เรื่องนี้จำได้ว่าอ่านครั้งแรกนานมากๆ แล้ว สมัยอยู่ในเด็กดี อ่านไปจำไม่ได้ว่าถึงไหน แล้วก็ดรอปไปเพราะว่าจะรอหนังสือ รอไปรอมาก็หลายปีมากกกก กว่าจะได้ครบถ้วนกระบวนความ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเซตนี้พรีเมี่ยมครบครันจริง เอามาวางเรียงกันทั้งหมดก็คือได้ครึ่งเตียงได้ละมั้ง 5555555

ก็มาอ่านใหม่อีกรอบแบบจะอ่านรวดตั้งแต่เล่ม 1 - 11 เลยล่ะค่ะ ไม่รู้จะสำเร็จมั้ยมาดูกัน ก็เล่ม 1 เป็นช่วงที่โหยวเสี่ยวโม่ทะลุมิติเข้ามาในโลกอีกใบ เป็นโลกแนวๆพลังวิเศษ ตัวเอกเองก็มีฟีลเป็นสายเทพโอสถอะไรทำนองนี้ พลอตเรื่องคล้ายๆ นิยายแนวนี้เรื่องอื่นๆ แบบเอาของมาทำยาขาย เก็บเลเวลไปเรื่อยๆ มีอีเว้นเกิดขึ้นนู่นนี่ เป็นแนวที่อ่านทีไรเราก็รู้สึกเหมือนเล่นเกมอยู่ ฟาร์มของพร้อมกับทำภารกิจไปด้วยพร้อมๆกัน พระเอกของเรื่องนี้ก็คือหลิงเซียวเป็นคนที่มาอยู่ในร่างของหลินเซียวศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักคนเดิม ชาติกำเนิดของหลิงเซียวดูเหมือนจะเป็นปริศนามาก ไม่รู้ว่าจริงๆเป็นอะไรกันแน่ แต่เอาเป็นว่าเก่งมากระดับเทพทรู นายเอกก็โดนพระเอกรุกอย่างแรงในช่วงครึ่งหลัง 

หลังเข้ามาเป็นศิษย์ลำดับเจ็ดของตำหนักพสุธา สิ่งสำคัญต่อจากนั้นคือการทดสอบเลื่อนระดับเป็นเทพโอสถระดับสอง ทว่าโหยวเสี่ยวโม่กลับถูกกลั่นแกล้งในสนามทดสอบแต่ก็ยังสร้างความประหลาดใจให้ผู้คนจนโดดเด่นขึ้นมา เมื่อผ่านการทดสอบแล้วเด็กหนุ่มจึงให้หลิงเซียวที่กลับมาจากการปราบปีศาจพาลงเขา เพราะเรื่องเงินเป็นสิ่งสำคัญโหยวเสี่ยวโม้จึงนำน้ำดวงจิตที่พบไปยังงานประมูล แต่เมื่องานประมูลมาถึง นอกจากจะได้ทองมาจำนวนมากแน่นอนว่าย่อมจ่ายออกไปไม่น้อยเช่นเดียวกัน โหยวเสี่ยวโม่ปล่อยน้ำดวงจิตคุณภาพดีออกไป แต่ก็ได้เตาหลอมวิญญาณทองคำและไข่ของหมาป่าโลหิตกลับมาและเพราะเจ้าไข่ฟองนี้ เขาและหลิงเซียวจึงถูกกลุ่มคนตามล่าหวังเอาชีวิตและแย่งชิงสมบัติไป!

เล่ม 2 มีหลายอีเว้นเหมือนกัน คือการสอบของเทพโอสถในสำนัก การนำน้ำดวงจิตไปประมูล (อันนี้ได้ออกไปนอกเมือง สนุกดี คิดว่าเป็นช่วงที่ค่อนข้างมีสีสัน) มีการ

ท้ายของเล่มสองเป็นช่วงที่เริ่มเตรียมตัวไปเขตแดนสวรรค์ที่กำลังจะเปิด นายเอกก็มีสัตว์อสูรเป็นของตัวเองด้วย ฟักไข่เองเรียบร้อย แล้วก็ในเล่ม 2 ก็ได้รู้แล้วว่าตัวนายเอกเป็นเทพโอสถที่มีสีหลายสีไม่ใช่สีเขียวของระดับต่ำแบบร่างเดิมของนายเอก จริงๆอ่านมาสองเล่มเราก็คิดว่าเรืองค่อนข้างซูแล้วก็แบบไปได้เรื่อยๆ แต่เราก็ชอบนะ อ่านได้สบายๆดี ไม่ต้องคิดมาก เราคิดว่าถ้าใครชอบแนวๆแบบ ทรราชตื๊อรัก ก็น่าจะชอบเรื่องนี้

