“โดอุน เมื่อคืนกูกลับมาคอนโดไงวะ”
“ผมกับพี่ซองจินลากกลับมาเองพี่แม่งเมาอย่างหมา”
“มึงได้ส่งกูถึงห้องป่ะหรือทิ้งกูไว้หน้าคอนโด”
“เหี้ยไรวะพี่ ผมไปนอนต่อก่อนนะมีเรียนบ่าย”
.
.
.
“ไอ้เหี้ยจินเมื่อคืนกูได้พาใครขึ้นมาเอาบนห้องป่ะ”
“ยังไม่สร่างอีกเหรอวะ มีแรงเอาก็เทพแล้วสัดเมาหัวราน้ำขนาดนั้น”
เหี้ยยยยยยย
.
.
.
พัคเจฮยองรู้ตัวดีว่าเขาไม่ใช่คนที่จะเมาแอ๋จนจำอะไรไม่ได้หรือไร้สติจนทำเรื่องน่าอาย แต่ภาพตรงหน้าในตอนนี้ทำให้เขาไม่แน่ใจเอาเสียเลย เขาพยายามสั่งสมองให้รวบรวมสติที่ยังเหลืออยู่ควานหาโทรศัพท์บนเตียงอย่างเบามือที่สุดไม่ให้รบกวนคน ( ที่เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร )ที่กำลังนอนหลับอยู่อีกซีกหนึ่งของเตียง รีบกดโทรตรงรายชื่อของบุคคลที่เขาออกไปสังสรรค์ด้วยเมื่อคืน
คำตอบของเพื่อนทั้งสองบวกกับความเชื่อใจในตัวเองค่อนข้างชัดเจนพอ ว่าเขาไม่มีทางเมาจนไปนอนกับใครที่ไม่รู้จักอย่างแน่นอน
‘แล้วมึงเป็นใครวะเนี่ย
เจฮยองรวบรวมสติให้มากกว่าหนก่อน เดินตรงไปยังคนที่กำลังซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียงของเขา
‘เชี่ยแม่ง!
‘เหี้ย!
จบความคิดทุกอย่างเจฮยองตัดสินใจกระชากผ้าห่มออกจากเตียง หวังจะปลุกให้คนตรงหน้าตื่น แต่ผิดคาด...
“เฮ้ยยยยยย!!!”
.
.
.
"ไงมึง กูจะโทรมาชวนไปประเดิมร้านใหม่คืนนี้"
"เอาไว้ก่อนไอ้บ็อบ มึงฟังกูนะถ้าสมมติมึงเจอ.. อ่าาา เจอนางเงือก มึงจะทำไงวะ"
"เจฤทธิ์เหล้าเมื่อคืนทำมึงเพี้ยนเหรอวะ"
"กูจริงจังเว้ย ตอบกูมา"
"เออๆๆถ้าสวยกูก็ลากแม่งขึ้นห้องอ่ะ"
“ถ้าเจอผีอะ”
“วิ่งสิไอ้เหี้ยยืนให้ผีแม่งเล่นกูเหรอ”
"...แล้วถ้ามึงเจอมนุษย์ต่างดาวอะ"
.
.
.
สาบานได้เลยว่าหากเจฮยองสามารถย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะไม่ปลุกให้คนที่นอนหลับอยู่ตื่นขึ้นมาอย่างเด็ดขาด
ตึงงง
“
ปรอทความหัวร้อนของเจฮยองพุ่งสูงขึ้นตอนที่ร่างเปลือยเปล่าล้มลงใส่เขาทันทีที่เริ่มก้าวขาออกจากเตียง
“มึงเป็นง่อยเหรอวะ สั----”
พลาดแล้วกู...
ถึงแม้เจฮยองจะไม่เคยเห็นผี ปีศาจหรือสัตว์ประหลาดในชีวิตจริงแต่เขามั่นใจว่าสิ่งที่นอนทับตัวเขาอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน
‘มีสองแขนสองขา มีหน้าหู จมูก ปาก และตาสีดำสนิท.... ที่แม่งแทบจะกินพื้นที่เศษสามส่วนห้าของหน้าเลยโว้ยยยตาหรือหลุมดำวะเนี่ย’
“อ้ากกกก!มึงเป็นตัวไรวะ เฮ้ย! กูขอโทษ กูผิดไปแล้วที่ไปทำให้คุณมึงตื่นกูกลั---” กลัวจนพูดไม่ออก..เจฮยองไม่กล้าแม้แต่จะเปล่งเสียงใดๆตอนที่ตาโตคู่นั้นมองจ้องเข้ามาในดวงตาของเขาและเคลื่อนเข้ามาใกล้
เจฮยองสังเกตเห็นจุดสว่างเล็กๆหลายจุดในดวงตาคู่ตรงหน้า จุดสว่างวิบวับคล้ายกับหมู่ดาวสุกสว่างบนฟ้ามืด
‘สวยจัง...’
