จอห์นนี่ ซอ ไม่เคยคาดคิด
ว่าชายหนุ่มที่เป็นที่หมายตาหมายใจของหญิงสาวหลายต่อหลายคนอย่างไทเลอร์จะมาปรึกษาแบบจับเข่าคุยกันกับเขาถึงบ้าน ว่าด้วยเรื่องวิธีขอเจน สาวแว่นเจ้าของผมสีจินเจอร์ที่วันๆขลุกอยู่แต่กับหนังสือ ไร้ท่าทีสนใจจะออกเดทกับใคร ไปพรอมด้วยกัน
"แกว่าเจนจะตอบตกลงไหม"
ไทเลอร์ที่มุดหน้าเข้าไปในปลอกหมอนด้วยความสิ้นหวังเอ่ยถามเสียงเบา
หลังจากหาร้อยแปดวิธีและไอเดียชวนไปพรอมไนท์กันอยู่หน้าคอมสองคน นานหลายชั่วโมง
พบว่าไม่มีวิธีไหนที่ไทเลอร์จะสามารถพิชิตใจเธอได้นอกจากการเดินเข้าไปถามตรงๆอย่างที่พึงกระทำ
"ฉันไม่รู้"
สมองของจอห์นนี่ว่างเปล่า
หากเป็นเรื่องแบบนี้ สู้เดินต่ออีกนิดไปถามดีนที่อยู่บล็อคถัดไปจากเขาน่าจะได้คำตอบเจ๋งๆกลับมามากกว่าเสียอีก
"แล้วแกจะไปกับใครล่ะ? คิดไว้หรือยัง"
ไทเลอร์ลุกขึ้นมานั่งดีๆหลังจากที่เขาใช้เท้าเขี่ยให้เจ้านั่นลุกออกจากหมอนและเตียงนอนนุ่มๆเพราะกลัวเพื่อนสนิทเผลอหลับ
จอห์นนี่ชะงัก
"ก็คงจะเมย์ล่ะมั้ง , ถ้าเซลีนไม่ขอเธอก่อน"
"เธอต้องเลือกเซลแหง"
"ฉันถึงได้กลุ้มใจอยู่นี่ไง"
"ไปขอคนอื่นซี่ , ใจคอจะไปแต่กับเพื่อนหรือไง นี่มันพรอมนะ"
"ก็แค่งานโง่ๆ ฉันไม่ได้อยากไป"
เขายักไหล่ โยนหมอนใบเล็กในมือใส่หน้าไทเลอร์ที่เริ่มรุกรานพื้นที่นุ่มนิ่มในห้องของเขาอีกครั้ง
"และฉันเองก็ไม่รู้จะไปกับใครด้วย"
เขาตอบ
ไม่ใช่ว่าจอห์นนี่ซอ ไม่เป็นที่นิยมในหมู่หญิงสาว
แน่นอนว่าเขาเองก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงและเครดิตดีๆติดตัวหลายอย่างให้คุยโวได้ไม่แพ้คนอื่น
หากพูดถึงจอห์นนี่ ชาวเมคลีนก็จะนึกถึง
รอยยิ้มที่สุดแสนจะเป็นมิตร, ที่ชอบแจกจ่ายให้ใครก็ตามเมื่อเข้ามาพูดคุย
เขาที่ใครๆต่างเอ่ยทักทายยามเดินผ่านโถงทางเดินยาว
และก็เขาอีกล่ะที่หอบหิ้วของขวัญกับจดหมายนับตันในล็อคเกอร์กลับบ้านในวันวาเลนไทน์
แน่นอนว่า เขามีตัวเลือกมากมาย
, แต่ว่า
"เห็นว่าเจย์กับอาย่าจะไปพรอมด้วยกัน"
เด็กหนุ่มหูผึ่ง หันไปสบตาไทเลอร์ที่นอนอ่านหนังสือ'ถ่ายภาพบุคคลเบื้องต้น'ของเขาอยู่บนพื้นห้อง
"ไม่ใช่ว่าอาย่าเดทกับร็อบอยู่เหรอ" จอห์นนี่ถามหยั่งเชิง
ทั้งที่รู้ทุกอย่างของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
"ไม่รู้สิ หวยลงที่เจย์ล่ะมั้งคราวนี้"
"เธอชอบนักกีฬา" จอห์นนี่เปรยถึงอาย่า
ส่วนเจย์นั้นเป็นนักกีฬา เขาเล่นในทีมเบสบอลของโรงเรียน
, ซึ่งอันที่จริงก็เล่นได้แทบทุกอย่าง
