เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Janie Is Not So Welljanieishappy
New Year, New Surprise!
  • วันก่อนไปหาหมอจิตตามนัด ชวนพ่อไปด้วย พอถึงคิวเราก็เข้าไปก่อน แล้วให้พ่อเข้าทีหลัง มาเล่าให้แฟนฟัง แฟนก็บอกว่าควรให้พ่อเข้าก่อน หมอจะได้บอกว่าคุยกะพ่อว่าอะไรบ้าง เออ จริงของนาง แต่ก็ช่างเหอะ 

    เดาว่าหมอไม่ได้พูดอะไรกับพ่อมาก เพราะฟังจากที่พ่อเล่า ดูเหมือนพ่อจะเป็นฝ่ายพูดมากกว่า คือเหมือนพ่อไประบายความอัดอั้นตันใจให้หมอฟังอ่ะ -- หมอดูดีใจมากตอนเราบอกหมอว่าพ่อเรามาด้วย พ่ออยากคุยกะหมอ -- ก็ค่อนข้างมั่นใจว่า หลังจากหมอฟังพ่อบ่นๆๆๆ ไปห้านาที หมอคงคิดเสียใจว่าแบบ ไม่น่าเลยกู ฮ่าๆๆ

    เรื่องที่พ่อรู้สึกเสียใจ รู้สึกผิดที่สุดเกี่ยวกับเราคือเรื่องที่พ่อส่งเราเข้าโรงเรียนประจำ พ่อบอกหมอว่าเขารู้สึกผิดมาก เสียใจจนถึงตอนนี้ เพราะมันทำให้เราเปลี่ยนไป อันนี้เรารู้ พ่อเคยบอกเราหลายครั้ง เราไม่เคยบอกว่าเขาผิด เราบอกเราเข้าใจ แต่ถามว่าเราเกลียดช่วงเวลานั้นไหม บอกเลยว่าเกลียดที่สุดในชีวิต แต่ก็นั่นแหละ เราไม่ได้บอกพ่อไปแบบนั้น 

    หมอบอกพ่อว่า "ลูกสาวคุณเขาห่วงคุณมากนะ เขากลัวว่าคุณจะตาย คุณรู้ใช่ไหม" พ่อบอกพ่อรู้ ใช่สิ เพราะเราบ่นพ่อตลอดเวลากับเรื่องพวกนี้ ห้ามไม่ให้พ่อขี่มอไซค์จนสุดท้ายพ่อก็ต้องขายทิ้ง บ่นทุกครั้งเวลาทีี่นางคุยโทรศัพท์หรือเล่นโทรศัพท์เวลาขับรถ ห้ามกินเหล้าแล้วขับรถ อะไรเทือกนี้ ส่วนเรื่องอาหารการกินและสุขภาพ อันนี้พ่อดูแลตัวเองอยู่ ผลตรวจสุขภาพพ่อดีทุกปี ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถามว่าเรายังเครียดยังห่วงไหม ก็เป็นอยู่ดี

    คราวนี้เราเล่าให้หมอฟังเรื่องแฟน เราบอกหมอว่า ไหนหมอบอกว่ามีแฟนแล้วจะห่วงพ่อน้อยลงไง นี่กลายเป็นห่วงทั้งพ่อห่วงทั้งแฟน หมอก็บอก "คุณไม่มีวันหายห่วงคนที่คุณรักหรอก มันจะเป็นงี้ไปยันคุณตายอ่ะ" อ่าวหมอ ไมตอนนี้มาพูดงี้อ่ะ -- หมอก็ห่วงเรานิดนึงเรื่องแฟน กลัวว่าแฟนจะทำให้เราเครียดกว่าเดิม คือเรื่องนี้เราเฉยๆ นะ ก็มีห่วงมีคิดบ้างเรื่องงานเรื่องนั่นนี่ของแฟน แต่หลักๆ ที่เราเครียดคือเรากลัวคนที่เรารักจะตาย เรื่องนี้เรื่องใหญ่ เรื่องนี้ไม่โอเค การตายโดยปัจจุบันทันด่วนมันไม่โอเคมากๆ สำหรับเรา จากกันเป็นๆ มันทำใจได้ เลิกกัน คบกันไม่ได้ก็หาผัวใหม่สิ มันก็ต้องเศร้าต้องเสียใจแหละ แต่ทำไงได้ คบกันแล้วไม่มีความสุขก็ไม่ควรคบกัน ถูกมะ