เหตุการณ์สำคัญที่ทุกคนในแผ่นดินหลงเซียงต่างรอคอยคือการเปิดออกของเขตแดนสวรรค์ ทว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้าไปนั้นได้ แม้ว่าโหยวเสี่ยวโม่จะต้องการไปค้นหาหญ้าดวงจิตในเขตแดนสวรรค์มากเพียงใด อีกทั้งเขายังสามารถเลื่อนเป็นเทพโอสถระดับสามตามเงื่อนไขของผู้เป็นอาจารย์ได้แล้วก็ตาม แต่เพื่อปกปิดความลับ เด็กหนุ่มจึงจำต้องโกหกและปล่อยโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย แต่มีหรือหลิงเซียวจะยอมให้เขาพลาดโอกาสนี้ สุดท้ายโหยวเสี่ยวโม่ก็สามารถเข้าไปในเขตแดนสวรรค์ ด้วยความช่วยเหลือของหลิงเซียว ทว่าปรากฏตัวของพวกเขากลับสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้อาวุโสหลายคน เจ้าสำนักจึงคิดกำจัดศิษย์ไม่รักดีอย่างหลิงเซียวเสียไม่ต่างกับโหยวเสี่ยวโม่ที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในที่สุดความวุ่นวายก็กลับกลายเป็นการต่อสู่ ที่ทำให้หลิงเซียวต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง!

แอบรู้สึกว่าเรื่องนี้รีวิวยาก 55555 เพราะว่ามันให้ฟีลแบบไปเรื่อยๆมาก พระเอกก็ซูมากจนแบบมันแทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเลย เรียกว่ามันแทบแบบไม่มี conflict ที่แก้ไขไม่ได้ ทุกอันแก้ไขได้แล้วแก้ได้อย่างรวดเร็วมากด้วย ส่วนนายเอกก็มีพรสวรรค์ค่อยๆเรียนรู้ไปเรื่อยๆ

ในเล่มนี้ความสัมพันธ์ทางกายระหว่างพระนายก็พัฒนาแล้วจ้า มี NC เรียบร้อย

แล้วก็มีคนตายมากมาย ตัวประกอบเรื่องนี้ตายง่ายๆสุดๆ เอาแค่ในเล่มนี้ก็มีลูกสาวเจ้าสำนักที่ชอบพระเอก เจ้าสำนัก อาจารย์นายเอก ไหนจะคนในแดนสวรรค์อีก คือตัวประกอบตายเป็นใบไม้ร่วง แต่เป็นการตายแบบ ชึบบบ ง่ายๆ อะ 

หลังจากออกจากสำนักเทียนซินแล้ว จุดหมายต่อไปของโหยวเสี่ยวโม่และหลิงเซียวก็คือสำนักเต้าซินอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าการเข้าสำนักนั้นไม่อาจทำได้โดยง่าย โดยเฉพาะกับโหยวเสี่ยวโม่ที่โดดเด่นตั้งแต่ขั้นตอนการสอบเข้า เด็กหนุ่มโด่งดังในฐานะเทพโอสถผู้เป็นอัจฉริยะที่อายุยังน้อย ซึ่งนั่นทำให้เขาได้พบเจอทั้งมิตร และผู้ที่ตั้งตนเป็นศัตรู แน่นอนว่าชีวิตในสำนักเต้าซินของพวกเขาไม่ง่ายดายเหมือนกับสำนักเทียนซิน

นอกจากนี้โหยวเสี่ยวโม่ยังค้นพบความจริงที่ว่าชิวหร่าน เจ้าของคัมภีร์ดวงจิตแห่งสวรรค์ที่หลิงเซียวขโมยมาให้เขาก็อยู่ในสำนักนี้ด้วย! และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคืออาจารย์ของชิวหร่านผู้นั้น...เป็นคนเดียวกับชายชราที่คอยตามตื๊อ อยากจะรับโหยวเสี่ยวโม่มาเป็นศิษย์อีกคน!

