"ดูแล้วร้องตั้งแต่แรกๆของเรื่องเลยอะ"

"น่ารักดี ลองไปดูดิ"

เพื่อนๆหลายคนแนะนำให้ดูหนังเรื่องLittle Boy หลังจากเราได้ไปเห็นชื่อหนังในนิยายแชทที่อ่าน เลยเอามาถามคนอื่นว่า รู้จักเรื่องนี้ไหม เป็นไงบ้าง สนุกรึเปล่า คำตอบที่ได้ก็คือ ควรไปลองดู

เปิดเรื่องมาก็โอเคกับบรรยากาศความอบอุ่นของพ่อกับลูก การที่แสดงว่าพ่อกับลูกคู่นี้เป็นคู่หูที่เข้ากันได้ดีขนาดไหน 

แต่ก็ทำให้เศร้าเพราะคู่หูจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะพ่อจะต้องไปเป็นหนึ่งในทหารของกองทัพสหรัฐเพื่อร่วมรบในสงคราม 

นาทีที่7เป็นครั้งแรกที่เราเสียนำ้ตาจากการลำ่ลาของคนในครอบครัว เพราะต้องจากกัน แล้วไม่รู้จะได้กลับมาเจอกันอีกไหม

ความจริงแล้วยังมีอีกหลายฉากที่ทำให้นำ้ตาไหล โดยเฉพาะหลังๆ แต่ฉากที่ทำให้ยิ้มจากความน่ารักของเพพเพอร์ก็มีให้เห็นบ่อยๆ การเก็บเงินซื้อรองเท้าที่พ่ออนากได้ ซื้อตั๋ว2ใบเพื่อรอพ่อกลับบ้าน

ชอบเรื่องนี้ตรงที่บอกว่าอย่าสูญเสียศรัทธา ไม่ว่าจะทำอะไร เราควรเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ(ในสิ่งที่ไม่ได้ทำร้ายคนอื่น) ถึงแม้ว่าคนอื่นอาจจะไม่เห็นด้วย บางทีศรัทธาเล็กๆ ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ และสามารถขับเคลื่อนเราได้

ส่วนเรื่องการผูกมิตรกับคนที่คนอื่น ที่ถูกมองว่าเป็นศัตรู บางทีการอคติ หรือการเหมารวมว่าคนนั้นไม่ดีเพราะปัจจัยต่างๆที่คนๆไม่ได้ทำ บางทีมันก็ไม่แฟร์กับคนที่ถูกเกลียดในขณะที่ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ในเรื่องด้วยความเป็นเด็กที่ยังมีจิตใจที่บริสุทธิ์เลยทำให้มองความความอคตินั้นไป และสามารถผูกมิตรกับคนอื่นได้

อีกอย่างที่ชอบคือความมั่นคงของแม่เพพเพอร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังมั่นคงอยู่อย่างนั้น ให้ความสำคัญกับวันครบรอบแต่งงาน ปฏิเสธผู้ชายคนอื่นเพราะยังคงมั่นคงกับสามีอยู่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สวยงาม 

ยังมีอีกหลายส่วนในหนังเรื่องนี้ที่ทำให้เราฉุกคิด แต่เรื่องที่เห็นชัดคืออย่าสูญเสียศรัทธาในตัวเอง ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ สักวันหนึ่งมันจะเกิดผลจากความศรัทธาและการลงมือ

หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เรียกนำ้ตาของเราได้หลายช่วงของหนัง และเด็กตัวเล็กๆในเรื่องก็กลายเป็นแรงผลักดันให้ผู้ใหญ่หลายๆคนที่ดูเรื่องนี้ ประโยคที่ผุดขึ้นมาในหัวหลังดูจบก็คือ...

JS.