14 พฤศจิกา 2562
ที่เป็นครั้งแรกที่ัเรามีนัดกับจิตแพทย์
เป็นเวลานานอยู่ที่เราครุ่นคิดเรื่องนี้ เราเองก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาพบจิตแพทย์ ต้องมาหาหมอรักษาจิต แต่เราไม่มีทางเลือกมากนักและเราก็อยากรู้สึกดีขึ้น เราอยากให้ใครสักคนตัดสินเราโดยความรู้ ความเชี่ยวชาญ ไม่ได้ตัดสินเราโดยอารมณ์เหมือนที่เราเจออยู่เป็นประจำ
ปัญหาของเราก็คือ ''ความกังวล'' เราคิดว่าตัวเองมีโอกาสที่จะเป็นโรควิตกกังวล (Anxiety disorder) อาการมันเกิดขึ้นเมื่อเราเริ่มทำงานได้ประมาณ 2-3 เดือน มันมีความรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิดสักอย่าง มีคนพูดรับหลังเรา รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าที่ทำงาน กลัวว่าคนอื่นจะมองว่าเราขี้เกียจ ความรู้สึกพวกนี้มัน
สตรอง สตรอง ขึ้นเรื่อยๆจนทำให้เรากลัวการไปทำงาน วันๆในสมองมีแต่เรื่องงาน เรื่องคนที่ทำงาน
จนในที่สุดเราตัดสินใจว่าเราจำเป็นต้องพบจิตแพทย์
เป็นเวลาเกือบ 40 นาทีที่เราคุยกับคุณหมอ เป็น 40 นาทีที่เราพลั้งพลูทุกอย่างออกมา ทั้งร้องไห้ บอกทุกอย่างที่เรารู้สึก อธิบายทุกอย่างที่หมอถาม จนกระทั่งมาถึงจุดนึงที่คุณหมอบอกว่า ''คุณไม่ได้เป็นโรควิตกกังวลหรอกครับ แต่คุณแค่กังวลว่าคนอื่นจะมองคุณยังไง มันเป็น personality ของคุณซึ่งถ้าพูดตรงๆก็คือเป็นห่วงภาพลักษณ์ของตัวเอง มันเลยทำให้คุณกังวลเวลาที่ไม่มีงานทำหรือไม่ได้ทำงานเยอะแล้วคนอื่นจะพูดอย่างไร แหละนั่นก็เป็นเหตุผลที่คุณมีเพื่อนไม่เยอะ เพราะคุณจะคบกับคนที่เค้าไม่ตัดสินคุณเท่านั้น'' เราสะอึกกับคำตอบที่ได้จากหมอ ร้องไห้ออกมาอีกรอบ มันทำให้เราตระหนักได้ว่า ใช่มันคือตัวตนของเราที่กังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไง อยากให้คนภายนอกมองว่าเรา เก่ง ขยัน มีฐานะ โดยที่เราไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าคนคนนั้นคือใคร ทำไมเราต้องแแคร์เขาขนาดนั้น
เราว่าสิ่งที่หมอพูดมันทำให้เรายอมรับในตัวตนของตัวเองและพยายามปรับปรุงตัวเอง เรากำลังจะเปลี่ยนไปเป็นคนที่เราเกลียด เราไม่อยากเป็นแบบนั้นเลย
การพบจิตแพทย์ของเราครั้งนี้มันมีคุณค่าทางจิตใจกับเรามาก ถึงเราจะไม่ได้เป็นโรคอะไร แต่เหนือสิ่งใดเรากำลังจะกลายเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเรา การพบหมอทำให้เรารับรู้ในตัวเองมากขึ้น เราพยายามต่อสู้กับมัน เราพยายามที่จะเป็นผู้หญิงที่เราอยากจะเป็น ถึงตอนนี้เราก็พยายามอยู่
ถึงตัวฉันในอนาคต
Do not try to be someone you are not.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in