คุยกันหลังอ่าน
เล่มนี้เหมือนเปิดแมพใหม่ค่ะ ก็คือมาโรงเรียนใหม่นั่นเอง หลังจากเคลียร์คนที่เดิมไปแล้ว ก็ย้ายมาโรงเรียนที่แอดวานซ์กว่าเก่ามาก แบบว่ามีต่อสู้ มีแบ่งระดับชั้น เก็บแต้ม ที่ชัดเจนกว่าเดิมมาก ฟีลล่ิงเหมือนเล่นเกมเก็บเลเวลสุดๆ เล่มนี้ก็อ่านได้เพลินๆเหมือนเดิมค่ะ นายเอกได้เป็นศิษย์ของอาจารย์ที่เก่งสุดๆด้วย ส่วนพระเอกก็ยังเทพดีดนิ้วทีคนอื่นปลิวเหมือนเดิม

เล่ม 5

เรื่องย่อหลังปก
หลังได้เป็นศิษย์ของเทพโอสถระดับสูงมากความสามารถโหยวเสี่ยงโม่ก็ดันพบว่าอาจารย์ของเขามีความลับหนึ่งอย่างที่บอกใครไม่ได้! ซึ่งโหยวเสี่ยวโม่เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ล่วงรู้ความลับนั้น! นอกจากต้องปวดหัวกับอาจาย์แล้ว เขายังต้องปวดหัวกับความโดดเด่นของตนที่นำพาเรื่องวุ่นวายมาให้ไม่หยุดหย่อน และหนึ่งในความวุ่นวายนั้นคือการมีเรื่องกับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะอย่างเถิงจื่อซิน ซ้ำนางยังเป็นศิษย์ของชิวหร่าน

เจ้าของคัมภีร์ที่หลิงเซียว "ขโมย" มาให้อีกด้วย! นำไปสู่การประชันกับบนการประลองของระดับพื้นฐานผู้ที่ติดอันดับจะสามารถย้ายไปเป็นศิษย์ระดับสูงได้ เพราะระดับสูงเป็นพื้นที่ของเหล่าอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะนับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะกับโหยวเสี่ยวโม่ผู้นี้เป็นที่สุด!

คุยกันหลังอ่าน
เล่มนี้เปิดความลับชาติกำเนิดของพระเอกแล้ว แอบคิดไว้แล้วว่าไม่ใช่คนแน่เลย เป็นจอมอสูรจริงๆ เล่มนี้นายเอกก็เลเวลอัพรัวๆ ใช้ทรัพยากรที่มีในสำนักอย่างคุ้มค่า แล้วก็แอบมีคู่รอง(?)ป้ะ คู่หนึ่งคือคู่ถางอวี้หลินแน่ๆแหละ ส่วนอีกคู่นึงเราแอบคิดว่าเป็นอิ๋นเกอใช่ปะ เล่มนี้แอบชอบคนที่เป็นพี่ชายของคนที่ไม่ชอบนายเอกอะ ที่บังเอิญอยู่ด้วยตอนนายเอกเลื่อนระดับแล้วมาช่วยปกป้องให้ เถิงจื่อเย่ หวังว่าตัวละครนี้จะมีอะไรมากกว่านี้แล้วก็จะไม่โดนทิ้งไปง่ายๆนะ 

หลังจากได้เข้ามาเป็นศิษย์ระดับสูงของสำนักเต้าซินความสามารถของโหยวเสี่ยวโม่ก็พัฒนามากยิ่งขึ้น แม้ชีวิตในระดับสูงจะวุ่นวายไม่ต่างกับตอนอยู่ระดับพื้นฐาน ทว่าโหยวเสี่ยวโม่ก็ไม่คิดว่าความวุ่นวายเหล่านั้น จะทำให้เขาได้พบเจอกับเรื่องราวมากมาย ทั้งการปรากฏตัวของยอดฝีมือจากดินแดนระดับสูง ความลับของศิษย์พี่ใหญ่ชิวหร่าน และการแก่งแย่งสมบัติล้ำค่าที่ปรากฏขึ้นในทะเลไร้จุดจบ

ซึ่งนำไปสู่การต่อสู้ขนาดย่อมของเหล่ายอดฝีมือแต่ดูเหมือนเรื่องทุกอย่างไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น เพราะหลังจากเหตุการณ์ที่ทะเลไร้จุดจบสิ้นสุดลง โหยวเสี่ยวโม่กลับถูกยอดฝีมือจากดินแดนระดับสูงทำร้าย จนเป็นเหตุให้หลิงเซียวต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง! ซ้ำร้ายเพื่อนร่วมสำนักยังถูกจับตัวไปยังดินแดนระดับสูง! ดังนั้นการเดินทางข้ามดินแดนผ่านอุโมงค์มิติไปยังดินแดนใหม่จึงเริ่มต้นขึ้น!