    หมอบอกว่า "สิ่งที่คุณเจอมันคือสิ่งที่แย่มากๆ เหมือนคุณถูกรางวัลที่หนึ่ง คุณว่าเปอร์เซ็นที่คุณจะถูกรางวัลที่หนึ่งมีเยอะไหมล่ะ แล้วนี่คือคุณถูกไปแล้ว เปอร์เซ็นที่คุณจะถูกซ้ำมันยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่เลยนะ..." ที่หมอพูดก็ถูก "...ผมรู้ว่าคุณคิดว่ายังไงมันก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นอยู่ แต่ผมอยากให้คุณคิดเป็นเหตุเป็นผลว่าโอกาสที่จะเกิดอีกมันมีน้อยมากๆ" ก็บอกหมอไปว่าเราพยายามคิดแบบนั้นตลอด ก็ฝึกตัวเองอยู่ตลอด 
    "มีลูกสิ" หมอบอก
    "ห้ะ..." เดี๋ยวววววววหมอออออ อะไรของหมอออออ
    "ถ้ามีลูกนะ คุณไม่มีแรงมาห่วงใครเลย ห่วงแต่ลูกอย่างเดียว"
    พอค่ะหมอ พอ หนูจะไม่เชื่อคำแนะนำหมอแล้ว ไหนบอกมีแฟนจะดีขึ้น ชิ หลอกกันนี่นา

    เอาจริงๆ คบกะแฟนคนนี้เราว่าเราโอเคขึ้นนะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราคิดว่า คบกันก็ต้องต่างฝ่ายต่างทำให้ชีวิตของอีกฝ่ายดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้าคบกันแล้วฉุดกันลงเหวก็ไม่ควรคบ เราทำสิ่งดีๆ ให้เขา เขาทำสิ่งดีๆ ให้เรา แชร์กันทั้งทุกข์และสุข เราว่ามันดีนะสำหรับเรา

    เรื่องสำคัญที่เราบอกหมอคือ เรื่องที่เราไปฟังผลตรวจมะเร็งปากมดลูกแล้วผลออกมาว่าเจอเซลล์ผิดปกติ ก็ต้องส่องกล้องตรวจซ้ำ เพราะตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอิที่ผิดปกตินี่คืออะไร ก็ต้องไปตรวจเพิ่มให้รู้ หมอฟังปุ๊บก็ชิลใส่เราเลย "อันนั้นมันตรวจแบบขั้นต้นมากๆ เลยนะ ถ้าเจอว่ามันไม่ดีก็ตัดออก ผมว่าไม่มีอะไรน่ากังวลเลย เจอเร็วอ่ะดี รักษาง่าย อีกอย่าง ผลบอกว่าเซลล์ผิดปกติ มันอาจจะเป็นแค่การอักเสบหรือติดเชื้ออะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้ มันเป็นได้หมด ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นมะเร็ง" 

    เราไปตรวจเจอที่รพ.จุฬา แผนกนรีเวชก็นัดส่องกล้องให้เราได้ภายใน 2 อาทิตย์ ถือว่าเร็วนะ แถมเป็นคลีนิคในเวลาด้วย เร็วและถูก ก็ได้แต่หวังว่าผลออกมาจะโอเค -- เรายังไม่พร้อมจะมีโรคเพิ่มตอนนี้ ไม่พร้อมจริงๆ 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Wewi Suttida (@wewisuttida)
เอ้ามีแฟนตอนไหน
janieishappy (@janieishappy)
@wewisuttida นานละนะ