เจฮยองนึกอยากจะลืมความคิดก่อนหน้าไปเสียให้หมดเพราะ...
‘เหี้ยยยยย!
เจฮยองรีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาบังหน้าแล้วหลับตาปี๋ไม่ใช่เพราะแสบตาจากแสงตรงหน้าแต่เป็นเพราะเขากลัว
“ก..ก..กลัวแล้ว อย่าทำอะไรผมเลยอย่ากินผมเลย ผ..ผมไม่อร่อย” เจฮยองร้องเสียงสั่น
“อ.. อะ..อา-หร่อย..”
เจฮยองค่อยๆลืมตามองภาพตรงหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไป นอกเสียจากตาที่โตผิดปกติก่อนหน้านั้นมีขนาดเล็กลงเท่ากับตาของมนุษย์โลกทั่วไปไม่มีแสงออกมาจากตาแล้ว ตอนนี้คนตรงหน้าแทบไม่มีส่วนใดผิดแปลกไปจากคนปกติแต่เจฮยองกลับรู้สึกว่าตาทั้งสองข้างนั้นดูพิเศษและดึงดูดสายตาของเขาได้มากกว่าคนธรรมดาทั่วไป
เจฮยองใจกระตุกวูบตอนที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าร่างเปลือยเปล่าบนตัวเขานั้นอยู่ในท่าล่อแหลมขนาดไหน ใจเต้นถี่รัวขึ้นตอนที่ร่างด้านบนเผลอขยับสะโพกไปมาใกล้กับส่วนอ่อนไหวของเขา มือนิ่มเอื้อมมาแตะลงบนปากของเจฮยองก่อนที่จะลากนิ้วลูบสัมผัสอย่างสนอกสนใจ ราวกับเป็นสิ่งแปลกใหม่ ราวกับเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ เจฮยองทำสติหลุดหายไปได้สักพักแล้ว เขาปล่อยให้มือนิ่มไล้สัมผัสหนักเบาไปทั่วทั้งใบหน้ายิ่งร่างด้านบนขยับเคลื่อนไหวอยู่บนตัวมากเท่าไหร่ เขายิ่งรู้สึกเหมือนล่องลอยไปไกลมากเท่านั้น เจฮยองไม่แน่ใจว่าเผลอยกมือขึ้นจับสะโพกมนตั้งแต่ตอนไหน เขาออกแรงบีบเนื้อนิ่มเบาๆอย่างเผลอไผล
ครืดดดดดด...
เสียงสั่นจากโทรศัพท์มือถือกระชากเจฮยองให้หลุดจากความเคลิบเคลิ้มทั้งหมดทันทีที่สติกลับมา เจฮยองจึงได้รู้ว่ามือทั้งสองของเขาอยู่ในที่ที่ไม่ควรเอาเสียเลย
วินาทีถัดมาเจฮยองก็ได้รู้อีกว่าไม่ใช่แค่มือที่อยู่ผิดที่ผิดทาง...ตัวเขาเองด้วยเช่นกัน
พลั่กกก
ตึงงง
โครมม
ปัง
เจฮยองเชื่อว่าชื่อของเขาจะต้องถูกจารึกไว้ในฐานะ‘ผู้ที่วิ่งเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์’อย่างแน่นอนเขามั่นใจว่าใช้เวลาแค่เสี้ยววินาทีในการพาตัวเองออกมาจากห้องนอน ‘ขืนอยู่ต่อมีหวังได้โดนแดกหัวแน่ๆ’
นึกสงสัยว่าเสียงดัง โครม ที่ได้ยินก่อนออกจากห้องคือเสียงอะไร ความคาใจทั้งหมดจบลงทันทีที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง
"...แล้วถ้ามึงเจอมนุษย์ต่างดาวอะ"
“จับมาแล้วขายต่อNASA
“แล้วมึงว่าNASA
“หน้ากูดูเหมือนทีมวิจัยอวกาศNASA
“พัคซองจิน มึงเตรียมตัวมีเพื่อนเป็นเศรษฐีได้เลย”
.
.
.