ตัวแทนแข่งขันกีฬาเทนนิสฤดูร้อน ตัวแทนกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน
ตัวแทนแข่งสะกดคำตอนประถม ตัวแทนดีเบตและแข่งขันวิทยาศาสตร์ระหว่างโรงเรียนในเวสเวอร์จิเนีย
เจ้าของฉายาเซนต์วาเลนไทน์ , เจ้าชายแห่งความรัก ทั้งมีเสน่ห์และฉลาด
และทั้งๆที่เขาฮอตออกปานนั้น กลับไม่มีใครรู้สึกเกลียดชังหรือพากันหมันไส้เลย
ดูท่าแล้วปีนี้ก็คงจะได้เป็นพรอมคิงด้วย
เจย์ จอง คือ High-School Sweetheart ตัวจริงเสียงจริง
"เจย์ใส่สูท สาวๆคงหลงหัวปักหัวปำ" ไทเลอร์กล่าวออกมาอย่างน้อยใจในโชคชะตา
ถึงแม้ไทเลอร์เองก็เป็นอีกหนึ่งที่รักและเทิดทูนของนักเรียนในเมคลีนไฮ แต่ถ้าแข่งล่ะก็ คงจะแพ้เจย์อยู่ดี เพราะเขากระจายฐานแฟนคลับได้อย่างทั่วถึง แม้แต่กลุ่มครูก็รักเขา
จอห์นนี่พยักหน้าเห็นด้วยเมื่อได้ยิน
สูทสีขาวก็คงจะดูดี
แต่เขาผิวขาวนี่ ใส่สีเข้มอาจจะดูขึ้นกว่า
จะเซ็ทผมขึ้นไหม? เหมือนโฮมคัมมิ่งตอนนั้นที่ไปกับเชอร์รีล
ตอนนั้นใส่เสื้อสีอ่อน ผมก็ยังเป็นสีอ่อน
ช่วงนั้นเดินผ่านเจย์ทีไรก็เหมือนเห็นแสงออร่ากระจายออกมาทุกที
พวกสาวๆชอบเปรียบเทียบเจย์เป็นแมว ชมว่าน่ารัก น่ากอดบ้าง
แอบเห็นด้วยว่าน่ารักจริงๆนั่นแหละ ถึงจะเป็นผู้ชายตัวไม่น้อยไปจากเขาเลยก็ตาม
จอห์นนี่ถอนใจ ก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆให้เพื่อนได้ฟัง
"ถ้าเป็นเจย์ , ฉันยอมเป็นพรอมควีนให้เขาเลย"
"ฮะ?"
"แกเนี่ยนะ"
ไทเลอร์อึ้งไปสักครู่ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาดังพรืด แถมยังส่งเสียงขำแรงเสียจนเขาเองก็เผลอหัวเราะตามไปด้วย
เราสองคนหัวเราะจนปวดท้อง และยิ่งสติแตกมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อไทเลอร์เอ่ยปากถามออกมาว่า
เดรสของเขาจะเป็นสีอะไร
"สีน้ำเงินไหม ฉันว่าน่าจะเข้ากับสีผมฉันนะ"
จอห์นนี่ตอบอย่างยากลำบาก
เขานึกภาพตัวเองใส่เดรสตัวโปรดของแม่ ตัวเขาเองในชุดของคนสูง160กว่า
ก็ไม่เลวนี่
"สาวๆทั้งโรงเรียนจะต้องอกหักเพราะพวกนายแน่ๆ"
ไทเลอร์เอาหมอนเขาไปอีกแล้ว คราวนี้จุดประสงค์ในการมุดหมอนคงเป็นการซ่อนใบหน้าของเขาออกจากการมองเห็นของตัวเอง
เราสนใจเรื่องสีชุดเดรสของเจนขึ้นมาเฉยๆเหมือนเป็นการเปลี่ยนประเด็น เพื่อลบภาพจอห์นนี่พรอมควีนออกจากหัว , ซึ่งไทเลอร์เห็นด้วยเป็นอย่างมาก ที่จะลองค้นหาชุดแสนสวยเพื่อจินตนาการถึงเธอในงานวันนั้น
แม้จะดูโรคจิตไปนิด แต่ก็พอช่วยเยียยาได้
จากนั้นเขาก็ลืมเลือนคำพูดของตัวเองเรื่องเจย์ไปเสียหมดสิ้น
จนกระทั่ง
"จอห์นนี่"สถานการ์ณตรงหน้าค่อนข้างกระอักกระอ่วน
