หลังจากนั้น ผมและแมรี่เดินเข้าโซนเล่นเกม เราทั้งสองคนได้เล่นเกมตู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกมเพรสซิเด้นอีวิล เกมแข่งรถบั้มพ์ เกมชู้ตบาส ฯลฯ เราทั้งสองสนุกกันมากเลยทีเดียว หลังจากนั้นจึงเดินออกจากห้างด้วยความสนุกทีี่ไม่จางหาย
"พีท..พีท" แมรี่เขย่าแขนผม "ฉันขอดูดวงแปบนึงนะ"
"อ่อ..อ่อ ได้"
เธอนั่งบนเก้าอี้ของหมอดูดวงทีี่ตั้งโต๊ะอยู่หน้าประตูทางเข้าของห้าง หมอดูคนนี้สวมฮู้ดคลุมหัวสีดำ บนโต๊ะมีไพ่ 1 สำรับ มีรูปปั้นที่อยู่ในอิริยาบถยืน มือหนึ่งข้างซ้ายยกขึ้นเสมออก ตั้งฝ่ามือยื่นออกไปข้างหน้าเป็นกิริยาห้าม และมีพวงมาลัยคล้องที่ฐาน เมื่อผมมองพิจารณาแม่หมอคนนี้อีกครั้ง เธอยายแก่คนหนึ่ง ที่มีผมสีขาว ใบหน้าเหี่ยวย่น และผิวหมองคล้ำ
"หนูมีเรื่องทุกข์ร้อนเกีี่ยวกับความรักเหรอ"
"ยายรู้ได้ไง"
"ยายรู้เพราะเจ้านี้มันบอกกับยายมา" ยายก้มตัวลงด้านข้างโต๊ะและหยิบถุงดำใบใหญ่ขึ่้นมา เธอควานหาของบางอย่างในถุงดำ หลังจากนั้นไม่นาน เธอหยิบหมวกทรงสูงยอดแหลมออกมา หมวกนั้นมีรอยยับย่นเป็นรูปตา มีรอยแยกที่ฉีกออกเหมือนปาก
"เอาล่ะ...หนูต้องการอยากหมวกนีี้ช่วยเรื่องอะไร ก็สื่อสารกับหมวกนี้นะ"
เธอหลับตาลง ยายแก่เอาหมวกทรงสูงวางบนหัวของเธออย่างช้าๆ ผมมองใบหน้าของเธอ เธอเริ่มขมวดคคิ้ว สักครู่หนึ่งเธอเอามือกอดอกตัวเอง และสั่นเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอยกคิ้วตัวเองขึ้นสูง เธออ้าปากว้าง หน้าแดง หายใจเร็ว หอบฟืดฟาด และลืมตาอย่างรวดเร็ว ยายแก่ยกหมวกออกจากหัวของเธอ เธอเอามือกุมหน้าอกตัวเอง และพยายามหายใจเข้าหายใจออกช้าลึกๆ
"เธอคงได้คำตอบแล้วใช่ไหม"
"แฮ่ก แฮ่ก....." เธอหายใจเข้าอีกครั้ง แล้วพยายามตั้งสติก่อนตอบยายไป "หนูคิดว่าหนูค้นพบแล้ว แต่หนูไม่มั่นใจ"
"ทำตามความรู้สึกของใจนะ อย่าลังเลเลย" ยายแก่คนนั้นกล่าวเอาไว้
เธอไหว้หมอดูคนนั้น แล้วหลังจากนั้นก็ลุกจากเก้าอี้ เดินมาหาผม เธอมองของผมแล้วก็ยิ้มให้ผม เอามือจับแขนของผมเอาไว้
"เดี๋ยวก่อน หนุ่มคนนั้นนะ" ผมได้ยินเสียงจากยายแก่คนนี้อีกครั้ง "ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนมีีอะไรมาติดหลังอยู่หรือเปล่า"
ผมเอามือไปแตะข้างหลัง รวมให้แมรี่ช่วยตรวจดูหลังของผม ก็พบเจอสิ่งผิดปกติอย่างไร "ก็ไม่นิครับ ไม่เห็นจะมีีอะไรเลย"
"เธอมองมันไม่เห็น แต่ฉันเห็นมัน" ยายแก่พูดขึ้น "สัตว์ประหลาดตัวนั้นเกาะอยู่ข้างหลังเธอ มันค่อยกัดกินแผ่นหลังของเธอ"
"ยายพูดเรื่องอะไร"
"นี่เธออยู่มาขนาดนี้แล้ว เธอยังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตัวของเธอเองหรอกเหรอ" ยายเว้นจังหวะ "ฉันมาที่นี่เพราะเธอเป็นคนเรียกฉันมาเองนะ"
"เรียกผมเเหรอ ยายพูดให้ผมงงนะ"
"งั้นเธอลองสื่อสารกับหมวกนี้เองสิ" ยายแก่ชี้ไปยังทีี่หมวก ผมมองที่หมวกนั้น และหันมาสบตามองกับแมรี่ เธอยิ้มและพยักหน้าให้กับผม ผมเข้าใจในอวัจนะของสิ่งทีี่เธอสื่อสารออกมา ผมจึงเดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ ยายแก่ถือหมวกวางไว้บนหัวของผม
"ไม่ต้องกลัวนะหนุ่มน้อย ฉันถูกฝึกมาให้เข้าใจภาษาไทยโดยชำนาญแล้ว ไม่เหมือนตอนแรกๆ"