เล่มนี้เปลี่ยนแมพอีกแล้วค่ะ จากดินแดนระดับกลางไปเป็นดินแดนระดับสูง 5555 จะเปลี่ยนแมพกี่รอบกันนะ ในเล่มนี้ก็เริ่มมีชัดเจนขึ้นว่าคู่รองจะเป็นใครบ้าง แล้วพระเอกก็ต้องเปิดเผยตัวตนกับคนในสำนักแล้วด้วย บวกกับมีเฟิงฉืออวิ๋นถูกลักพาตัวไปดินแดนระดับสูง ก็เลยต้องเดินทางไปช่วยกันค่ะ ค่อนข้างฟันธงได้แล้วว่าอิ๋นเกอชอบเฟิงฉืออวิ๋นแน่นอนนน ไม่รู้ว่าตัวละครอื่นๆในดินแดนระดับกลางกับดินแดนระดับต่ำอย่างพวกศิษย์พี่หรือว่าคนอื่นๆที่อยู่ในสำนักเดียวกันจะกลับมามีบทบาทอีกมั้ย

การเดินทางมายังดินแดนระดับสูงไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่ยอดฝีมืออย่างหลิงเซียวเองยังต้องพบกับช่วงเวลาที่แสนลำบากเพราะปากของโหยวเสี่ยวโม่ แต่สุดท้ายพวกเขาก็มาถึง "อาณาจักรทงเทียน" อย่างปลอดภัยทว่าโหยวเสี่ยวโม่กลับต้องพลัดหลงกับพวกอิ๋นเกอเสียอย่างนั้น

นอกจากจะต้องตามหาเฟิงฉืออวิ๋นที่ถูกจับตัวไปแล้ว ปัญหาใหม่ของพวกเขาคือต้องตามหาพวกอิ๋นเกอด้วย ดินแดนระดับสูงอย่างทงเทียนนั้นแสนกว้างใหญ่ การเดินทางตามหาพวกพ้องจึงนำพาพวกเขาสู่ การค้นพบสัตว์อสูรหายากที่ผู้คนต่างก็ต้องการครอบครองทั้งสมบัติอันแสนล้ำค่าอย่างหัวใจแห่งธาตุ เช่นนั้นแล้วโหยวเสี่ยวโม่กับหลิงเซียวจะเมินเฉยได้หรอกหรือ ย่อมเป็นไปไม่ได้!

เล่มนี้ก็ส่วนมากเป็นการใช้ชีวิตอยู่ในสำนักเซียวเหยา มีปะทะกับคนอื่นด้านนอกบ้าง อย่างพวกสิบอันดับที่ฝีมือสูงสุดของเมือง หลิงเซียวก็เอาชนะได้แล้วเป็นหนึ่งในสิบอันดับนั้นเอง ส่วนนายเอกก็พัฒนาฝีมือไปจนทิ้งห่างสัตว์อสูรของตัวเองแล้ว คือสเกลพลังของดินแดนนี้ถ้าเทียบกับดินแดนก่อนๆหน้าคือคนละเรื่องแบบโดยสิ้นเชิงอะ มีผู้หญิงมาชอบนายเอกด้วยคือเทียนซิน แต่ก็ไม่ได้เป็นดราม่าอะไรมากมาย เป็นช่วงที่หลิงเซียวไม่อยู่พอดี

ดูเหมือนว่าการตามหาและช่วยเหลือเฟิงฉืออวิ๋นจะใกล้ความจริงมากขึ้นทุกที ขณะเดียวกันโหยวเสี่ยวโม่ก็ยังคงเป็นมนุษย์ผู้ซึ่งดึงดูดเรื่องวุ่นวายเข้าตัวไม่หยุดหย่อนอยู่เป็นประจำบ้างก็ดี บ้างก็ให้ผลตรงกันข้าม และความวุ่นวายเหล่านั้นก็พาเขาและหลิงเซียวไปพบกับเรื่องไม่คาดฝันอยู่เสมอ