เจย์ จอง ยืนส่งยืมหวานมาให้เขาจากอีกฝั่งของคอร์ทเทนนิส
อีกฝ่ายใส่กางเกงขาสั้นสีขาว เสื้อโปโลคอปกสีฟ้าอ่อนและหมวกใบเล็กเพื่อบดบังแสงแดดจ้า
ทุกอย่างบนตัว ดูรับเข้ากับผมที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มของเจ้าตัวเหลือเกิน
เหงื่อเล็กๆผุดพรายขึ้นที่ข้างขมับ
โอเค ความเครียดเริ่มครอบงำเขาแล้ว
จอห์นนี่ ส่งยิ้มแหยๆกลับไปให้คู่ซ้อมเทนนิสของเขาในวันนี้
เราบังเอิญมาเจอกันที่คอร์ทในละแวกบ้าน สถานที่ที่จอห์นนี่ทำพาร์ทไทม์เสิร์ฟน้ำอยู่บนอัพกราวน์คาเฟ่เป็นครั้งคราว และวันนี้เขาแค่ผ่านมา จึงแวะเวียนเข้ามาทักทายเอเดรียนที่เป็นเพื่อนของเขา แต่ดันจับพลัดจับพลู ถูกหยิบยื่นหน้าที่เด็กเสิร์ฟอีกครั้ง
ที่น่าแปลกใจคือพ่อของเจย์ดันรู้จักเขาเป็นอย่างดี
ภรรยาของผม , เจนของเรารู้จักกับคริส เขาว่า
ซึ่งคริสที่ว่านั่น ก็คือแม่ของเขานั่นเอง
ชายหนุ่มพอมีอายุเอ่ยทักทายเขาที่กำลังวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะของทั้งสองก่อนจะเอ่ยชวนให้เราเล่นเทนนิสด้วยกัน
ปฎิเสธก็ไม่ได้ เนื่องจากนโยบายของร้านคือลูกค้าที่มาคนเดียวก็สามารถรีเควสให้พนักงานที่ทำการเสิร์ฟอยู่เล่นเป็นเพื่อนได้ แถมยังให้ใส่ชุดกีฬาเตรียมพร้อมอยู่เสมอ
ไม่เห็นจะจำได้ว่าเราเคยคุยกันมาก่อน
และนั่นหมายถึงเจย์กับเขาด้วย
"เริ่มเลยไหม?" เจย์ตะโกนถามมาด้วยน้ำเสียงแสนสดใสจนเขารู้สึกผิดที่เหม่อมองอีกฝ่ายนาน
เพราะเหมือนปล่อยให้แสงแดดทำร้ายผิวแสนสวยๆของคนตรงหน้าในทุกๆวินาที
เจย์เป็นนักกีฬาก็จริง แต่ผิวของเขาก็ขาวอยู่ดี ไม่แน่ใจว่าเน้นเล่นกีฬาในร่ม
หรือเตรียมตัวมาอย่างดีก็ไม่ทราบ
ช่วงที่ลงแข่งหนักๆก็มีแทนขึ้นบ้าง ดูดีไปอีกแบบ
เราเริ่มจากการรับส่งลูกเทนนิสสีขาวแดงให้กันเรื่อยๆ
สีประจำคาเฟ่ของเรา ที่พยายามแต่งแต้มลงบนทุกสิ่ง แม้แต่สีลูกเทนนิสที่เคยเป็นสีเขียวนีออน
เจย์เป็นถึงตัวแทนลงแข่งขันกีฬาของโรงเรียน
แน่นอนว่าฝีมือเกินกว่าของเขาไปมาก
"ออมมือให้กันหน่อย" จอห์นนี่โอดครวญเมื่ออีกฝ่ายไม่ปล่อยให้เขาได้รื้อฟื้นความสามารถในการเล่นเทนนิสแม้แต่น้อย
"พยายามอยู่" เจย์หัวเราะแและลดระดับความดุเดือดลง
เพิ่งสังเกตว่าเขามีรอยแต้มของนางฟ้าบนแก้มทั้งสองข้าง
เพราะเคยเจอกันแค่ผ่านๆ ก็นึกว่ามีแค่ด้านเดียวเสียอีก
ภาพของเจย์ที่ยิ้มและหัวเราะเวลาเขาลนลานจนเสิร์ฟพลาด
หรือท่าทางเจ้าเล่ห์ยามคิดแผนการเล่นในหัวนั่น
