เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Movie(s)Red Suanmali
Minari (2020) ฝันหวานอย่างฝืนทน
  • Minari (2020)


    เมื่อผู้อพยพพยายามยึดถือแนวคิด American Dream ที่จนแล้วจนรอด มันก็ดูจะไม่สวยหรูเหมือนดั่งคำพูดสักเท่าไหร่นัก เพราะตั้งแต่เริ่มต้นมา กลวิธีที่ผู้กำกับ อี ไอแซค จอง เปิดประเดิมใส่คนดูผ่านสีหน้าท่าทางของโมนิกา (ฮันเยริ) ที่ชัดเจนไม่มากก็น้อยเมื่อเธอเห็นถึงสถานที่ตรงหน้า ซึ่งกำลังจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ของเธอกับลูกสาวคนโต และลูกชายคนเล็ก โดยมีสามีช่างฝันคอยพรํ่าพรรณนาว่า ในอนาคตมันจะกลายเป็นสวนอีเดนของเรา นั่นจึงทำให้แม้แต่คนดูเองก็สามารถรู้สึกได้ถึงความไม่เวิร์คที่แผ่ออกมา


    อีกหนึ่งกลวิธีที่น่าสนใจคือ ความขัดแย้งกันของสองวัฒนธรรม เห็นได้ชัดจากตัวละครเจค็อบ (สตีเฟน ยอน) ที่กล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า "นี่คือวิธีแบบอเมริกัน" ขณะเดียวกัน รากเหง้าทางความคิดความอ่านของประเทศบ้านเกิดในตัวเขาก็ยังคงชอนไชอยู่รอบกาย ซึ่งมันก็แสดงออกมาผ่านคำพูดเช่นเดียวกันว่า "คนเกาหลีใช้สมอง" ทั้ง ๆ ที่เขากำลังฝันหวานแบบอเมริกันอยู่ ไม่เพียงเท่านั้น ชายเป็นใหญ่เอย ทุนนิยมเอย ตัวละครของเขาถูกเล่าให้รู้จักผ่านตัวของเขาเองอย่างหมดจด ซึ่งความพยายามก่อร่างสร้างฝันอย่างลุ่มหลงและละเลยนี้เองที่ทำให้คนดูไม่แปลกใจถึงสภาวะระหองระแหงภายในบ้านที่รอวันปะทุได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยมีสาเหตุหลักมาจากชายผู้พูดออกมาว่า เขาจะเป็นคนดูแลครอบครัว (ตามใจเขา) เอง


    ไม่เพียงเท่านั้น กลวิธีข้างต้นยังถูกนำเสนอผ่านความสัมพันธ์ระหว่างคุณยาย (ยุนยอจอง) กับเดวิด (อลัน คิม) ผู้มีสถานะเป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน ความต่างของช่วงวัยและวัฒนธรรมไม่เพียงแต่จะทำให้ความไปกันได้ของทั้งคู่ดูจะไม่ดีค่อนไปทางย่ำแย่ ท่าทีของเดวิดที่มีต่อคุณยาย และท่าทีของคุณยายเองส่งผลให้ในบางช่วง คนดูอย่างเรา ๆ อาจฉุกคิดหรือตัดสินไปถือหางเดวิดในทันทีทันใด ทว่าในอีกมุมหนึ่ง บทบาทของคุณยายผู้สร้างปัญหากลับกลายเป็นคนที่นำพาทุกตัวละครกลับคืนสู่รากเหง้าของความเป็นครอบครัว โดยมีความแตกสลายของตัวเอง (ทั้งทางร่างกายและจิตใจ) เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนอย่างจำยอม


    หนึ่งในสิ่งที่ผู้เขียนสนใจ นั่นคือตัวละครแอนน์ (โนเอล โช) พี่สาวคนโตผู้อยู่ในช่วงวัยที่ไม่เด็กและไม่โต หรือก็คือพอรู้เรื่องรู้ราว โดยเฉพาะกับการที่เธอเป็นคนเปิดประเด็นการแยกทางของพ่อแม่กับน้องชายว่า เขาพอใจที่จะอยู่กับใครมากกว่ากัน ตรงจุดนี้เองที่หนังแจ้งให้ทราบถึง วุฒิภาวะที่ตัวละครมีท่ามกลางครอบครัวอันสั่นคลอนไม่เหนียวแน่น ซึ่งเธอทำได้เพียงทำใจยอมรับมันไปโดยปริยาย


    ทั้งหมดที่กล่าวไปพิสูจน์ให้เห็นว่า อี ไอแซค จอง นั้นค่อย ๆ ฟูมฟักตัวละครอย่างทะนุถนอม จนเมื่อถึงคราวปล่อยของ มันก็ชวนให้อบอุ่นหัวใจในความเป็นมนุษย์ของแต่ละคน รวมไปถึงตัวละครรองอย่าง พอลล์ (วิลล์ แพตตั้น) ผู้เปรียบเสมือนหมีพูห์ของเรื่องราวอันแสนผู้ใหญ่นี้ และถึงแม้ว่าพวกเขาจะยืนอยู่บนความฝันหวานอย่างฝืนทน แต่บทเรียนที่ได้รับก็ดูจะคุ้มค่ากับการฝืนทนเพื่อหักเลี้ยวตัวเองกลับมาสู่ความเป็นจริง


    เขียนโดย: พัทธนันท์ สวนมะลิ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in