เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Live alone with some books.iamny
Love Simon : อีเมลลับฉบับไซมอน
  • เป็นเรื่องที่เห็นผ่านตาว่าถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ เลยซื้อมาอ่านดู 
    เพราะโดนส่วนตัวชอบอ่านแนวคัมมิ่งออฟเอจอยู่แล้วด้วย 
    เลยไม่ลังเลนานกดสั่งซื้อมาอ่านเลย และแน่นอนไม่ทำให้เราผิดหวังเลย :)



                           เรื่องราวของไซมอน เด็กหนุ่มผู้มีชีวิตปกติสุขอย่างคนทั่วไป ทั้งครอบครัวที่อบอุ่น
    เพื่อนฝูงเฮฮา และเขายังเป็น 1 ในสมาชิกของชมรมละครอีกด้วย 
    แต่ไซมอนมีความลับที่เก็บงำไว้ นั่นคือ 'เขาเป็นเกย์' 
                        วันหนึ่ง ไซมอนได้ไปเจอกับโพสต์ของคนคนหนึ่งที่โพสต์ไว้ในทัมเบลอร์ซุบซิบของโรงเรียน และเขาจับอะไรบางอย่างได้จากโพสต์นั้น ไซมอนจึงส่งอีเมลไปหาคนคนนั้นที่มีนามแฝงว่าบลูถึงความลับที่ว่าเขาเป็นเกย์ และเช่นเดียวกันบลูเองก็เหมือนกับเขา ตั้งแต่นั้นมา ทั้งสองจึงเริ่มส่งอีเมลหากัน แต่แล้วด้วยความไม่ระวังตัวของไซมอน ทำให้มาร์ติน เพื่อนร่วมห้องและชมรมละครของเขามาเห็นอีเมลลับนั้นเข้า มาร์ตินเลยบังคับให้ไซมอนช่วยเป็นพ่อสื่อให้เขาได้ลงเอยกับเเอ็บบี้ เพื่อนกลุ่มเดียวกับไซมอน หากเขาไม่ยอมทำตาม จะถูกมาร์ตินแบล็คเมล ความลับของเขากับบลูก็จะถูกเปิดเผย และอาจทำให้บลูหายไปจากชีวิตเขา ไซมอนจึงต้องยอมทำตามข้อเสนอนั้น แม้เขาจะไม่เต็มใจเลยก็ตาม

                              เป็นนิยายที่โดนสปอยก่อนจะได้อ่าน เพราะดันเข้าไปดูข้อมูลจากวิกิพีเดีย ความสนุกเลยลดลงมานิดหน่อยเพราะหมดลุ้นแล้วว่าใครคือบลู ในเรื่องเล่าถึงชีวิตประจำวันของไซมอนค่ะ เปิดเรื่องด้วยฉากที่มาร์ตินขู่จะแบล็คเมลไซมอน แล้วก็เล่าย้อนนิดหน่อยว่าไซมอนไปเจอบลูได้ยังไง ซึ่งการดำเนินเรื่องคือเล่าผ่านมุมมองของไซมอนว่าไปเจออะไรมาบ้าง สลับกับอีเมลที่ไซมอนกับบลูคุยกัน
                             ทุกอย่างในเรื่องธรรมดาเรียบง่ายมากๆ จุดพีคที่สุดในเรื่องก็คงจะเป็นตอนที่บลูเปิดเผยตัวเนี่ยแหละ มีดราม่าอยู่บ้างนิดหน่อย  ซึ่งก็น่าจะเป็นจุดประสงค์ของคนเขียนนี่แหละ
    เพราะเจ้าตัวบอกไว้ตอนท้ายว่าเขียนนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ LGBT ทุกคน
    เหตุการณ์ต่างๆในเรื่องเลยจะออกไปทางแฮปปี้เอนด์ดิ้ง เราว่าทุกคนจะได้รับกำลังใจจากเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน (ขอชื่นชมผู้แต่งในจุดจุดนี้เลยค่ะ!) ที่ชอบอีกอย่างคือบทสนทนาที่ไซมอนกับบลูคุยกัน
    น่ารักมากตรงที่ทั้งคู่ต่างคอยเป็นกำลังใจให้กันอยู่เสมอเลย ถึงเรื่องจะเรียบง่ายไม่หวือหวา
    แต่หลายเหตุการณ์ หลายความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวละครในเรื่องนั้นมีความเรียลมากๆ
    ทำให้พออ่านแล้วเลยรู้สึกว่าเข้าใจและเข้าถึงได้ง่ายทีเดียว
       จริงๆแล้วโดยส่วนตัวเราคิดว่าการที่เรื่องมันค่อนข้างธรรมดา
    อาจจะเป็นเพราะคนเขียนอยากจะสื่อว่า 'ชาว LGBT ก็มีชีวิตปกติเหมือนพวกเราทุกคน' ก็เป็นได้นะคะ :) 

    ตอนแรกคิดไว้ว่าถ้าหนังเข้า จะตามไปดูแน่นอน สุดท้ายดันเข้าอยู่แค่ 2 ที่ เลยอดดู
            เสียดายมากๆ แต่ชอบเพลง OST ของเรื่องนี้หลายเพลงมากๆ

    ปล.ฉบับแปลไทย กลิ่นหมึก(หรือกระดาษ)แรงไปนิด อ่านนานๆแล้วเวียนหัว หรือเราจมูกดีไป?
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in