INTO THE RING ซีรีส์รอมคอมสุดน่ารักของปีนี้ ว่าด้วยเรื่องราวของ 'กูเซรา' หญิงสาวเจ้าของสถิติคำร้องเรียนมากที่สุดในเขตมาวอน เธอร้องเรียนในทุกๆเรื่องที่คิดว่าเป็นปัญหากับตัวเธอและชุมชน กับ 'ซอกงมยอง' ข้าราชการหนุ่มน้ำดีที่ต้องถูกโยกย้ายมาเพราะมีปัญหากับรุ่นพี่ในแผนก ที่พยายามจะเปลี่ยนชุมชนเขตมาวอนของพวกเขาให้ดีขึ้น 

แวะแนะนำตัวละครตามธรรมเนียมกันหน่อยนะคะ

กูเซรา (นานะ After School)

หญิงสาวที่มีปัญหาด้านการหางานประจำ และยังเป็นเจ้าของสถิติคำร้องเรียนมากที่สุดในเขตมาวอน

ซอกงมยอง (พัคซองฮุน)

ข้าราชการน้ำดีแถมหัวดีอีกด้วย ผู้ที่จะเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงให้กับนางเอกของเรา

แนบทีเซอร์

ต่อจากนี้ไป จะมีการแสดงความคิดเห็นของเราปะปนอยู่ด้วย ถ้าคิดเห็นยังไงก็คุยกันได้นะคะ

INTO THE RING เป็นซีรีส์ที่มีคาแรคเตอร์จัดจ้านมาก มีสีสันเฉพาะตัว จริงๆชอบเทคนิคการถ่ายทำ การเล่าเรื่องมากเป็นพิเศษ แต่อันนี้ไว้ค่อยพูดถึงทีหลัง เรามาพูดถึงการวางตัวละครสุดเจ๋งกันก่อนดีกว่า

กูเซรา เป็นตัวละครที่คาดเดาทิศทางไม่ได้เลย ความซื่อตรง เสมอต้นเสมอปลาย ของตัวละครตัวนี้ยิ่งทำให้มีเสน่ห์เข้าไปใหญ่ นานะทำให้ตัวกูเซรามีเสน่ห์มาก การใช้เสียงแบบนี้ การทำท่าทางแบบนั้น ยิ่งการใช้สีหน้าเพื่อแสดงอารมณ์ของกูเซราออกมาอย่างซื่อตรงยิ่งทำให้คนดูเอ็นดูตัวละครตัวนี้เข้าไปใหญ่ เป็นบุคลิกที่ทำให้แม้แต่ตัวละครที่อยู่ตรงข้ามเธอก็ยังต้องเอ็นดู

เป็นตัวละครที่วางมาเพื่อให้คนดูรู้สึกคอมฟอร์ทที่จะทำความเข้าใจระบบการเมืองท้องถิ่นไปกับตัวกูเซรา (ที่มาเป็นสภาเขตสมัยแรกแบบไม่รู้ระบบอะไรในสภาเลย นอกจากรู้แค่ว่าตำแหน่งนี้ได้รับเงินเดือน 50 ล้านวอนต่อปี) นั้นยิ่งทำให้เราชอบการวางตัวละครตัวนี้มากๆ คนเขียนบทเก่งมากที่วางตัวละครที่มีความคิดดี และเป็นมิตรต่อคนดูขนาดนี้

ซอกงมยอง ข้าราชการน้ำดี เป็นคนดีที่พยายามจะต่อสู้กับระบบ แต่ถ้ามันสู้ทางตรงๆไม่ได้ ก็ต้องมีลูกล่อลูกชนกันหน่อย เป็นตัวละครที่มีภาพลักษณ์ที่สุขุม และชวนเข้าถึงได้ง่าย ดูจะเป็นมิตรกับคนทุกวัย แต่ภายใต้ใบหน้ายิ้มๆกลับมีเขี้ยวเล็บเต็มไปหมด ซองฮุนเก็บดีเทลความเป็นกงมยองดีมากเลย การแสดงของเขาสร้างบรรยากาศรอบตัวดีมาก แล้วเคมีก็เข้ากับนานะมากด้วย (เข้ามาตั้งแต่เรื่องก่อนเลยค่ะ อยากขายให้ไปดู JUSTICE กัน)

เป็นตัวละครที่ถูกวางมาเพื่อให้ความรู้คนดูเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่นผ่านการบอกเล่าให้กูเซรารับรู้ เรียกง่ายๆว่าเป็นการเทรนคนดูผ่านการเทรนกูเซรานั่นเอง และด้วยบุคลิกที่ถูกวางมาอย่างดี มันเลยทำให้คนดูเลือกที่จะเปิดใจฟังเขาได้ง่ายขึ้นด้วย

ใจความหลักของซีรีส์เรื่องนี้สำหรับเราคือการย่อยการเมืองท้องถิ่นทำให้คนรู้สึกว่าเข้าถึงได้ง่าย และเป็นเรื่องของเราทุกคน ตั้งแต่การวางตัวละครที่เป็นคนชอบร้องเรียนปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน ไปจนถึงการเดินทางของตัวละครตัวนี้ในสภาที่เต็มไปด้วยเกมการเมืองอันเข้มข้น ซึ่งตัวซีรีส์ทำมาได้ดีมาก เขาทำให้คนดูนอกประเทศเกาหลีแบบเราเข้าถึงและเข้าใจระบบการเมืองท้องถิ่นเกาหลีใต้แบบคร่าวๆได้ ถ้าเป็นคนในประเทศเองได้ดูน่าจะเข้าถึงได้มากขึ้น

