รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่
By เมิ่งซีสือ
ชอบเล่าจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเรื่องนี้มากๆ รัชศกมี 7 เล่มจบ ครั้งแรกที่รู้ความยาวของตัวเรื่องคือวางหนังสือเลยอะ ตัดใจ ๕๕๕๕๕๕ ต้องบอกก่อนว่าเราไม่อ่านนิยายวายเท่าไหร่ วายพีเรียดจีนเคยอ่านเรื่องเดียวเอง แต่ไม่รู้ทำไมงานหนังสือปีนั้นแวะบูธเอเวอร์วายเห็นปกรัชศกแล้วอยากซื้อ แต่คนขายให้ข้อมูลแค่ว่ามี 7 เล่ม (แค่ฟังก็ท้อแล้วอะแม่จ๋า) เป็นเรื่องเกี่ยวกับสืบสวน และเล่มแรกจบค้าง เราถามว่าสนุกไหม คนขายบอกว่า 'ถ้าบอกว่าจบค้างแปลว่าสนุก' เรานี่เดินหนีเลย งง ๕๕๕๕๕๕๕๕๕
แต่! แต่สุดท้ายอะไรไม่รู้ดลใจให้หันกลับ เดินไปหยิบรัชศกมาจ่ายตังค์ คงเพราะหลงใหลในหน้าปกมากๆ ฟ้าได้ลิขิตไว้แล้วให้เรามาเจอกับนิยายเรื่องนี้ที่ขึ้นแท่นเรื่องโปรด
อ่านจบเล่มแรกเราก็ชอบแล้ว พอถึงเล่ม 3 ออกก็รักรัชศกเข้าขั้นคลั่งไคล้มากกกกกกกกกกกกกกกกก รัชศกเป็นเรื่องที่พลิกมุมมองที่เรามีต่อวายพีเรียดจีน เออ มันก็สนุกเหมือนกันเนอะ ด้วยภาษาแปลที่ลื่นไหล ภาพสวยๆ ย้อนยุค วิธีการเล่าเรื่อง ฯลฯ และตอนนี้ก็ได้ติดบ่วงตามซื้อนิยายพีเรียดเล่มอื่นๆ เป็นที่เรียบร้อยค่ะ ล้มละลาย orz รัชศกเป็นเรื่องที่ทำให้เราผ่านวันเหนื่อยๆ ดาวน์ๆ มาได้ เป็นเรื่องที่เรารอคอยทุกเดือนว่าจะออกวันไหน เป็นเรื่องที่เรางอแงไม่อยากให้จบที่สุด อ่านจบแล้วร้องไห้ใจหายเลย ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกผูกพันกับตัวละครขนาดนี้คือเมื่อ 5-6 ปีมาแล้วอะ และเป็นครั้งแรกที่โคตรอยากเจอนักเขียน พาไปเลี้ยงบุฟเฟ่ต์อร่อยๆ ให้สมกับที่ตั้งใจเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา T _ T
พร่ำพรรณนาไปเท่านี้ คงพอทราบกันแล้วว่าเรารักรัชศกมาก ก็จะรีวิวออกมาลำเอียงๆ หน่อย ;-; ดังนั้น *รีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคล และความชอบขึ้นอยู่กับรสนิยมผู้อ่านค่ะ* แต่ก็ต้องยอมรับว่าเดินทางมาถึงเล่ม 7 แล้ว รัชศกมีคนรัก คนติดตามเยอะขึ้นมากๆ จากวันแรกๆ T v T ปริ่ม เอาล่ะ จะขายตรงเรื่องนี้โดยพยายามไม่สปอยล์ค่ะ!
