แม้ว่าก่อนหน้านี้จะอยากไปหาหมอจิตมากขนาดไหน พอบทจะต้องไปจริงๆ มันก็เครียดนะ หลังจากที่โดนหมอออโธกล่อมให้ไปหาหมอจิตวันนั้น นางก็ให้พยาบาลจัดการนัดให้เสร็จสรรพ
ไปถึงคลินิคจิตเวชก็ยื่นใบนัดนั่งรอวัดความดัน หนีบนิ้ว จิ้มหูตามปกติ วัดเวิดอะไรเสร็จ พยาบาลก็ถามว่า “วันนี้มาพบจิตแพทย์ด้วยเรื่องอะไรคะ” เออ นี่เรามาทำไมวะ งงจัง แล้วหมอออโธไม่บอกหรอว่าส่งเรามาทำไม ก็เลยตอบไปว่าไม่รู้เหมือนกัน หมอออโธส่งมา พยาบาลก็งง สงสารนางจัง นางคงคิดว่าเรากวนตีนเพราะความเครียด เปล่า นี่ไม่ได้เครียด นี่งง
พอเจอหมอ (หลังจากที่รอนานมาก) หมอก็ถามคำถามแรกว่า “เป็นไงครับ มีเรื่องเครียดอะไรหรอ” เดี๋ยว คือนี่หมอออโธไม่มีคำอธิบายใดๆ มาให้เลยจริงๆ ใช่มั้ย คำว่าส่งมาคือแค่นัดให้เฉยๆ หรอ เออ คงใช่แหละ เพราะดูคนไข้งง พยาบาลงง หมอจิตงง ทุกคนงง ยกเว้นหมอออโธ
“ไม่รู้ค่ะ หมอออโธเค้าส่งหนูมา หนูก็งง” เราตอบหมอจิตไปเหมือนกับที่ตอบพยาบาล
หมอก็เลยเริ่มบทสัมภาษณ์ที่ละลาบละล้วงที่สุดที่เราเคยเจอมา ตั้งแต่ป่วยเป็นอะไรถึงไปคลินิคออโธ เป็นมานานยัง กินยาอะไรอยู่บ้าง นอกจากโรคนี้มีโรคอะไรอีกมั้ยตอนนี้ ในอดีตเคยเป็นโรคอะไรมาบ้าง ทำงานอาชีพอะไร งานเครียดมั้ย แต่งงานรึยัง มีแฟนรึยัง อยู่บ้านกับใคร ที่บ้านเป็นยังไง และอื่นๆ แล้วก็ถามเรื่องอารมณ์ ความรู้สึกโดยทั่วไปว่า ปกตินี่รู้สึกยังไง ในหนึ่งวันนี่สุขหรือทุกข์มากกว่ากัน แล้วหนึ่งสัปดาห์ล่ะ เป็นแบบนี้มานานรึยัง คิดเรื่องฆ่าตัวตายมั้ย แล้วเคยพยายามฆ่าตัวตายมั้ย คิดบ่อยขนาดไหน และก็อะไรอีกเยอะแยะมากมายก่ายกอง
หลังจากหมอสัมภาษณ์จบ หมอก็สรุปได้อย่างง่ายๆ ว่า เป็นซึมเศร้านะ เอายาไปกินนะ มันจะดีขึ้น แล้วก็อธิบายวิธีกินยา แต่ด้วยความที่เราตอนนั้นโคตรจะไม่อยากกินยา เพราะอ่านมาเยอะถึงความน่ากลัวของการกินยาและปรับยา เราก็ถามว่าแล้วนี่เราเป็นเพราะอะไร เพราะยาของหมอออโธที่กินหรอ แล้วกินยานี่ไปจะไม่บ้ากว่าเดิมหรอ หมอก็บอกไม่รู้ว่าเป็นเพราะยาหมอออโธรึเปล่า เรากินโดสต่ำมาก มันไม่น่าเป็น ส่วนยาที่หมอให้กินนี่มันจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ไม่บ้าหรอก ผลข้างเคียงก็ไม่มีอะไรน่ากังวลหรอก กินๆ ไปเถอะ
หมอบอกอีกว่า ที่เราเป็นคือซึมเศร้าแบบเรื้อรังที่เป็นมานานแล้ว แล้วก็เพิ่งจะอาการหนักเอาตอนนี้ แล้วหมอก็ทิ้งท้ายก่อนจะจากกันในวันนั้นว่า “ชีวิตคนเรามันต้องมีความสุขนะ”
อื้อหือ น้ำตาจะไหล
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in