เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
มือเปื้อนเลือดTangmo Srisuwatjaree
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน บทที่ 2 ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง
  •                  แม้เธอจะเกลียดโลกภายนอกมากเพียงใด เธอก็ต้องฝืนทนเก็บความเกลียดชังเอาไว้ในใจ และมุ่งหน้าหางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำ เธอเดินไปยังตลาดใหญ่อีกครั้ง รวบรวมความกล้าไปของานทำจากร้านค้าต่าง ๆ แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือถ้อยคำปฏิเสธเธออย่างไร้เยื่อใย...

    "มีแค่เก้านิ้ว ทำงานร้านฉันไม่ได้หรอก ไปเสียเถอะ"

    "ร้านฉันมีคนทำงานมากแล้ว ฉันไม่ต้องการคนเพิ่มแล้วละ ไปหาร้านอื่นเถอะนะ"  

    ไม่ว่าจะไปที่ไหน ๆ เธอก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่เหมือนถูกทำให้เป็นตัวประหลาดเสมอ ทุกคนตัดสินเธอจากรูปลักษณ์ภายนอก เธอเหนื่อยกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเพียงต้องการหางานสักอย่างที่จะช่วยให้ครอบครัวไม่อดตายได้เพียงเท่านั้น แต่ทุกอย่างกลับดูยากเย็นสำหรับเธอไปหมด เธอนั่งลงพักที่ข้างทางอย่างไร้จุดมุ่งหมาย

    "ว่าไงจ๊ะ แม่สาวเก้านิ้ว" เสียงชายคนหนึ่งพูดขึ้น ไม่ใช่เสียงของลูกจ้างที่คอยเฝ้าหน้าร้านข้าวสารแต่กลับเป็นเสียงของชายเจ้าของร้านข้าวสารแทน

    "มานั่งทำอะไรตรงนี้ มาตามหานิ้วเหรอจ๊ะ" เขายังคงพูดเยาะเย้ยเธออยู่เสมอ

    แต่ในเวลานี้หญิงสาวไม่ได้สนใจคำเยาะเย้ยของใครอีกต่อไป ขอเพียงมีงานให้เธอทำเพื่อแลกกับอาหารประทังชีวิตของเธอและครอบครัวเพียงเท่านั้น

    "ฉันกำลังหางาน มีงานให้ฉันทำไหม" หญิงสาวเอ่ยขึ้นแบบไม่สบอารมณ์ เพียงถามแบบส่ง ๆ ไปแต่คำตอบที่เธอได้รับกลับผิดไปจากที่เธอคิดเอาไว้

    "งานเหรอ...มีสิ ฉันมีงานให้เธอทำ แต่ไม่ใช่ที่ร้านข้าวสารของฉันหรอกนะ เป็นงานที่โรงนาของพ่อฉันน่ะ ตอนนี้กำลังต้องการคนทำงานอยู่พอดี ถ้าเธอสนใจนะแม่สาวเก้านิ้ว ตอนแรกฉันคิดว่าเธออาจจะทำงานนี้ไม่ได้หรอกหยิบจับอะไรก็คงหลุดร่วงไปหมด แต่มาคิดดูแล้วงานให้อาหารหมูก็น่าจะเหมาะสำหรับเธอดี" ชายเจ้าของร้านข้าวสารกล่าว

    "ให้อาหารหมูงั้นเหรอ...ฉันทำได้ ให้ฉันทำเถอะ" เธอขอร้องต่อชายเจ้าของร้านข้าวสาร

    "ถ้าเธอต้องการเช่นนั้น ฉันก็จะไปบอกพ่อให้"

    "ขอบคุณ ฉันจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่" เธอถามขึ้น

    "เริ่มงาน! ฉันยังไม่ได้ไปถามพ่อด้วยซ้ำ เธอรีบขนาดนั้นเลยเรอะ"

    "ฉันต้องทำงาน ถ้าฉันไม่ทำงาน ครอบครัวฉันจะอดตาย"

    "ถึงขนาดอดตาย มันแย่ขนาดนั้นเชียว งั้นไปด้วยกันตอนนี้เลยไหมล่ะ"

    "ได้ ฉันจะไป" หญิงสาวตอบรับ

    ชายเจ้าของร้านข้าวสารพาเธอมายังบ้านใหญ่หลังหนึ่งกลางป่าอีกฟากหนึ่งที่ห่างไกลจากบ้านของเธอ บ้านหลังนี้เป็นของชาวนาแก่คนหนึ่ง แม้หญิงสาวจะรู้สึกคุ้น ๆ กับท่าทางและน้ำเสียงของเขาเหมือนเคยเจอหรือรู้จักมาก่อน แต่กระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรไปกว่าคำตอบของชาวนาที่ตอบรับเธอให้เข้ามาทำงานทันทีที่ลูกชายพาเธอมาแนะนำ เธอยังไม่ทันได้พูดอะไรชาวนาก็สั่งให้เธอไปเลี้ยงหมูที่ฟาร์มหลังกระท่อมนั้นโดยทันใด