พลอตของเรื่องค่อนข้างแน่น ตัวบทก็เช่นกัน เขาเลือกที่จะเล่าเรื่องปัญหาในสังคมชุมชน ผ่านเหตุการณ์ร้องเรียนต่างๆที่ตัวนางเอกในฐานะสมาชิกสภาเขตได้เจอ เราชอบไอเดียการหยิบปัญหาเล็กๆมาขยายไปให้เห็นถึงการรับสินบนขนาดใหญ่มาก เช่นการมีสนามกอล์ฟอยู่ข้างบ้าน ทำให้ได้รับผลกระทบยังไง ตัวเรื่องสามารถแผ่ออกไปได้ถึงการรับสินบนเลยทีเดียว เลยรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ที่เลือกจะหยิบปัญหาแบบนี้มาเล่า แต่ปัญหาก็จะเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆตามอีพีของเรื่อง

แม้ว่าเราจะได้เห็นซีนโรแมนติกกุ๊กกิ๊กของพระนางเรื่อย แบบเขินตัวบิด แต่ตัวสาระสำคัญของเรื่องไม่ได้เบาโหวงเลย คนเขียนบทกลับใช้เรื่องราวโรแมนติก และเรื่องราวขำขันในการเบรคความหนักของเรื่องที่อัดแน่นด้วยซ้ำ

และยังใส่ใจไปถึงการวางคาแรคเตอร์ตัวประกอบต่างๆ เพื่อนำมาสร้างสีสันในการเล่าเรื่องอีกด้วย เราว่าเขาให้ความสำคัญกับเรื่องตัวละคร และบทเยอะมาก เลยประทับใจมาก เพราะเขาใส่ดีเทลมาเยอะมากจริงๆ

นอกเหนือจากพาร์ทนักการเมือง เรายังจะได้เห็นพาร์ทอื่นๆของตััวละครด้วย ทีมงานไม่ได้เน้นเพียงแต่จะเล่าเรื่องราวของการเมืองท้องถิ่น แต่ยังแวะไปเล่นเกี่ยวกับเรื่องราวของนางเอกและความสัมพันธ์กับคนรอบข้างตั้งแต่ครอบครัว ยันเพื่อน ยิ่งทำให้เราได้เห็นมิติของตัวละครหลายๆตัวเยอะมาก ชอบมากที่เลือกจะไม่ทิ้งตรงนี้ แต่กลับดึงมาเล่าได้อย่างน่าสนใจ และเสริมความแข็งแรงให้กับเรื่องด้วย

สิ่งที่เราประทับใจมากๆกับ Into the ring  คือเทคนิคการถ่ายทำ เราชอบงานดีเทลฉากในแต่ละสีนมาก มุมกล้องสวยมาก และบอกเล่าเรื่องราวได้ดี และแปลกตาด้วย เป็นเรื่องที่เลือกจะใช้แสงเยอะมากในการบรรยายเรื่องราวในหลายๆซีน

เนื่องด้วยเลือกที่จะใช้โทนสีสดใสในการเล่ามันเลยทำให้เรื่องหนักๆดูจะไม่หนักจนเกินไป คือไม่ได้เป็นการลดทอนความหนักของเนื้อเรื่อง หรือความรุนแรงของปัญหา แต่ทำให้มันเข้าถึงคนดูได้ง่ายขึ้น เราไม่ได้รู้สึกว่ามันเครียดจนเกินไป

และการเล่าเรื่องเราว่าเจ๋งมาก คือเขาครีเอทวิธีการเล่าเรื่องได้มีสีสันมาก ทำให้เรื่องมันไม่น่าเบื่อเลย ทั้งการใช้ตัวละครเด็กประถมในการมาเล่าปัญหาของนางเอกในสเกลเล็กลง

หรือการเล่าด้วยการใช้อินโฟกราฟฟิกเล็ก การเลือกใช้คำ หรือการเปรียบเปรยให้ภาพมันชัดขึ้น เป็นเทคนิคที่น่าสนใจมากจริงๆ

แม้ว่าอาจจะรู้สึกว่ามันมีเรื่องเกินจริงไปหน่อย แบบเรื่องมันดูดี ดูสดใสไปหน่อย แต่เราก็พอเข้าใจได้ที่เลือกจะเล่าแบบนี้ มันอาจจะเป็นการเชิญชวนคนดูให้รู้สึกว่าเราสามารถมีส่วนร่วมกับการพัฒนาชุมชนของเราได้ เพียงแค่เริ่มร้องเรียนเรื่องในชุมชนที่เรารู้สึกว่าเป็นปัญหา หรือออกไปใช้สิทธิแสดงความคิดเห็นถึงปัญหาต่างๆภายในชุมชน

เพราะการเมืองเป็นเรื่องของเราทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่นักการเมืองกลุ่มใดกลุ่มนึง
และเพราะเป็นเราเองที่ต้องอยู่ร่วมกับชุมชนนี้ เราเลยน่าจะมาร่วมกับพัฒนาชุมชนของเราให้น่าอยู่

ปล. ดูแล้วอยากออกไปร้องเรียนเรื่องฟุตปาธหน้าปากซอยเลยค่ะ เหยียบน้ำกระเด็นทุกวัน