จอห์นนี่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมันอย่างใกล้ชิดเท่านนี้มาก่อน
เมื่อเล่นกันไปสักพัก พ่อของเจย์ก็ตะโกนลงมายังฝั่งคอร์ทข้างล่างคาเฟ่ว่าขอตัวไปทำธุระด่วน
กำชับให้ลูกชายคนเก่งซ้อมต่อกับเขาอีกสักหน่อย ซึ่งเจย์ก็พยักหน้ารับคำลา ก่อนจะมองมาที่เขาเชิงให้สัญญาณ
เราหยุดตีเมื่อมิสเตอร์จองเดินพ้นคอร์ทไป
"ปล่อยมันกลิ้งไปก่อน" เจย์ว่า เมื่อเขาพลาดรับลูกโต้สุดท้าย
ซึ่งเขาก็เชื่อฟังเป็นอย่างดี
จอห์นนี่หอบนิดหน่อย เพราะแดดร้อน และไม่ได้เล่นนาน
"นายอยากเล่นต่อไหม?" เจย์เอ่ยถามด้วยท่าทีสบายๆ
และเพราะเราไม่เคยคุยกันจริงๆจังๆมาก่อน จอห์นนี่จึงเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
อย่างกับท่าทีเมื่อครู่เป็นเพียงแค่ภาพลวงตา
เดาใจไม่ถูกเลย
"เจย์ล่ะ? อยากเล่นต่อหรือเปล่า" เขาถามออกไปบ้าง
ดูท่าเจย์จองจะไม่ค่อยชอบการถามคำถามในตอบคำตอบของเขาสักเท่าไหร่
"ไปนั่งเล่นข้างบนก่อนไหมล่ะ" เขาถามอีกครั้ง
"เอาสิ"
เขาจะเป็นไทแล้ว
"แต่ว่า , ช่วยนั่งเป็นเพื่อนหน่อยได้หรือเปล่า?" เจย์เอ่ยถามในขณะที่เดินเก็บลูกเทนนิสที่กระจายอยู่บนพื้น เพื่อไม่ให้รบกวนบอลบอยที่วุ่นวายกับคอร์ทข้างๆ
แก้มของเจย์ขึ้นสีแดงจากความร้อน มือเรียวก็ดึงเอาหมวกใบเล็กออกจากหัว
เขาสะบัดกลุ่มผมให้ลมเข้าเพื่อคลายร้อน และการกระทำทุกอย่างตรงหน้า ทำให้จอห์นนี่รู้สึกเหมือนกำลังดูหนังสักเรื่อง
อาจเป็นหนังรักที่ตัวละครตัวหนึ่งกำลังหลงรักตัวเอกแบบหัวปักหัวปำจนสามารถบรรยายทุกการกระทำของอีกฝ่ายได้อย่างละเอียดยิบ เขาทำอะไร ก้าวไปด้านไหนบ้าง ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้หมด
โอ้ะ เดินเข้ามาหาแล้ว
บ้าน่า ไม่ใช่เขา
"ฉันลืมว่ามีธุระต้องไปต่อ" จอห์นนี่ปฎิเสธ
"งั้นเหรอ" เจยเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ตาสวย
"ใช่ , ไปมาร์ท แม่ฝากซื้อของเข้าบ้านน่ะ"เขาพูดความจริง
และถ้าเขาถึงบ้านเมื่อไหร่คงได้โดนบ่น
ใช้ให้ไปซื้อนม แต่ออกจากบ้านนานกว่าสองชั่วโมงแล้ว แถมตอนนี้ก็ยังมือเปล่า
"ไปด้วยสิ"
"จริงๆฉันต้องอยู่ซ้อมเทนนิสเพราะพ่อสั่ง แต่ว่านะ,"
เจย์ยิ้มเจ้าเล่ห์
"ไปกับนายดูน่าสนุกกว่าอีกนี่"
โอเค จอนห์นนี่ใจเต้น
ใจเต้นแรงมาก
"นะจอห์นนี่"
ตอนนี้ดูเหมือนจะหัวใจล้มเหลวไปแล้ว
วาระสุดท้ายของจอห์นซอ
ทุกคนได้โปรดทราบว่าเจย์จองคือผู้ลงมือ
‘วาระสุดท้ายของจอห์นซอ
ทุกคนได้โปรดทราบว่าเจย์จองคือผู้ลงมือ’
เหมือนไม่ได้แต่ง เหมือนเขียนมาจากเริ่องจริง คนอะไรทำให้ใจละลายซ้ำซากเก่งนัก