แม้ว่าเจฮยองไม่ได้มีหัวด้านการจัดการทรัพยากรเงินมากนัก แต่คำพูดของพัคซองจินเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วได้กระตุกสัญชาตญาณของนักลงทุนในตัวของเจฮยองออกมา โดยเฉพาะคำว่าพันล้าน สมองของเจฮยองคิดคำนวณได้ดีขึ้นเมื่อตัวเลขสิบหลักวิ่งวนอยู่ในหัว
‘เอาเว้ย !
เจฮยองสูดหายใจเข้าออกลึกๆเป็นครั้งสุดท้าย ทำใจกล้าผลักประตูห้องแล้วพุ่งตัวเข้าไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่ในนั้นอีกครั้ง แต่ทุกอย่างกลับผิดจากที่คิดเอาไว้มาก
“เฮ้ยมึง... ร้องเหรอ”
เจฮยองไม่แน่ใจกับภาพตรงหน้ามากนัก ข้าวของที่เดิมเคยวางอยู่บนตู้หล่นกระจายเต็มพื้นและถัดไปใกล้ๆคือร่างของคน(
“เป็นอะไร...”
“มึงไปโดนอะไร.. มาวะ”
ภาพเหตุการณ์ไม่กี่นาทีก่อนหน้าย้อนกลับมาเข้าในหัวของเจฮยองเป็นฉากๆ ภาพก่อนที่เขาจะวิ่งออกมาจากห้องด้วยความเร็วแสง ภาพของร่างที่เคยคร่อมทับตัวเขากระเด็นออกไป และแน่นอนว่าเสียงดัง โครม ที่เจฮยองสงสัยนั้นก็คือ‘ฉิบหายแล้วไงกู ผลักมันไปชนขอบตู้ เป็นแผลขนาดนี้โดนยานแม่มันตามไล่ฆ่าแน่นอน’
“ผมขอโทษๆๆๆ”
คนเจ็บตรงหน้าไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง ไหล่ที่สั่นระริกกับเสียงสะเอื้อนที่ดังออกมาทำให้เจฮยองรู้ว่ารอยแดงที่หลังสร้างความเจ็บปวดไม่น้อย
“อยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวมา”
เจฮยองวิ่งหายออกไปจากห้อง ไม่นานนักเขาก็กลับมาพร้อมกับยาที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บของคนที่เขาทำร้ายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เจฮยองนั่งลงตรงหน้าคนเจ็บที่ตอนนี้ยังคงก้มหน้าร้องไห้ เขาบีบยาจากหลอดลงบนนิ้วมือแล้วจัดการทาลงไปเบาๆบนรอยแดงช้ำ
“ขอโทษ ขอโทษที่ทำให้นายเจ็บขอโทษจริงๆ” เจฮยองหมายความอย่างที่พูดจริงๆ เขารู้สึกผิดจริงๆ
เจฮยองไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดหรือไม่ แต่ในที่สุดคนที่เจฮยองพร่ำขอโทษก็ยอมเงยหน้าขึ้นมา เจฮยองใช้โอกาสนี้สังเกตใบหน้าคนตรงข้าม ปลายจมูกโด่งรั้นขึ้นสีแดงจัด ดวงตาเรียวยังคงเอ่อล้นไปด้วยของเหลวสีเงิน
“เจ็บมากมั้ย”
เพราะน้ำตาของอีกฝ่ายไม่ได้เป็นสีใส เจฮยองจึงมองเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายร้องไห้เยอะแค่ไหนจากคราบสีเงินจางๆบนใบหน้า
เจฮยองยกมือขึ้นจับหน้าคนที่เพิ่งร้องเสร็จไป ใช้นิ้วเกลี่ยไล่น้ำตาเบาๆลงบนเปลือกตาจนหมดแล้วค่อยเคลื่อนนิ้วลงมาตามสันจมูกไปยังแก้มนิ่ม เจฮยองลากนิ้วไปมาตรงส่วนนี้นานเป็นพิเศษ ตั้งใจจะลบคราบน้ำตาออกไปจนหมด
“เป็นแผลนิดเดียวยังร้องไห้ขนาดนี้ถ้ามึงโดนจับแยกชิ้นส่วนไปทดลองมึงไม่ร้องตายไปเลยเหรอวะ”
เจฮยองลบความคิดเรื่องเงินพันล้านออกไปจนหมด สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจฮยองตอนนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาเคยคิดแต่กลับดูนุ่มนิ่ม บอบบางน่าปกป้องและ..‘น่าแกล้งฉิบหาย พ่อจะแกล้งให้ร้องอีกเยอะๆเลย ทำกูตกใจดีนัก”
__________________________________ To becontinued.1___________________________________
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in