ทั้งกลุ่มยอดฝีมือที่กลับกลายมาเป็นมิตร กลุ่มอำนาจที่ตั้งตนเป็นศัตรูและหวังแย่งชิงสิ่งที่เขามีติดตัว รวมไปถึงการพบกันระหว่างเขากับ "บุคคลสำคัญในอดีต" ยิ่งไปกว่านั้น การผจญภัยอันแสนวุ่นวายยังพาให้ พวกเขาได้ค้นพบ "ความลับ" บางอย่างของสายเลือดในตัวหลิงเซียวอีกด้วย

เล่มนี้ช่วยเฟิงฉืออวิ๋นออกมาได้แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างอิ๋นเกอกับเฟิงฉืออวิ๋นก็ออฟฟิเชียลแล้วจ้า ถึงจะเริ่มต้นกันแบบแปลกๆก็ตาม เสียดายที่ไม่ค่อยมีบทเท่าไหร่นัก แล้วก็หลิงเซียวได้เลือดมังกรมาปลุกสายเลือดมังกรในตัวเอง แล้วก็ไปหาเพื่อนพ่อที่ตั้งกองกำลังเทียนโก่วอยู่ เราว่าซีนในเทียนโก่วสนุกดีเหมือนกัน แล้วก็เริ่มแย้มๆความลับเรื่องชาติกำเนิดของนายเอกด้วย เราว่าจริงๆแล้วนายเอกที่อยู่ในโลกปัจจุบันก็เป็นทายาทตระกูลโหยวด้วยเหมือนกันล่ะมั้ง 

ดูเหมือนความวุ่นวายที่โหยวเสี่ยวโม่และหลิงเซียวต้องเผชิญไม่อาจจบลงโดยง่าย ซ้ำยังดูจะยิ่งวุ่นวายมากขึ้น ทั้งเรื่องสายเลือดของหลิงเซียว เรื่องความลับของสายเลือดตระกูลโหยว และสมบัติประจำตระกูล นอกจากนี้ยังเกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดในหมู่จอมอสูร อีกทั้งการเคลื่อนไหวของพวกแมงมุมดำยังดูไม่ชอบมาพากล หรืออาณาจักรทงเทียนแห่งนี้กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความโกลาหลเสียแล้ว

เล่ม 9 นี้มีเจอกับเต่าน้อยของเผ่าเต่ากายสิทธิ์ น่ารักมากๆ แบบน่ารักกรุบกริบ อยากให้อยู่กับนายเอกไปตลอดเลย แต่จริงๆเรื่องนี้บทสัตว์อสูรของนายเอกไม่เด่นเท่าไหร่ น่าจะไม่ค่อยมีบท แล้วก็เล่มนี้ก็มีไปงานของพรรคแมงมุมดำด้วย แล้วก็เจอกับศิษย์พี่รองจากโลกเก่า เว่ยป๋ายที่ถูกชิวหร่านทำร้ายจนหายตัวไปนั่นเอง

เวลาผ่านไป แต่ความวุ่นวายทั้งหลายกลับไม่ได้ลดน้อยลง เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มอำนาจใหญ่ ทั้งหลิงเซียวและโหยวเสี่ยวโม่เองก็ต้องปะทะกับเหล่ายอดฝีมือจนได้รับบาดเจ็บ ซ้ำพวกเขายังต้องพบกับการปรากฏตัวของบุคคลลึกลับซึ่งมาทวงคำสัญญาบางอย่างที่หลิงเซียวเคยให้ไว้ในอดีต รวมถึงความลับอันน่าสะพรึงที่ตำหนักทงเทียนซุกซ่อนเอาไว้ และอาจนำมาซึ่งการล่มสลายของกลุ่มอำนาจต่างๆภายในอาณาจักรทงเทียนก็เป็นได้

คือเล่มนี้เราว่าอีเว้นหลักคงหนีไม่พ้นอาณาจักรทงเทียนกับจักรพรรดิทงเทียน คือตอนอ่านถึงตรงนี้เรางงไปแปปนึง เข้าใจเหมือนที่นายเอกเข้าใจอะว่ากำลังอยู่ในการแข่งขันตลอดเวลา ตอนที่เวลาของนายเอกผ่านไปหนึ่งปี (แบบเป็นการไทม์สกิปด้วยนะ พูดเฉยๆว่าหนึ่งปีผ่านไป) เรายังคิดว่าเป็นเวลาด้านในนี้เฉยๆ เวลาข้างนอกอาจจะแปปเดียว ปรากฏว่าเป็นเวลาหนึ่งปีจริงๆ แถมหลิงเซียวยังทำทุกทางเพื่อเอาโหยวเสี่ยวโม่ออกมาด้วย คือเป็นตัวร้ายที่มาแบบไม่คาดคิดเลยค่ะ 555555