    หญิงสาวได้แต่พยักหน้ารับและเดินตามลูกชายชาวนาไปที่ฟาร์มหมูนั้น

    "หน้าที่ของเธอก็คือเอาเศษอาหารพวกนี้ไปให้มันกินเท่านั้นแหละ ให้มันกินทั้งตอนเช้า กลางวัน เย็น แค่นั้น ส่วนงานอื่น ๆ ก็คือคอยรับใช้พ่อของฉัน งานง่าย ๆ ถ้าเธอทำได้ ฉันจะจ่ายให้เธอเดือนละ 20เหรียญ"

    "ตกลง" เธอตอบ

    'เงิน 20 เหรียญนั่นมันมากกว่าตอนที่ฉันฆ่าหมูทั้งอาทิตย์เสียอีก' เธอคิดในใจ ในตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกมีความหวังอีกครั้ง ครอบครัวของเธอจะไม่ต้องกลัวอดตายอีกต่อไป

    เช้าวันรุ่งขึ้นเธอตื่นมาในห้องเล็ก ๆ ที่มีไว้ให้เธอซุกหัวนอนขณะทำงานอยู่ที่นี่

    "อรุณสวัสดิ์ แม่สาวเก้านิ้ว" เสียงทักทายของลูกชายชาวนาดังขึ้นทันทีที่เธอเปิดประตูออกมา

    "วันนี้ฉันจะพาเธอไปดูพื้นที่ส่วนต่างๆ ของที่นี่ เธอจะได้รู้เอาไว้เผื่อพ่อฉันจะใช้ให้เธอไปทำอะไร"

    หลังจากเธอทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยจึงเดินตามเขาไปเพื่อดูพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ภายในบ้านทั้งห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน และห้องอื่น ๆ รวมถึงที่นา ฟาร์มหมู โรงเก็บของ ไร่สวนต่าง ๆ ทุกส่วนในผืนดินของชาวนานั้นกว้างใหญ่กว่าบ้านและโรงฆ่าสัตว์ของเธอเสียอีก เธอรู้สึกโชคดีที่ได้เข้ามาทำงานที่แห่งนี้ แต่ความโชคดีก็ไม่ได้เป็นเรื่องจีรังเสมอไป...

    หนึ่งอาทิตย์ที่หญิงสาวเริ่มเข้ามาทำงานที่นี่ เธอใช้เวลาไปกับการอยู่ที่ฟาร์มเลี้ยงหมู มีเดินไปโรงนาบ้างเป็นครั้งครา แต่ทุก ๆ วันเธอจะต้องเดินไปที่ห้องครัวเพื่อเอาเศษอาหารที่ชาวนากินเหลือ นำไปเลี้ยงหมูเหล่านั้น ทำให้เธอได้รู้จักกับสาวใช้คนหนึ่งที่วัน ๆ เอาแต่ขลุกอยู่ในครัว เธอทำหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือคอยปรุงอาหารให้ชาวนากินทุกวัน หากอาหารไม่อร่อย ไม่ถูกใจชาวนาเธอก็จะถูกต่อว่าอย่างรุนแรงและบางครั้งก็ถูกชาวนาทำร้ายร่างกายด้วยเช่นกัน เพราะเหตุนี้จึงทำให้เธอเอาแต่อยู่ในครัวไม่กล้าออกไปไหนและใช้เวลาไปกับการฝึกฝีมือทำอาหารทั้งวันทั้งคืน

    หญิงสาวเห็นสาวใช้อยู่ที่นี่อย่างหวาดระแวงก็นึกสงสัยถึงความผิดปกติของบ้านหลังนี้ ทุกครั้งที่เธอพูดถึงชาวนาสาวใช้คนนี้จะเริ่มร้องไห้และไล่เธอให้ออกไปทันที ดังนั้นทุกครั้งที่เธอเข้ามาในห้องครัวเธอจีงเพียงแค่หยิบเศษอาหารเหล่านั้นออกไปโดยไม่ได้พูดอะไรกับสาวใช้อีก

    วันหนึ่งระหว่างที่หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องครัว เธอเห็นสาวใช้มีรอยฟกช้ำและเลือดไหลตามลำตัวแต่ก็ยังคงทำอาหารต่อไป น้ำตาของสาวใช้ค่อย ๆ ไหลหยดลงไปในชามผสมอาหาร อาหารนี้ใช้ไม่ได้เสียแล้ว เธอเทอาหารนั้นทิ้งทันทีและเริ่มร้องไห้มากกว่าเมื่อสักครู่ และทันใดนั้นเอง สาวใช้ก็คว้ามีดแหลมคมที่วางอยู่บนโต๊ะและยกขึ้นปักมันลงที่หน้าท้องของเธอเอง! เลือดจากร่างกายของสาวใช้ค่อย ๆ ไหลอาบไปเต็มพื้นครัว หญิงสาวตกใจกับภาพสาวใช้ที่นอนสิ้นชีวิตอยู่ตรงหน้าแม้เธอจะคุ้นเคยกับกลิ่นเลือดและภาพสัตว์ที่ตายมามากเพียงใด แต่นั่นก็เป็นสัตว์ไม่ใช่มนุษย์แบบที่เห็นอยู่ตรงหน้า สาวใช้ที่พบเจออยู่ทุกวัน ตอนนี้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณที่ไม่สามารถเอาเนื้อหนังไปขายให้ใครหรือกำจัดทิ้งไปแบบง่าย ๆ ได้ เพราะเหตุการณ์นี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ และผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งคือ เธอ...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in