วันจันทร์อีกแล้ว แพรวเหนื่อยหน่ายกับชีวิตที่ต้องเป็นแรงงานในประเทศที่ไร้ซึ่งความหวังและอนาคต ไม่รู้ว่าทำงานจนตายเธอจะมีวันลืมตาอ้าปากไหม อย่างไรซะนายทุนและคนบน 1% ของ 1% ก็ได้ทุกอย่างไปอยู่ดี แพรวได้แต่รอวันที่ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงอย่างไม่รู้ว่าจะได้เห็นด้วยสายตาตัวเองไหม
แพรวบดเมล็ดกาแฟคั่วอ่อนจากน่าน ค่อยๆ เทกาแฟที่บดแล้วลงไปใน portafilter หยิบ tamper มากดลงไปเบาๆ ถึงจะไม่เคยเป็นบาริสต้าแต่น้ำหนักมือของเธอสม่ำเสมอ แพรวคิดว่าการกินกาแฟดีๆ ในเช้าวันจันทร์เป็นการเริ่มต้นสัปดาห์ที่ดี เครื่องเอสเปรสโซของแพรวทำงานหนักไม่ต่างจากแพรวในวันทำงาน
วันนี้เธอเลือกดื่มกาแฟดำ ท้องไส้ของแพรวรับนมวัวได้ไม่ดีนัก แต่เธอก็ฝืนกินบ่อยครั้งด้วยการเตรียมใจเหมือนราวกับกินยาพิษ เพียงเพื่อความหอมนุ่มในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างที่กำลังนั่งจิบกาแฟกับขนมปังซาวโดห์และเนย แพรวหยิบมือถือมาเช็ค
tan: สวัสดีวันจันทร์คับ
tan: *รูปปะการังสีเหลืองพร้อมคำว่าสวัสดีวันจันทร์*
preawp: นายทำตัวเป็นคุณลุงข้างบ้านได้เหมาะสมดีนะ
tan: ผมแค่ง่วง T T เช้าวันจันทร์มันน่าหดหู่จะตาย คุณแพรวไม่สะทกสะท้านบ้างหรอคับ
preawp: กินกาแฟไหม ฉันชงไปให้
tan: *__* กินคับ ขอคาปูชิโน่ใส่คาราเมลกับวิปครีมเยอะๆ หวานพิเศษ
แพรวอ่านไม่ตอบ แต่เดินไปชงกาแฟที่ครัว ถึงเธอจะไม่ได้เป็นคนกินหวานมากมาย แต่อุปกรณ์เธอพร้อมมาก ในตอนพราวยังไม่ไปเรียนต่อ เธอชอบแวะมากินอาหารเช้ากับแพรว และสำหรับเธอที่ใช้เครื่องเอสเปรสโซ่แบบแมนวล การชงกาแฟให้คือการแสดงความรักรูปแบบหนึ่ง
กาแฟของแทนอยู่ในขวดสแตนเลสแบบควมคุมอุณหภูมิอย่างดี แพรวหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องแทนแล้วเคาะประตู
“สวัสดีวันจันทร์” แพรวทักทาย ยิ้มแห้งๆ ให้แทน
“ทำไมคุณแพรวใจดีจังครับ นี่มันเหมือนโอเอซิสกลางทะเลทรายของเช้าวันจันทร์” แทนท่าทางตื่นเต้นเหมือนหมาโกลเด้นที่เจ้าของเอาขนมมาให้
“ฉันก็แค่ชอบชงกาแฟน่ะ กินแล้วเป็นไงบ้างขอฟีดแบ็คด้วยนะ ฉันกลับไปทำงานละ”
.
