The Matrix
กล่าวได้ว่า ผู้เขียนนั้นเคยได้ยินเพียงคำร่ำลือถึงความเป็นสุดยอดหนังไซไฟที่เต็มไปด้วยความเท่และความขี้โม้อันสุดแสนจะตระการตาของอีกหนึ่งไตรภาคโลกไม่เคยลืมอย่าง The Matrix ซึ่งพอเอาเข้าจริงแล้ว ทุกอย่างที่ปรากฏในโลกอินเทอร์เน็ตนั้นยังไม่ถึงแม้แต่เสี้ยวความสุดยอดของหนังเรื่องนี้เลยสักนิดเดียว
"อย่าคิด แต่จงเชื่อ" หนึ่งในประโยคภายในเรื่องที่เปรียบเสมือนแรงขับเคลื่อนให้กับเหล่าตัวละครเอกสำหรับการเดินไปข้างหน้าเพื่อที่จะเข้าสู่จุดไคลแมกซ์อย่างสง่าผาเผย เพราะทุกอย่างที่ตามหลังประโยคนี้มา มันคือการรองรับความขี้โม้ของหนังด้วยเหตุและผล จนกลายเป็นความเท่บาดขั้วหัวใจคนดูอย่างไม่ตกยุคตกสมัย ซึ่งมันก็แสดงให้เราเห็นว่า The Matrix เป็นหนังที่เล่นประเด็นการศรัทธาในบางสิ่งได้อย่างวัยรุ่นไม่ใช่น้อย เมื่อเทียบกับหนังเรื่องอื่น ๆ ที่แตะต้องประเด็นเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้เอง The Matrix จึงเป็นหนังที่กล่าวถึงประเด็นการเชื่อในตัวเอง-ได้อย่างร่วมสมัยผ่านลีลาที่ไม่ซ้ำซากจำเจ รวมไปถึงการนำเสนอที่ลึกซึ้ง แต่ก็ไม่ซับซ้อนเกินเข้าใจ หรือก็คือ ในความเป็นแอคชั่นไซไฟของหนังเรื่องนี้ เนื้อในของมันกลับเต็มไปด้วยการ Coming of age ที่หนักแน่นไปด้วยเส้นทางเพิ่มความมั่นใจต่อตัวเอง โดยที่ไม่ด้อยไปกว่าหนังวัยรุ่นยุค 90 ที่ออกฉายในยุคนั้นเลย
ถึงอย่างไรก็ตาม หากมองลึกลงไปในพล็อตของหนังอย่างแท้จริง เราจะเห็นได้ถึงความคลิเช่ (cliché) ของโครงเรื่องที่มีมาตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่างพล็อตที่พระเอกคือ Nobody คนหนึ่งและค้นพบว่าตัวเองคือผู้ถูกเลือก (ผู้ปลดปล่อย) เพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติจากภัยร้ายผู้ต้องการยึดครองโลก ซึ่งตัวอย่างไม่ใกล้ไม่ไกลแต่ชัดเจนเห็นจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้อีกนอกจาก Star Wars Episode IV
ทว่าทางผู้สร้างอย่างพี่น้อง Wachowski ก็ได้นำองค์ประกอบอันหลากหลายมากวิสัยทัศน์มาล้อมกรอบความธรรมดาของพล็อตให้หนังออกมาฉูดฉาดในแง่ของการนำเสนอ ทั้งในส่วนของงานภาพ ดนตรีบรรเลง และที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นเทคนิคสโลวโมชั่นที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามค่อนไปทางสุดโต่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉากต่อสู้หมัดต่อหมัดที่ไม่ได้หยิบยืมมาแค่ศิลปะการต่อสู่ แต่ยังหยิบยืมสไตล์การถ่ายทำของหนังจีนมาใช้ ส่งผลให้แอคชั่นหลาย ๆ ฉากมีความดูง่าย ดุดัน และมีชั้นเชิงสมกับที่นำศิลปะการต่อสู้นอกประเทศมาใช้
จากที่กล่าวไปทั้งหมดคือเหตุผลที่น่าจะพอฟังขึ้นบ้างแล้วว่า ทำไม The Matrix จึงถูกจัดเป็นหนึ่งในหนังแห่งยุคที่ควรเปิดดูเองมากกว่าการฟังหรือดูจากวิดีโอสปอยตามอินเทอร์เน็ตที่ไม่สามารถอธิบายได้ถึงเศษเสี้ยวของความเท่ ความขี้โม้ และชั้นเชิงอันสุดโต่งของหนังเรื่องนี้
เขียนโดย: พัทธนันท์ สวนมะลิ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in