เรื่องย่อ
นิยายสืบสวนแนวชายรักชาย เซ็ตติ้งจีนโบราณ ถังฟั่น (ถังรุ่นชิง) เป็นผู้พิพากษาศาลซุ่นเทียนที่ฉลาดปราดเปรื่องแต่รักการกินและการแต่งนิยายประโลมโลกเป็นชีวิตจิตใจ บังเอิญจับพลัดจับผลูได้มาร่วมสืบคดีเดียวกันกับสุยโจว (สุยก่วงชวน) หนึ่งในองครักษ์เสื้อแพร ซึ่งทำงานคล้ายๆ ตำรวจลับในสมัยนั้น ไม่ใช่แค่ถังฟั่นต้องตามหาความจริงของแต่ละคดีที่ได้พบเจอ แต่ยังต้องรับมือกับเหล่าขุนนางราชสำนักที่แก่งแย่งอำนาจกันดุเดือด ในขณะเดียวกัน สุยโจวผู้เย็นชาพูดน้อยก็ไม่ให้ความร่วมมือนักเพราะเขามองว่าขุนนางนั้นเป็นแค่กลุ่มคนถือดีรักตัวกลัวตาย พานให้ไม่ชอบถังฟั่นไปด้วย
นี่เป็นเพียงเรื่องย่อของเล่ม 1 เท่านั้นค่ะ ในแต่ละเล่มจะมีคดีประมาณ 2-3 คดีให้ติดตาม เส้นเรื่องหลักของรัชศกคือการสืบคดี (ความลึกลับน่าติดตาม) การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายต่อสู้กันของขุนนางในรั้ววัง (section ที่ใช้สมอง) และการตามล่าลัทธิบัวขาว (ฉากจะบู๊ๆ หน่อย) เส้นเรื่องรองคือความสัมพันธ์พระนายที่ต้องตามลุ้นตลอดตั้งแต่เล่มแรกจนเล่มสุดท้าย
ตัวละคร
น้องถังเป็นตัวละครที่ผู้เขียนสร้างมาได้เหมาะเจาะพอดีมาก จนเรายกตำแหน่งลูกในอ้อมอกให้น้องไปเลย T v T ติดใจที่น้องเป็นเคะที่เก่ง ฉลาด รู้จักวางตัว ยึดมั่นในอุดมการณ์ จิตใจดี อารมณ์ดี แต่ที่น่าเอ็นดูที่สุดก็คือความชอบกินในระดับที่ไม่ปกติ ระดับที่บรรยายรูปสีกลิ่นรสเกี๊ยวน้ำยาวกว่าบรรยายคดี อ่านไปก็หิวไป เป็นคนที่อินกับการกินได้แบบ หนูวววววว อะไรหนูจะต่อสู้ยืนหยัดเพื่อของกินขนาดนี้ T w T อ่านไปต้องหาอะไรกินไปเป็นเพ่ื่อนน้องค่ะ ไม่ได้หิวเองเลยจริงๆ นะ (...)
ด้วยความที่น้องถังเป็นคนดำเนินเรื่อง มู้ดเรื่องก็จะออกอารมณ์ดี สบายๆ เหมือนน้อง คนอ่านจะได้ติดตามชีวิตน้องอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมการทำงานที่เข้มข้นท้าทาย (แล้วจะพบว่าน้องถังเป็นคนที่โคตรซวย! สงสาร๕๕๕๕๕๕) แง่มุมครอบครัว และแง่มุมความรักที่มีอยู่ประมาณ...เอ่อ... 20% ของเล่มจะถึงไหมนะ T v T
พูดถึงพี่สุยโจวเล็กน้อย เป็นเมะคูลๆ เย็นชา พูดน้อยต่อยหนัก เก่ง เท่ ออกแนวเพอร์เฟ็คแต่ชีวิตจืดชืด (สปอยล์เสน่ห์พี่เค้านิดนุง คือพี่เค้าทำอาหารอร่อย! ดังนั้นคนทำอาหารอร่อยกับคนชอบกิน อะไรจะเกิดขึ้นได้นอกจากสปาร์ก!) แต่มีปมชีวิตที่น่าสนใจ เราเองรู้สึกว่าคนๆ นี้ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกันนะ ยิ่งอ่านยิ่งสนุกกับการค้นพบนิสัยแง่มุมใหม่ๆ ของพี่สุยที่เราไม่เคยเห็น เป็นคนที่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนมาก และเราก็โคตรแพ้พี่เขาเลยT//////T ยิ่งอ่านยิ่งไม่เข้าใจว่าโลกนี้มีพระเอกที่ดีและรักนายเอกได้มากเท่าพี่เขาด้วยเหรอ ยิ่งอ่านยิ่งตกหลุมรัก อยากให้น้องถังเลือกผู้ชายคนนี้อีกสักร้อยรอบพันรอบ เลือกพี่เค้าทุกชาติไป!