ช่วงเวลาตอนสายเป็นเวลาที่แพรวโปรดักทีฟมากที่สุด เธอโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจิตใจของเธอเหนื่อยล้าน้อยลง เมื่อได้ระบายและทำความเข้าใจกับตัวเองมากขึ้น ภูเขาลูกใหญ่ในใจก็กลายเป็นแค่ที่ดอน ความว่างเปล่าจากอาการซึมเศร้าไม่หนักหนาเท่าที่เคย แรงกายไม่ได้ดีนักเพราะปวดหลัง แต่แรงใจน่าจะดีที่สุดในรอบ 4 เดือน
ในหัวของแพรวตอนนี้มีตัวเธอ กับวงกลมเล็กๆ ของเพื่อนสนิทประกอบด้วยพริมและแทน ล้อมรอบด้วยวงกลมใหญ่ๆ ของเพื่อนที่ห่างออกไป พราวไม่อยู่ในนั้น ในอดีตพราวอาจจะอยู่คู่กับแพรวที่ใจกลางวงกลม แล้วมีวงกลมเล็กๆ ของพริมและเพื่อนอีกสองสามคนอีกที แต่ตอนนี้ชีวิตของเธอมีเพื่อเธอคนเดียว
การมีความรักแบบพลาโตนิกที่จริงจังขนาดนี้หาคนเข้าใจไม่ได้ง่ายนัก หลายครั้งเพื่อนๆ มักจะแซวว่าเธอกับพราวเป็นแฟนกัน หรือแม้แต่พริมที่คอยอิจฉาเป็นระยะ แต่เหมือนแทนจะเข้าใจคอนเซปนี้ได้ง่ายดาย เขาทำให้เธอสบายใจจนแพรวอยากชงกาแฟให้แทนกินบ่อยกว่านี้
วันนี้ท้องฟ้าอึมครึม ฝนตกเปาะแปะ แพรวขี้เกียจออกไปซื้อข้าวที่ร้านข้างล่างใกล้ๆ คอนโด ความตั้งใจในการประกอบอาหารไม่ค่อยมีเท่าการชงกาแฟ แพรวต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพลางนึกถึงความเชื่อมโยงของเธอกับพราวในจินตนาการ เป็นแค่เส้นใยบางๆ ลอยอยู่แบบหลวมๆ ภาพของพราวไม่ชัดเจนเหมือนเช่นวันก่อน แพรวรู้สึกยอมรับมันได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่วายรู้สึกผิด
มือถือแพรวสว่างวาบอีกครั้ง เมื่อแพรวนึกสงสัยว่าดีเจผีในห้องวันนี้จะเล่นเพลงอะไร อินโทรอันคุ้นเคยของ Yes I’m Changing ของ Tame Impala ก็ดังขึ้น
I was raging, it was late
In the world my demons cultivate
I felt the strangest emotion but it wasn't hate for once
Yes, I'm changing, yes, I'm gone
Yes, I'm older, yes, I'm moving on
And if you don't think it's a crime, you can come along with me
แน่นอนมันไม่ใช่อาชญากรรม แต่เธอควรจะจดจำมันได้ดีกว่านี้หรือไม่ แพรวได้แต่ถามตัวเอง
เพลงเล่นไปเรื่องๆระหว่างที่แพรวกำลังคีบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเข้าปาก จิตใจของแพรวไม่ได้คิดถึงอะไรเป็นพิเศษ ล่องลอยไปกับท้องฟ้าสีเทาและเมฆก้อนใหญ่หนาหนัก แพรวเอื้อมมือไปกดปุ่มรีพีทเพลงที่ดีเจผีในห้องเลือกให้
เมื่อทานมื้อกลางวันเสร็จ แพรวเกิดอยากสูบบุหรี่ เธอรู้ตัวดีว่านอกจากการจัดการเรื่องความรู้สึกตัวเอง ยังมีปัญหาที่เธอพึ่งพิงเหล้าและบุหรี่มากเกินกว่าที่ควร แพรวเปิดหน้าต่าง กลิ่นฝนลอยเข้ามาในห้อง เธอหยิบไม้ขีดมาจุดบุหรี่ ควันสีเทาลอยปะปนไปกับบรรยากาศอึมครึมของกรุงเทพ
บรรยากาศฝนตกและกรุงเทพเทา โดยปกติแล้วมักให้ความรู้สึกอยากนอนคุดคู้ในผ้าห่ม กอดหมอนอิงหน้าโซฟา แต่ประเทศไทยในยามนี้ย่ำแย่เกินกว่าที่แพรวจะรู้สึกรื่นรมย์กับภาพตรงหน้า พ่อแม่ของเธอในวัยเกษียณยังไม่ได้รับวัคซีน เธอเองก็เช่นกัน
สิ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนอาจจะเป็นความต่ำตมของรัฐบาลจัญไร
I saw it different, I must admit
I caught a glimpse, I'm going after it
They say people never change but that's bullshit, they do
อ๋อ แต่ก็มีนักการเมืองและนักเขียนวัยบูมเมอร์ที่ย้ายข้างไปอยู่ฝั่งทรราชนั่นไง ใครๆ ก็เปลี่ยนได้นะ
.
ความรู้สึกผิดที่แพรวมีต่อพราวดูเล็กจ้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ประเทศไทยเผชิญอยู่ตอนนี้ ความสัมพันธ์ของเธอกับพราวส่งผลอย่างมากก็แค่เธอ และอาจจะมีพริมและแทนที่ต้องคอยมารับฟัง แต่ปัญหาการบริหารจัดการที่ล้มเหลวและประชาธิปไตยปลอมๆ นี่ต่างหากที่ส่งผลกับคนทั้งประเทศ การมองไปข้างหน้าของแพรวแล้วเห็นแต่ตัวเองไม่ใช่อาชญากรรม ต่างกับรัฐไทยที่ทำคนตายไปนับไม่ถ้วน
แพรวไม่ชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เช่นการเอาความเศร้าตัวเองมาเปรียบเทียบกับเด็กที่เข้าไม่ถึงน้ำสะอาดในแอฟริกา แต่นาทีนี้ที่คนตายตลอดเวลา แพรวไม่รู้จะทำเป็นไม่เห็นสิ่งที่รัฐบาลทำได้อย่างไร และในสถานการณ์แบบนี้ การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ ตัวตนใหม่ของเธอไม่ใช่อาชญากรรม เพียงแค่ต้องการจะเข้มแข็งและมีความสุขมากขึ้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in