เมื่อความลับของตำหนักทงเทียนปรากฏ ความโกลาหลแผ่ตัวเข้าปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ การปรากฏตัวของผู้อยู่เบื้องหลังพรรคแมงมุมดำสร้างความหวาดหวั่นให้กลุ่มอำนาจใหญ่อย่างถ้วนทั่ว

เพียงเพราะต้องการเป็นใหญ่เหนืออื่นใดในใต้หล้า ผู้นำพรรคแมงมุมดำกระทำการหยาบช้าเพื่อพาคนให้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดในฐานะจอมราชันทว่าบุรุษในตำนานมิได้มีเพียงหนึ่ง หากมีถึงสอง ย่อมต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายตกไป การปะทะกันของผู้มีคุณสมบัติตรงตามคำเล่าขานจึงอาจนำมาซึ่งหายนะที่ไม่มีใครคาดคิด

ปกเล่มนี้สวยที่สุดในชุดแล้วเราว่า

อ่านมาจนจบ...ตอนแรกเรานึกว่าสัญญาระหว่างเทพโอสถกับสัตว์อสูรที่เป็นสัญญาชีวิตอะไรนั่น จะเก็บไว้เพื่อให้พระเอกนายเอกได้ทำร่วมกันซะอีก สรุปว่าไม่ใช่แฮะ คือเห็นพระเอกจริงๆก็เป็นสัตว์อสูรตัวหนึ่ง 

อีเว้นในเล่มนี้มีเยอะมาก ตั้งแต่การประลองที่สำนักเซียวเหยาจัดขึ้นแทนที่สำนักทงเทียน จิ่วเย่กับเฉียวอู๋ซิงคว้าที่หนึ่งไปได้ (จริงๆสองคนนี้ก็มีเคมีอยู่นะ/ฮา) ส่วนจักรพรรดิทงเทียนถูกหลินเส้าอี้ซึ่งเป็นลาสบอสเอาตัวไปฆ่าเอาเลือด

จุดเซอร์ไพรซ์อันนึงของเราคือ ชาติกำเนิดที่แท้จริง (แท้จริงในแท้จริง แท้จริงมาหลายรอบ) ของหลิงเซียว ที่มาจากหลินหมิง หลินกู่ แล้วก็จีซิ่วซิน (?) คือเอาจริงตรงนี้ก็ไม่ได้อธิบายละเอียดขนาดนั้นปะ ว่าสายเลือดรวมกันยังไง แต่หลินหมิงยังพูดออกมาว่าหลินกู่เป็นคนตั้งครรภ์และคลอดหลิงเซียวออกมา หลินหมิงกับหลินกู่น่าจะเป็นคนรักกัน ถึงจะมีซีนแสดงความรักกันไม่มากแต่ก็ค่อนข้างชัดเจนประมาณนึงเลย คู่นี้ก็น่ารักดีเหมือนกัน 

ซีนไคลแมกซ์แน่นอนเป็นซีนหลิงเซียว VS หลินเส้าอี้ ก็หลิงเซียวที่มีห้าสายเลือด กับ หลินเส้าอี้ที่มีสี่สายเลือด ตัวโหย่วเสี่ยวโม่เองก็เป็นเทพโอสถระดับเจ็ดคนแรกของแรก พระเอกชนะเสร็จก็เป็นจอมราชันของโลกทุกใบ (โอ้โหโคดเวอร์ 5555555) 

ส่วนอีกคู่อย่างอิ๋นเกอก็หายไปเลย ถูกพ่อกีดกันไม่ให้มาร่วมรบด้วย 

ตอนท้ายเป็นตอนพิเศษที่นายเอกกลับมาโลกเดิมของตัวเองก็พบว่าตระกูลโหยวเป็นตระกูลเทพโอสถจริงๆที่พ่อแม่เย็นชากับตัวเองก็เพราะว่านายเอกสามารถตายได้ ไม่เหมือนคนอื่นที่ไม่ได้ กลัวว่าถึงเวลาต้องจากกันแล้วจะรับไม่ไหวเลยเย็นชาใส่แต่เนิ่นๆ (?) แต่โหย่วลู่กับโหย่วป่ายที่เป็นพี่ใหญ่กับน้องเล็กของนายเอกก็รักนายเอกมาตลอด แอบคิดว่าเค้าแอบ Hint ว่าโหย่วป่ายรู้สึกอะไรกับนายเอกมากกว่าพี่น้องปะ 

