หมายเหตุ: แรงบันดาลใจจาก fictober ที่อย่างไรเสียก็เพิ่งจะได้มาเริ่มเล่น ถ้าจะใช้วิธีนับเป็น -3 พฤศจิกายนแทน แล้วปัดเข้าเป็น novelber ก็ดูจะฝืนโลกไปหน่อย เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเป็นแค่การซ้อมมือ ยืมคำมาเล่นไปก่อน
เที่ยงแล้ว
เที่ยงอีกแล้ว และมาพร้อมกับปัญหาโลกแตกเดิมทุกครั้งว่า จะกินอะไรดี
ย้อนไปสมัยยังเป็นเด็ก ปัญหานี้ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะไม่มี "อะไร" ให้เลือก ทุกอย่างถูกจัดมาให้เสร็จสรรพโดยที่ไม่ต้องเรียกหา ซึ่งยังคงฝังลึกในจิตใจจนถึงทุกวันนี้แม้ไม่อยากจำ ถาดสี่หลุมทรงกลม กับข้าวแห้งหนึ่งอย่าง น้ำหนึ่งอย่าง ข้าว ของหวาน ไข่พะโล้ครึ่งฟองที่ไร้ไข่แดงยังคงอยู่ในความทรงจำ น้ำแกงที่ไหลมาผสมกลมเกลียวกันกับรวมมิตร และที่ร้ายที่สุดคือต้องกินให้หมด มีกระทั่งเวรเฝ้าถังทิ้งข้าว เป็นความทรงจำที่ไม่เคยทำให้นึกเอ็นดูชุดอาหารถาดตามร้านอาหารอีกเลย
ดูเหมือนจะออกนอกเรื่องไปเสียหน่อย
กลับมาในปัจจุบัน ขณะนี้ตัวเลือกมีมากมายแล้ว แต่ปัญหากลับกลายเป็นว่าไม่รู้จะกินอะไรดี ราวกับความสร้างสรรค์ถูกเททิ้งหายไปพร้อมอาหารในวัยเยาว์ ปัญหานี้ทิ่มแทงรบกวนจิตใจทุกมื้อ แต่สาหัสที่สุดยามเที่ยงวัน ท้องร้องหิว เวลาจำกัด จะทำอย่างไรดี
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผู้ยิ่งใหญ่รายหนึ่งที่ใส่เสื้อผ้ารูปแบบเดียวกันทุกวัน เพื่อเก็บเอาความคิดสร้างสรรค์ไปใช้ในเรื่องอื่น เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ ทำตามได้ไม่ยาก ผลการทดลองเป็นไปอย่างราบรื่นในสัปดาห์แรก เมื่อขึ้นสัปดาห์ที่สอง สิ่งที่เกิดขึ้นคือไม่รู้สึกเหมือนกำลังเคี้ยวข้าวขณะกินข้าวอีกต่อไป ราวกับกำลังเข้าใจแก่นแท้ของการดำรงชีวิต สละเปลือกนอกทิ้งมองแต่แก่นแท้ภายใน อะไรทำนองนั้น แต่ความคิดสร้างสรรค์ในด้านการงานก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยเช่นกัน หรือนี่จะเป็น comfort zone ที่ดึงดูดใจให้ก้าวข้าม
วันนี้ ที่หน้าร้านข้าวเจ้าเดิม เป้าหมายใหม่ที่ต้องไปให้ถึงรอเราอยู่ ข้าพเจ้าเงยหน้ามองป้าเจ้าของร้านที่ยิ้มให้อย่างมีไมตรี
ขณะที่กำลังจะก้าวออกนอกกรอบที่ล้อมกระเพาะอาหารไว้อย่างยาวนานร่วมสัปดาห์ ป้าก็ตักข้าวและกับข้าวชนิดเดิมส่งให้พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นหัวใจ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in