นงานที่ไม่ได้ยากอะไร ใช่ค่ะ มันไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น แต่ว่ามันมีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะเลยนะ ถ้าได้ลองมาทำหรือมาสัมผัสดูแล้วจะรู้ว่าขั้นตอนการทำงานเบื้องหลังนั้นมีอะไรอีกเยอะเลยที่กว่าจะออกไปเป็นหน้างานที่ทุกคนเห็นกันได้ ทุกอย่างมันมีขั้นตอนของมันอยู่น้า นอกจากการช่วยคิดกิจกรรมลงเพจแล้ว ในช่วงระยะเวลาที่ได้ฝึกงาน เราก็ได้ร่วมกิจกรรมหรืออีเว้นต์พิเศษต่าง ๆ ด้วย เริ่มที่กิจกรรมแรก เรากับเพื่อน ๆ ได้ต้อนรับคณะจากสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทยที่มาดูงาน corner ของพวกเรา ตอนนั้นเราจำได้ว่า เราตื่นเต้นมาก ๆๆๆ แต่คณะจากสถานทูตใจดีและเป็นกันเองกับเรามากเลย :) งานต่อมาเราได้เป็นสตาฟช่วยงาน ACAQLE ที่มาจัดกิจกรรมในประเด็นปัญหาฝุ่น PM 2.5 เราได้เครื่องกรองฝุ่นคู่กับพี่เจ้าหน้าที่ในคณะรัฐศาสตร์ ตอนแรกเรากลัวมากกกก เพราะเราไม่ถนัดงานฝีมืออะไรแบบนี้เลย เราเลยกลัวว่าจะไปเป็นตัวถ่วงเขา แต่พี่เขาใจดีมากและใจเย็นกับเรามากก ใช่ค่ะ เราทำพลาด 55555555 แต่เขาก็ยังคงให้เราได้ลองลงมือทำใหม่ ๆ จนเราทำได้ถูก เรารู้สึกซาบซึ้งมาก ๆ เลย สุดท้ายแล้วพวกเราก็ร่วมมือทำกันจนสำเร็จ นอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสเป็น MC ไลฟ์สดผ่าน ZOOM ในงานแนะแนวการเรียนต่อที่ประเทศอเมริกาด้วยนะ เป็นอะไรที่ค่อนข้างท้าทายและน่าตื่นเต้นมาก แต่เราก็รู้สึกสนุกที่ได้ทำ เรากับพี่ MC ที่คู่เราตื่นเต้นกันมาก ๆ เราจำได้ว่าพวกเราซ้อมกันหลายรอบมากกว่าจะไหว้พร้อมกัน 555555 แต่พองานออกมาทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี และอีกหนึ่งอย่างที่เราถูมิใจมาก ๆ ในการฝึกงานที่ ACCM เป็นสิ่งที่ต้องพูดถึงจริง ๆ คือเราได้เป็น Project Leader ใน โครงการ "English without Borders" แหละทู้กกกกคน โครงการเราคือออกไปสอนภาษาอังกฤษให้เด็กในมูลนิธิมิตรภาพไร้พรมแดนป่านกิจกรรมสนุก ๆ ซึ่งเป็นการร่วมกันระหว่าง ACCM, USAC, ASC, Thai Buddies, และมูลนิธิมิตรภาพไร้พรมแดน มันไม่ง่ายเลยทุกคน เราเสียน้ำตาช่วงการเตรียมงานโครงการไปหลายทีเลย ฮรุกก กว่าทุกอย่างจะออกมาลงตัว ประชุมแล้วเปลี่ยนแผน เปลี่ยนเนื้อหา เปลี่ยนกิจกรรม เปลี่ยนวันจัดโครงการนับครั้งไม่ถ้วน อ้อ ในวันโครงการเราได้เป็น MC เองด้วยทั้งภาคภาษาอังกฤษ (เพราะมีเพื่อนชาวอเมริกันในโครงการ USAC มาเป็นสตาฟร่วมกิจกรรมกับเราด้วย) และไทยเลย เป็นอะไรที่ใหม่มาก ๆ ที่เราได้ลองทำ สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ผ่านออกมาได้ดีมากกก ถึงเราจะวิ่งไปมาทั้งวันแต่พอเห็นเด็ก ๆ และสตาฟทุกคนแฮปปี้และเอนจอยกับกิจกรรมมาก มันก็เป็นอะไรที่คุ้มค่ากับหยาดเหงื่อและน้ำตาทุกหยดเลย เรารู้สึกขอบคุณอาจารย์เอมี่กับพี่ปุยที่ให้โอกาสเราได้ลองเป็น Project Leader และอนุมัติให้เราได้ทำโครงการนี้ขึ้นมา สตาฟทุกคนที่มีส่วนร่วมทำให้โครงการนี้สำเร็จออกมาได้ และน้อง ๆ ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เรามีความสุขมากกกกกกกกกกกกกกกก ^_^