ในด้านความสัมพันธ์พระนาย กว่าจะทำความรู้จัก กว่าจะขยับสถานะ คือช้าๆ สปีดเต่าคลาน ออกแนวเรียบเรื่อยแต่มั่นคง แต่โมเม้นมาทีตายกันทั้งด้อมนะคะ โอ้โหหหหหหหห เขินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก พี่สุยหยอดเก่ง ;//////; ถ้าชอบความรักที่หวือหวาเข้มข้นจะไม่เจอในเรื่องรัชศก แต่เสน่ห์คู่นี้อยู่ที่ยิ่งโมเม้นน้อยเรายิ่งควานหา ไปๆ มาๆ เหมือนไม่ใช่นิยายวาย เราชิปเองชงเองหมดเลยงี้ T w T ถึงขั้นตามลุ้นว่าเล่มนี้จะมีโมเม้นไหม เขาจะหวั่นไหวกันตอนไหน แต่แทนที่จะรู้สึกเบื่อหรือโหยหาฉากหวาน สำหรับเรามันลงตัวแล้ว เราต้องการแค่นี้ ๕๕๕๕ เรารู้สึกว่าความสัมพันธ์ตัวละครสมจริงน่าเชื่อถือมาก ใช้ทั้งเวลาและเหตุการณ์มากมายมาบ่มเพาะความรู้สึกลึกซึ้งระหว่างพวกเขา เป็นคู่ที่ไม่ต้องพูดว่ารักแต่แสดงออกเลย ทุกอย่างเป็นธรรมชาติและละเมียดละไมที่สุดที่เราเคยได้สัมผัสจากการอ่านนิยายแล้วค่ะ
อีกคาแรกเตอร์สำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือวังจื๋อ ขันทีที่มีตัวตนจริงๆ ในประวัติศาสตร์ แต่คุณเมิ่งซีสือนำชีวิตเขามาตีความใหม่ ให้กลายเป็นตัวละครสีเทาที่มีทุกด้านในตัว วังจื๋อเป็นตัวละครที่เราเคยไม่ชอบ แต่ยิ่งรู้จักยิ่งรัก กลายเป็นตัวละครโปรดของใครหลายคนและช่วยเพิ่มสีสันให้เรื่องด้วยทักษะการด่าคนติดต่อกันได้โดยไม่ต้องพัก ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ ใครชอบตัวละครปากร้ายก็คือห้ามพลาด
สรุปแล้ว ตัวละครดีงาม มีเหตุผล เห็นการเปลี่ยนแปลงและเติบโตตลอดทั้งเรื่อง เรารู้สึกผูกพันกับทุกคน ไม่อยากปล่อยมือจากพวกเขาเลย ;___; ความสัมพันธ์พระนาย subtle แต่เขินแดดิ้น อ่านไปยิ้มไปแน่นอน
เนื้อเรื่อง
เริ่มจากพล็อตหลักๆ เราว่าเรื่องนี้สนุกนะ คึือชอบตั้งแต่เล่มแรก (ที่เบาสุด) แล้วก็เลยรู้สึกว่ามันสนุกอยากติดตามต่อมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกเล่ม เนื้อหาจะเน้นไปที่การสืบคดีและแก้ปัญหาทางการเมืองของถังฟั่น การดำเนินเรื่องเป็นสปีดที่กำลังดีสำหรับเรา แต่ว่าความแน่นปวดหัวก็มีบ้างตรงประวัติศาสตร์และข้อมูล อาจต้องใช้เวลาในการจำ แต่ถือว่าย่อยไม่ยาก อ่านเพลินๆ อ่านแบบจำไม่ได้ก็เข้าใจอยู่
ถ้ามองแต่ตัวคดี บางคดีก็เฉยๆ บางคดีก็สนุก เป็นสืบสวนที่ไม่เข้มข้น คือเห็นการชิงไหวชิงพริบและความฉลาดรอบคอบของน้องถ้ง แต่เฉลยความจริงมาก็ไม่ได้ถึงกับว้าว แต่คดีตั้งแต่เล่ม3 เป็นต้นไปมันส์มาก ชอบความเหนือธรรมชาตินิดๆ ที่ใส่มา ลักษณะคดีก็หลากหลายมากขึ้น มีการลักพาตัว เจอผู้ร้าย มีแอคชั่นต่อสู้ มีการใช้สมองหาทางออก แถมสอดแทรกความขบขัน บรรยากาศไม่เครียด ซีนลุ้นระทึกก็มี อ่านได้ไม่เบื่อเลยค่ะเพราะเราวางไม่ลง
