เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
LOng shOrt stOryNitipoom K.
ดาวหาง
  •      ตื่นจากความฝัน จากนั้นก็ลืมตาตื่น ลุกยืนอย่างงัวเงียไปอาบน้ำแปรงฟัน กินข้าวเช้าตอนสายๆ เสร็จแล้วก็อ่านหนังสือไปเรื่อยๆ หิวก็กิน ง่วงก็นอน เบื่อก็เปลี่ยนไปดูหนังแทน ไม่ได้มีเพื่อนฝูงในชีวิตแต่อย่างใด

         ผมใช้ชีวิตช่วงเศษหนึ่งส่วนสี่ของปิดเทอมไปอย่างว่างเปล่า วนลูปเป็นวังวนไปมา เริ่มที่ตื่น จบที่นอน เหงาและเดียวดายเหมือนกับดาวพลูโต
         ดาวพลูโตมีดาวบริวารห้าดวง ผมก็มีบริวารห้าอย่างเหมือนกันคือ อาหารสามมื้อ หนังสือกองยักษ์หนึ่งกอง และแอพพลิเคชั่นดูหนังหนึ่งแอพฯถ้วน รวมกันก็ได้ห้าครบองค์พอดี
         สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างผมกับดาวพลูโตก็คือ ผมนั่นเล็กจ้อยและด้อยค่า เป็นดั่งก้อนน้ำแข็งโสโครกหมุนรอบตัวเองอย่างเดียวดายตามขอบจักรวาลที่ไม่มีใครเข้าใกล้ด้วย
         กระทั่งดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงมาทักเตือนพร้อมกับแรงดึงดูดที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนก้อนน้ำแข็งโสโครกก้อนนี้เริ่มเคลื่อนที่ออกไปจากที่เดิมของมัน

         "เดินออกจากระยะปลอดภัยแล้วสินะ" ผมคิดหลังจากเห็นชื่อของผมในรายชื่อคนบริการนักอ่านที่ต้องขายหนังสือในงานหนังสือเป็นครั้งแรก

           งานนี้เป็นการทำงานพิเศษครั้งแรกของผม ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับหนังสือที่คลุกคลีผ่านตาอยู่ทุกวัน แต่ในตอนนี้กลับมีความตื่นเต้นที่ครอบครองพื้นที่ความคิดจนไม่เหลือที่ว่าง จะเจองานแบบไหนบ้างนะ ลูกค้าจะเป็นยังไง ที่สำคัญคือเราเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้หรือเปล่า
           ก้อนน้ำแข็งโสโครกอย่างผมไม่มีทางรู้เลยว่าจะไปชนกับอะไรบ้าง

           ข้างหน้าก้อนน้ำแข็งโสโครกอย่างผมมีดาวเคราะห์แห่งชีวิตชีวาที่สดใสในตัวของมันเองโดยไม่ต้องพึ่งดวงอาทิตย์รออยู่
           ผมพบกับเธอครั้งแรกในวันเตรียมงาน
           เธอมีผมที่ยาวประบ่า ริมฝีปากสีชมพูที่ข้างในมีเหล็กจัดฟันอยู่ในนั้น พร้อมด้วยดวงตาคู่ที่ดูนิ่งๆมีแว่นตาซ้อนทับอยู่ภายนอก
           เธอไม่ค่อยปริปากพูดเท่าไหร่ในการเตรียมงาน สิ่งที่เธอทำก็คือขนหนังสือมาวางเรื่อยๆ
           แรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ดึงก้อนน้ำแข็งโสโครกมาตัดกับวงโคจรของดาวเคราะห์พอดี
           ทั้งแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์ทำให้วงโคจรของก้อนน้ำแข็งโสโครกเปลี่ยนไป

           ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะแรงดึงดูดของใครที่ทำให้ผมไปยืนจัดหนังสือข้างๆกับเธอ
           เราไม่ปริปากเอ่ยคำอะไรใดๆออกมาทั้งคู่ ไม่รู้ว่าเธอจะอยากทักทายกันเหมือนกับที่ผมอยากหรือเปล่า 
           เสียงแห่งความเงียบระหว่างผมกับเธอดังนานประมาณสามชั่วโมงเห็นจะได้ จนจบการเตรียมงานและเสียงที่แหบห้าวแต่ไพเราะที่สุดของเธอดังกลบเสียงความเงียบขึ้นมา 
           เธอทักทายผม ถามเรื่องการเรียนของผม 
           ผมตอบกลับและเริ่มการสนทนา จึงได้รับรู้มาว่าเธอแก่กว่าผมไม่กี่ปี และมีความสนใจในด้านวารสารและหนังสือเหมือนผม
           เลิกงานแล้ว ผมเดินไปที่สถานีรถไฟศูนย์สิริกิต์ฯพร้อมกับเธอ เธอมีปลายทางคนละทางกับผม ส่วนปลายทางของผมจะไปนั้นต้องไปอีกทางหนึ่ง 
           ผมอยากไปส่งเธอเหลือเกิน แต่ก็เจียมตัวเล็กๆ 
           ก้อนน้ำแข็งโสโครกอย่างเราจะไปเทียบเท่าดาวเคราะห์ได้ยังไงกัน 
           สุดท้ายผมตัดใจส่งเธอแค่หน้าประตูรถไฟฟ้า กลับบ้านอย่างโดดเดี่ยวด้วยความคิดถึง ไม่รู้ว่าอีกสิบกว่าวันความสัมพันธ์ของผมและเธอจะเป็นอย่างไร 
           ก้อนน้ำแข็งโสโครกคงโคจรรอบดาวเคราะห์อย่างเธอได้ประมาณสามรอบแล้ว

           ผมพยายามเข้าใกล้และพูดคุยกับเธอในวันต่อๆมา แต่ด้วยแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์คงทำให้ผมเข้าใกล้เธอยากขึ้นไปอีก 
           ก้อนน้ำแข็งโสโครกถูกดึงออกมาเรื่อยๆๆๆ จนหลุดวงโคจรจากดาวเคราะห์ 
           มองจากดาวเคราะห์ก็ไม่เห็นก้อนน้ำแข็งโสโครกแล้ว แต่ก้อนน้ำแข็งโสโครกยังเห็นดาวเคราะห์อยู่ 
           ผมกับเธอพูดกันน้อยลง แต่ผมมองเธอมากขึ้นทุกวันๆ จนถึงวันสุดท้ายของงาน
           ผมยังมองเธออยู่ เขียนคำบอกลาในสมุดของเธอที่เธอเอามาให้เขียน 
           ผมอยากพูดคำหลายคำกับเธอ อยากสารภาพอะไรหลายๆอย่าง แต่จากตำแหน่งของผมกับเธออยู่ห่างกันเกินกว่าที่เสียงของผมจะไปถึง 
           ก้อนน้ำแข็งโสโครกได้แต่ผลักดันตัวเองพุ่งไปตามแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ 
           หวังว่าก้อนน้ำแข็งโสโครกนี้จะถูกความร้อนจากดวงอาทิตย์จนระเหิดเป็นฝุ่นผงเรื่อยๆไปตามทาง 
           หวังว่าก้อนน้ำแข็งโสโครกก้อนนี้จะเปลี่ยนเป็นดาวหางส่องแสงแทนคำว่ารักไปให้ดาวเคราะห์ที่มีชื่อว่าเธอได้มองเห็น

           สักห้วงเวลาหนึ่งในจักรวาลอันแสนกว้างใหญ่ หวังว่าเธอจะเห็นดาวหางดวงนี้
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in