    เสร็จจากโครงการของเราได้ไม่นาน เราก็ไปเป็นล่ามอาสาสมัครที่เชียงดาวในโครงการ General C service ที่เป็นการร่วมมือระหว่าง Hong Kong Polytechnic University, Rotary Club, และมูลนิธิมิตรภาพไร้พรมแดน ที่จริงเราเคยเป็นอาสาสมัครในโครงการนี้ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว แต่ตอนนั้นเราได้ทำผ่าน ZOOM เพราโควิดระบาดหนัก ปีนี้เลยสมัครอีกรอบแล้วชวนเพื่อน ๆ มาสนุกไปด้วยกัน มันสนุกมากทุกคนนอกจากได้ประสบการณ์การล่ามแล้ว ยังได้ไปเที่ยวในเชียงดาวอีกด้วย และได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ อีกหลายคนเลย น้อง ๆ ก็น่ารักเหมือนเดิมเลย ช่วงที่เป็นอาสาสมัครที่เชียงดาวเหมือนเราได้หลุดไปอยู่อีกดลกนึงที่เราไม่ต้องมาเครียดหรือกังวลกับการเรียนที่มหาลัย แล้วได้ชาร์ตพลังจากธรรมชาติและความสดใสของน้อง ๆ เลย ขอบคุณที่สร้างรอยยิ้มให้พี่นะ :) 

    ปีนี้เป็นปีแรกที่มช. มี reading week ตอนสอบ midterm ให้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เอาเวลาไปอ่านหนังสือสอบกลางภาค แต่เราเอาเวลไปรับสอน แหะ ๆ (Money is crucial kha 5555555) เราโดนทาบทามให้ไปสอน Fundamental English 1 ให้เด็กปี 1 เจอร์ปรัชญาจากอาจารย์น้องที่สอนโยคะเรา โหหห เป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากนะ เราได้ยืนสอนหน้าห้อง โดยที่มีเด็กประมาณ 20 กว่าคนเพ่งความสนใจมาที่เราคนเดียว แต่มันสนุกดีนะ พอถามน้องแล้วเขายกมือตอบได้ ทำให้เราแอบยิ้มอยุ่เหมือนกัน นอกจากนี้ปี 2022 ยังเป็นปีแรกที่เรารับสอนวิชาเมเจอร์ ซึ่งก็คือ Intro to Lang ให้กับเพื่อนที่เรียนไมเนอร์อิ้งและรุ่นน้องเจอร์อิ้ง มันสนุกมากกกกกกกกกกก อ่ะ มันก็เหนื่อยแหละ แต่เป็นความเหนื่อยที่เรามีความสุขอ่ะ เรารู้สึกมีความสุขที่ได้ทำมากกว่าอยู่เฉย ๆ นะ เราไม่ชอบอยู่เฉย ๆ 55555555 เอ่ออ ที่เห็นว่าเราเอาเวลาอ่านหนังสือสอบช่วง reading week ไปรับสอนหนังสือ ไม่ใชาว่าเราไม่อ่านหนังสือสอบ แล้วเทการเรียนของตัวเองนะ เราอ่านค้าบบ คือเราอ่านเสร็จหมดก่อนช่วง reading week แล้ว เราเลยมีเวลาว่างไปทำอย่างอื่น?

    ปีนี้เป็นถือปีของการเป็นบัดดี้ให้นักศึกษาต่างชาติที่มาแลกเปลี่ยนที่มช. เหมือนกันนะ เราเป็นบัดดี้ให้ 3 โครงการเลยปีนี้ โครงการแรกคือ USAC เป็นนักศึกษาจากประเทศอเมริกาที่มาแลกเปลี่ยนที่มช. ช่วงสั้น ๆ เราได้รู้จักเพื่อนเพิ่มหลายคนเลย ไม่ได้มีแค่คนอเมริกา แต่มีคนจีนกับคนบราซิลด้วยย พูดแล้วก็คิดถึง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราต้องเตรียมโครงการ "English without Borders" ไปด้วย เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลา hangout กับเพื่อน ๆ มากนัก แต่ทุกครั้งที่ได้เจอกันก็มีแต่พลังบวกให้กันเสมอเลย น่ารักไม่ไหวว ต่อมาคือโครงการบัดดี้ของคณะเราเอง (คณะมนุษยศาสตร์ มช.) เราได้เป็นบัดดี้ให้คนญี่ปุ่น แต่เขาไม่ได้มาแลกเปลี่ยน คือเขาเป็นนักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนที่นี่เลย กิจกรรมที่น่าจดจำเด่นของเราสองคนก็คงเป็นการไปดูหนัง Harry Potter and the Prisoner of Azkaban ด้วยกันที่โรง ฮืออออออ มันดีมากเท๊อ การที่ได้ไปดู harry ในโรงกับคนที่อิน harry เหมือนกันมันดือมากนะ เรายิ้มเหมือนเป็นบ้าตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องเลย และบัดดี้โครงการสุดท้ายคือโครงการของสถาบันภาษามช. เราได้เป็นบัดดี้ให้เพื่อนสิงคโปร์ สิ่งที่เราจำได้เลยคือเรายิ้มและหัวเราจนปวดแก้มเลยอ่ะ เอเนอร์จี้ของเพื่อนคือเต็มจนล้นเลย 555555 อยู่ด้วยมีแต่ความสุขและรอยยิ้ม มันดีมาก ๆ นะการที่ไปร่วมโครงการบัดดี้อ่ะ นอกจากเราจะได้รู้จักเพื่อนชาวต่างชาติใหม่ ๆ แล้ว เรายังได้รู้จักเพื่อนไทยใหม่ ๆ ด้วย มันเป็นการเติมเต็มชีวิตนศ. นอกห้องเรียนที่ดีมาก ๆ เลยล่ะ