เรื่องนี้เราอ่าน 1-11 แบบไม่ได้พักไปอ่านเรื่องอื่นเลย ก็รู้สึกว่าคิดถูกมากที่รอจนเล่ม 11 เดินทางมาถึงบ้านแล้วค่อยอ่าน (คืออันนี้ก็มาถึงบ้านละก็ยังรอแปปนึงมัวแต่ไปอ่านเรื่องอื่นอยู่) เพราะไม่งั้นด้วยเนื้อเรื่องมีโอกาสสูงมากที่เราจะเทกลางคันถ้าต้องรอ แบบเนื้อเรื่องมันเป็นแนวอัพเลเวลไปเรื่อยๆ สะสมสกิลไปเรื่อยๆ ก็คล้ายๆ อืม ถ้าเทียบชายหญิงก็คิดถึงแนวจูจู ไม่ก็ทรราชตื๊อรัก

พระเอกนายเอกก็ซูมากทั้งคู่ ทำให้มันไม่ค่อยตื่นเต้นมากเวลาที่เจอกับอีเว้นอะไรหรือต้องสู้อะไร แต่เราก็คิดว่ามันก็เพลินๆดี ข้อดีของการอ่านตัวละครซูก็คือไม่ต้องเครียดมาก รู้ว่ายังไงก็ต้องชนะแน่ เราก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการที่ตัวละครซูอยู่แล้ว 55555

นายเอกเป็นตัวละครสายน้องที่มาพร้อมโชคมาพร้อมสกิลซู แต่อาจจะรู้สึกว่าไม่ซูเท่าไหร่ เพราะเทียบกับพระเอกที่ซูกว่ามากกกกกกแล้วนั้น... 555555 พระเอกก็เป็นตัวละครสไตล์พระเอกผู้เก่งกาจ ชอบแกล้ง ปากร้าย 

แต่ให้พูดตามจรงตัวละครก็ไม่ได้มีมิติอะไรมากขนาดนั้น เน้นสวยหล่อเท่ๆ สกิลยุบยับ ตัวร้ายก็แบนๆ แล้วก็มีตัวประกอบเยอะมากกที่แบบถูกทิ้งไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย แต่ส่วนตัวเราก็คิดว่าเราอ่านได้เพลินๆ สนุกดีค่ะ แบบอ่านแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอะ เรื่องแปลมีจุดที่รู้สึกว่าทื่อๆหลายจุดเหมือนกัน 

เราอ่านฉบับเล่มของเฮอร์มิทนะ ฉบับ E-book เรื่องนี้เป็นของ kawebook ซึ่งเราไม่มี ก็เลยไม่พูดถึงแล้วกัน แต่จะแปะลิงค์อีบุ๊คเอาไว้ด้านล่าง ฉบับเล่มกระดาษของเฮอร์มิทมี 11 เล่ม แต่กวีบุ๊คมี 24 เล่มแน่ะะ

E-book (เวอร์ชั่นของ kawebook ใช้ชื่อว่า ฮูหยินของท่านจอมยุทธ์ในตำนาน ค่ะ แต่เป็นเรื่องเดียวกัน แต่เราไม่ได้อ่านนะ เพราะฉะนั้นบอกไม่ได้ว่าแตกต่างกับเวอร์ชั่นกระดาษยังไง ถ้าสนใจฉบับ E-book ลองๆหารีวิวใน meb อ่านดูก็ได้ค่ะ) : 

เล่ม 1, เล่ม 2, เล่ม 3, เล่ม 4, เล่ม 5, เล่ม 6, เล่ม 7, เล่ม 8, เล่ม 9, เล่ม 10, เล่ม 11, เล่ม 12, เล่ม 13, เล่ม 14, เล่ม 15, เล่ม 16, เล่ม 17, เล่ม 18, เล่ม 19, เล่ม 20, เล่ม 21, เล่ม 22, เล่ม 23, เล่ม 24