*สปอยล์ mood and tone เส้นเรื่องความรักเล็กน้อย*
เส้นเรื่องรองอย่างเรื่องความรักคือถูกจริตเรามากเหลือเกิน T v T ได้เห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปจากเพื่อนทีละนิดของทั้งคู่แล้วมันชุ่มฉ่ำมากกกกกกกกกกกกกก อ่านแล้วเราเดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวทุบหมอน เดี๋ยวกรี๊ดออกมาดังๆ เคมีพี่สุยน้องถังมันแบบพ่นรุ้งงงงง เพราะว่าพี่สุยก็จะนิ่งๆ เย็นๆ ส่วนน้องถังเข้ามาเป็นความสดใสในชีวิตพี่เค้า หลังๆ พี่เค้าอัพเกรดแบบก้าวกระโดด อบอุ่นระดับไมโครเวฟจนเขินแทนน้องถัง T v T
ในขณะที่น้องถังนั้น....ไม่เขินและไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยค่ะ T v T น้องมึนๆ หัวช้ามาก ความสนุกเลยอยู่ที่คนหน้าหนาอย่างน้องถัง (?) ค่อยๆ เอ๊ะว่าบรรยากาศระหว่างเราสองคนมันไม่ปกตินะ .///. ความหวานคู่นี้มาในทำนองเป็นคอมฟอร์ทโซนกันและกัน เป็นบ้านให้กลับไปหา จริงๆ พระนายมีเหตุให้ต้องไปอยู่คนละที่บ่อยมาก แต่กลับมาอยู่ด้วยกันทีไรก็คือบรรยากาศของครอบครัว โคตรจะคู่ชีวิต //-
หมดสปอยล์
บายเดอะเวย์ ใครที่คาดหวังฉากร้อนเร่า ฉากเรท เรื่องนี้ไม่ตอบโจทย์อย่างแรง ; w ; เรทใสใสอย่างจริงจังมาก แต่หลายคนก็บอกนะว่า "ขนาดเราเป็นสายเรทยังแพ้เรื่องนี้" / ยกมือว่าเราด้วยหนึ่งคน
ข้อติอย่างเดียวคือเส้นเวลา เราว่าบางทีคนเขียนก็สคิปเวลาเร็วไปนิด แบบพลิกหน้าต่อมาคือ 2 ปีให้หลังแล้ว แต่คนเขียนก็พยายามเก็บทุกจุดไม่ปล่อยให้เราค้างนะ แต่ก็นั่นแหละ เรารู้สึกว่าถ้าขยับขยายเหตุการณ์ครอบคลุมทุกช่วงเวลาไปเลยจะดีกว่านี้ เอาง่ายๆ คือ 7 เล่มมันไม่พอค่ะ!
ความคิดเห็นส่วนตัว
โดยรวมเป็นนิยายที่อ่านเพลินๆ ฟีลกู้ด ไม่เข้มข้น ไม่ดราม่า ภาษาแปลอ่านลื่นไหลดี (มีติดขัดตอนเล่ม 4-5 เพราะเปลี่ยนคนแปล แต่ถึงเล่ม 6-7 ก็แปลได้สละสลวยขึ้น) ความน่ารักคู่พระนายมาเต็ม คิดว่าคนที่ไม่ชอบอ่านวายจ๋าหรือไม่เคยอ่านวายมาก่อนคือเลือกเล่มนี้ได้เลยปลอดภัยมาก ขอบอกว่าคุ้มค่าน่าสอยอีกเสียง
สำหรับเราโดยส่วนตัว เรื่องนี้เป็นมากกว่านิยาย เป็นความสุขตลอด 6 เดือน และจะเป็นความสุขต่อไป รักแบบยกขึ้นหิ้ง กราบแล้วกราบอีก ขอบคุณที่โลกนี้มีความดีงามอย่างพี่สุยและน้องถัง /น้ำตาปริ่ม
ชีวิตนี้แคล้วคลาดกับอะไรตั้งมากมาย โชคดีจังที่ไม่คลาดกับรัชศก
ilysm.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in