    มาถึงประสบการณ์สุดท้ายที่เราอยากแชร์ของปี 2022 แล้ว เราเก็บอันนี้ไว้เป็นอันสุดท้ายเลย เพราะเป็นประสบการณ์ที่เรียกได้ว่าดีที่สุดของปีนี้เลย แค่เราคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นขึ้นมา เราก็มีความสุขแล้วอ่ะ ปี 2022 เป็นปีที่เราได้ไปต่างประเทศครั้งแรกกกก ซึ่งเราได้ไปเมืองควังจู ประเทศเกาหลีใต้ เราได้ไปในนามของโครงการ Brand New Asia (BNA) ซึ่งจัดโดยประเทศเกาหลีใต้ มีประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซียเข้าร่วม เราได้ไปอาทิตย์นึง เป็น 1 อาทิตย์ที่วิเศษมากจริง ๆ เราได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ เยอะแยะเลย ทั้งเพื่อน พี่ รุ่นน้อง อาจารย์จอย อาจารย์ซง และพี่หนิง กิจกรรมวันแรกคือการเอาไอเดียจากปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศแถบเอเชียตะวันอออกเฉียงใต้มาถ่ายทอดเป็นผลงานศิลปะ ซึ่งของประเทศไทย Research ที่เราทำได้ถูกคัดเลือกแหละ ดีใจมากกกกก >< วันอื่น ๆ พวกเราได้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและวัฒนธรรมของเกาหลี แล้วก็ได้เดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ที่สำคัญทางด้านศิลปวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ สวยมากกกกกกกกกก ทุกอย่างมันดีมากจริง ๆ เราได้ไปดู และได้ลองลงมือทำจริง ๆ ซึ่งมันทำให้เราได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลย พอวันสุดท้ายก็เป็นการถก Forum ในประเด็น Sustainability ร่วมกับเพื่อน ๆ ชาวเวียดนาม อินโดนีเซีย และคนเกาหลีใต้ ขอนอกเรื่องนิดนึง ปกติเราจะนอนก่อน 4 ทุ่ม แต่ตอนที่อยู่ที่เกาหลีเรานอนหลังเที่ยงคืนทุกคืนเลย 555555 เพราะเรารู้สึกว่าอยากใช้ทุกนาทีให้คุ้มค่าให้ได้มากที่สุด แล้วตอนเช้าก็ต้องตื่นกันตั้งแต่ 6 โมง แต่พวกเราสู้ค่าา มันมีความสุขจนลืมความง่วงไปเลย หยอกจ้าาาา มีแอบหลับบนรถบัสอยู่เหมือนกัน ใครจะไปไหวอ่ะ ขอหน่อยเถอะ 555555 แต่ตอนทำกิจกรรมก็เต็มที่นะ มันสนุกมากจริง ๆ จนไม่อยากกลับมาเลย (เพราะกลับมาปุ๊บ วันรุ่งขึ้นเรากับเพื่อนก็สอบปลายภาคเลย เวลาอ่านหนังสือหรอคะ เหอะ ๆ อย่าได้ถาม เป็นการสอบปลายภาคแบบที่ไม่ได้อ่านหนังสือเลยค่ะ แหะ ๆ ) เรื่องที่พีคคือวันเดินทางกลับเราป่วย ไข้ขึ้นสูง (ไม่ใช่โควิดนะฮะ) สภาพคือไม่ไหวแล้ว เหมือนเหลือแต่กายหยาบที่โซซัดโซเซไปตามสนามบิน เขาว่ากันว่าเราจะเห็นว่าใครแคร์เราจริงก็ตอนที่เราไม่โอเคนี่แหละ ใช่ค่ะ เราจะไม่สามารถผ่านพ้นวันนั้นมาได้เลย ถ้าไม่ได้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง อาจารย์ และพี่หนิงที่รีบแบ่งเอาสัมภาระทุกอย่างของเราไปถือให้ ที่ไปหาซื้อข้าว น้ำ และยามาให้เรา ทุกคนคอยเข้ามาเช็คอาการเราตลอดเลยว่าโอเคไหม คอยช่วยในทุกขั้นตอนตลอดการเเดินทางจากเกาหลีใต้-กรุงเทพฯ และ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โดยเฉพาะมะปรางที่ตัวติดกับเราตลอด ขอบคุณมากนะเพื่อน เราซาบซึ้งมากจริง ๆ แล้วก็ขอบคุณทุกคนมาก ๆ นะคะ 

