อ่านบทความคุณ พศิน อินทรวงศ์
ให้เราฝึกเป็นนักเขียนกัน
ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเขียนแบบมีรายได้
แค่เพื่อการบันทึกเรื่องราวต่างๆ
แล้วเราจะค้นพบจิตวิญญาณของตนเอง
ในหลากหลายมิติ และลุ่มลึกลงไปเรื่อยๆ
อ่านแล้วชอบใจจัง..
เราเคยคุยกับรุ่นพี่ที่สนิท
พี่เค้าจดบันทึกข้อความ
บันทึกประจำวัน ทำมาเรื่อยๆ
ทำมา 30 ปี ได้ประมาณ 3 พันหน้า
ปีหนึ่งมี 52 สัปดาห์
พี่เค้าบันทึกมาประมาณ สัปดาห์ละ 2 หน้า
ว่าไป..ไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหม..
เราเลยเริ่มลองบ้าง
ลองเขียนวันละบท 1-2-3 หน้า แล้วแต่เรื่องราว
เริ่มจากเรื่องใกล้ตัวก่อน
ความประทับใจวัยเยาว์
โรงเรียน มิตรภาพจากเพื่อนๆ
การทำกิจกรรมออกค่าย หาทุนให้ชมรม
ชีวิตมัธยม มหาลัย วัยทำงาน การดูแลครอบครัว
ประสบการณ์ในการทำงาน
คุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมต่างๆ
Key Success Factor ในการงาน
เรื่องเล่าธรรมะ แนวทางดำเนินชีวิต
งานอดิเรก ดูภาพยนตร์ การแสดงคอนเสิร์ต
การไปท่องเที่ยว หาของทานอร่อยๆ
ท่องเที่ยวแดนไกล สัมผัสโลกใบนี้
ในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
เมื่อเราเขียนถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ
เราเรียบเรียงความคิด คำพูด
ให้ออกมาอย่างเหมาะสม สวยงาม
ก็เป็นการฝึกจัดระเบียบความคิดในตนเอง
และมีตรรกะ เหตุผลตามมา
นักเขียนที่ดีต้องอ่านเยอะมาก
ก็จะพหูสูตร รู้มาก วิเคราะห์เป็น มีหลักการ
สิ่งดีๆ ผลลัพธ์ดีๆ ก็จะตามมากันจ้า
บางครั้งเราก็เขียนบทความให้กำลังใจน้องๆ
ผู้เหนื่อยล้ากับการทำงาน การใช้ชีวิต
ให้ข้อคิดจากเราที่ผ่านเรื่องราวมาหมดแล้ว
มึเสียงตอบรับกลับมา
เราก็ปลื้มใจมากๆเลย
แม้เพียงหนึ่งคน ..ข้อเขียนไม่กี่บรรทัด
ให้กำลังใจกลับมา
เป็นแบบ two way communication
โห..เป็นดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ..
เราไม่ได้อยู่เพียงคนเดียว
เราไม่ได้เขียนอย่างเดียวดาย
ยังมีคนอ่าน..ข้อเขียนเรา..แล้วประทับใจ
ส่งเสียงขับขาน รับรู้เรื่องราว..
และบอกกลับมาว่า..ขอบคุณนะ
ชอบจังเลย..ทำต่อไปนะ..ขอแชร์นะ
ในเวป minimore แห่งนึ้ ..
เราก็มา comment ให้ข้อชี้แนะกันได้
ส่ง sticker ให้แก่กันได้นะ
ให้กำลังใจนักเขียน น้องๆกันนะคะ
?????
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in