    สิ่งที่ทำให้ทริปนี้มีค่าและวิเศษมาก ๆ สำหรับเรานอกจากกิจกรรมแล้ว ก็คงเป็นผู้ร่วมทริปนี่แหละ ทุกคนทำให้ช่วงเวลานั้นขอเรามันดีมากแบบมากจริง ๆ ทริปนี้มันจะไม่ออกมาดีขนาดนี้เลยถ้าขาดใครสักคนไป ทุกโมเม้นต์ที่เราได้ใช้ร่วมกันมันมีค่ามากกก ไม่ว่าจะเป็นที่เราร้องเพลงชาวนากับงูเห่ากลางเกาหลี เต้นบ้า ๆ บอ ๆ คิดอยากจะร้องเพลงก็ร้องออกมา รีบวิ่งแทบตายเพื่อจะไปถ่ายรูปให้ทัน ร้องคาราโอเกะบนรถบัส รีบวิ่งไปชอปปิ้งแล้วกลับมาให้ทันเวลา เซอร์ไพรส์วันเกิดดีไนน์กับพี่ไก๋ ฝึกการแสดงรำวันลอยกระทงในห้องพักอาจารย์ ไปร้องคาราโอเกะตอน 5 ทุ่ม ไปยืนกินโอเด้ง เดินเล่นตอนกลางคืน หรือเดินตามหาร้าน Gong Cha จนสุดท้ายก็ได้กินสมใจ ฯลฯ ทุกโมเม้นต์ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ที่เราได้สร้างร่วมกับทุกคนที่เกาหลีใต้ พอเราย้อนกลับไปนึกถึงทีไรก็ทำให้เรามีความสุขได้ทุกครั้ง เรารู้สึกโคตรโชคดีเลยที่ได้มาเจอทุกคน เราสามารถพูดได้เลยว่าเราชอบตัวเองตอนที่อยู่กับทุกคนในทริปมาก เป็นเราเวอร์ชั่นที่มีความสุขจริง ๆ เราไม่รู้จะบรรยายออกมายังไง แต่มันสุขแบบจริง ๆ เป็นมิตรภาพที่มีค่ามาก ๆ และจะตราตรึงใจเราไปตลอดเลย ขนาดตอนพิมพ์เรายังยิ้มไม่หยุดเลย 

    มะปราง ดีไนน์ หญิง โอม่า ป๋องแป๋ง ซันซัน พี่ไก๋ พี่แฟ็กซ์ พี่ปั้น พี่ต้าร์ น้องหมิง พี่ไมค์ อาจารย์จอย อาจารย์ซง พี่หนิง ซารางเฮโย❤️ 

    ท้ายที่สุดนี้ เราอยากบันทึกความรู้สึกของเราต่อปี 2022
    เราให้คะแนนปีนี้ 10/10 เลย เป็นปีที่ครบรสและคอมพลีทมาก ๆ ของเรา เราได้พัฒนาตัวเองในทุก ๆ ด้านเลย ทั้งด้านการเรียน กิจกรรม การทำงาน และยังได้มิตรภาพดี ๆ อีกนับไม่ถ้วน เป็นปีที่มีคนดี ๆ เข้ามาเยอะมากจริง ๆ เรารู้สึก grateful และ thankful สำหรับทุกคนที่เข้ามาสร้างความทรงจำดี ๆ มาก เป็นปีที่มองย้อนกลับมาเรารู้สึกเต็มอิ่มมาก ๆ ไม่รู้สึกเสียดายหรือ regret กับอะไรสักอย่างเลย เป็นปีที่ดีมาก ๆ แบบมากกกกกกเลย ขอบคุณนะ 2022

    ส่วนตอนนี้เราก็พร้อมสำหรับปี 2023 แล้วล่ะ
    Happy New Year 2023 ค่าาาา



    xoxo
    Kaow Natthanitcha
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in