"คุณเป็นใคร ทำไมคุณสื่อสารกับผมได้"
"ผมคือผู้หยั่งรู้ ผู้พยาการณ์โชคชะตา ผมเคยทำงานอยู่ในออกปอดเป็นเวลา 60 ปีจนเกษียณ จึงมารับจ๊อบหารายได้พิเศษอยู่ตอนนี้ เอาเป็นว่าอย่ารู้ข้อมูลประวัติฉันเลย สิ่งทีี่คุณควรรู้ในตอนนี้คือสิ่งที่อยู่คุณต้องเผชิญหน้ากับมันต่างหาก"
"ผมเหรอ ผมต้องเจอกับอะไร"
"ในเที่ยงคืนเมื่อคืนวานนี้ คุณเดินทางไปที่ไหนมา"
"ผมเหรอ...ผมไม่ได้ไปไหน ผมก็นอนหลับอยู่บนเตียงนอนนี่นา"
"โกหก!!!" เจ้าหมวกตะคอกเสียงดังจนผมสะดุ้งง "ผมรู้ ผมเห็น คุณเดินทางไปยังขอบกาแล็คซี่มา แล้วคุณรู้แล้วใช่ไหม ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
"14 กุมภา"
"ใช่แล้ว ถูกต้อง"
"โอ้วไม่นะ....ไม่ " ผมเอามือป้องปากตัวเอง แล้วก็รู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก "เหลืออีก 12 วันแล้ว แล้ว แล้ว.....มันจะเป็นอย่างไรต่อ"
"งั้นก็ดูตามนี้สิ"
ผมอยู่ในห้องแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยพื้นและผนังสีดำ หลังจากนั้นฉากรอบตัวค่อยๆ แสดงออกมา ผมยืนอยู่บนกองซากปรักหัก มองไปรอบๆ เห็นตึกถล่ม ไฟไหม้ ฝุ่น กลุ่มควัน คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ หมอกสีดินปกคคลุมหนา มองได้ในระยะ 200 เมตร ต้นไม้ต้นเล็กต้นน้อยล้มลงมา ถนนแตกเป็นคลื่น รถยนต์หลายคันจอดบนท้องถนนในสภาพทีี่ไม่สามารถขับขีี่ได้ บางคันไฟลุกโชน มีคนนอนล้มตายพาดกระจกด้านหน้ารถ เสาไฟฟ้าล้มลงมาหลายต้น เสียงปืนดังสนั่นไม่ขาดสาย ประชาชนวิ่งหนีกันแตกตื่น สักครู่หนึ่งผมได้ยินระเบิดจากฟ้า และหลังจากนั้นเห็นวัตถุขนาดใหญ่ตกลงมา พุ่งผ่านเหนือศีรษะของผม มันตกลงกระแทกพื้นและลื่นไถลไปกับพื้นถนน ชนกับอาการก่อสร้างสูง 10 ชั้น ผมหันมองวัตถุนั้น มันคือจรวดกริพเพ่น ที่จอดแน่นิ่งในลักษณะหงายขึ้น พิงกับอาการก่อสร้าง ผมได้ยินวัตถุบินด้วยความเร็วอีีกครั้ง มีีวัตถุหลายกลุ่มก้อนที่ผมไม่สามารถนิยามได้ บินเหนือศรีษะไปอย่างรวดเร็ว และจากนั้นผมได้ยินเสียงฝีเท้าของกลุ่มคนเดินเข้ามาใกล้ๆ
"พีท.." ผมได้ยินชื่อเรียกผม ผมหันไปหาทีี่มาของเสียงนั้น
"แมรีี่!!!" ผมตกใจเป็นอยากมากที่เห็นเป็นเธอ เธอมีสภาพใบหน้าหมองคล้ำ เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและเปื้อนฝุ่นไปทั้งร่างกาย "ช่วยฉันด้วย ช่วยฉัน....ฮึกกกกก"
หลังจากทีี่เธอพูดจบ เธอรู้สึกตกใจชั่วขณะ แล้วสักครู่หนึ่งมีเลือดไหลออกมาจากปากของเธอ เธอก้มลงมองทีี่ท้องของเธอเอง พบของแหลมคมเสียบทะลุช่องท้องของเธอ ทำให้เธอแน่นิ่งไป หลังจากนั้นของมีคมนั้นถูกชักออก เธอล้มตัวนอนลงบนพื้น หมดสติ ไม่มีลมหายใจ ผมตกใจเป็นอย่างมาก ผมรีบวิ่งเข้าไปหาเธอ
แต่แล้ว ผมก็เห็นสัตว์ประหลาด ปรากฏกายออกมาจากกลุ่มหมอกควัน มันเป็นปีศาจทีี่มีใบหน้าเหมือนปลาดุก มีหนวดยาว มีเมือกปกคลุมใบหน้า มีดวงตาเล็กดำ มีสองแขน มีมือสองนิ้ว มือข้างซ้ายถือหอกด้านยาว ส่วนมืออีกข้างถือกรงจักร ทีี่ลำตัวของมันมีรยางค์ยืนออกมา 2 ข้างเหมือนหนวด ทีี่ปลายหนวดของมันเป็นกลีีบคล้ายกาบหอยแครง แต่ภายในกาบนั้นเต็มไปด้วยฟันแหลมซี่เล็กมากมาย ขาท่อนล่างของมัน มีตาหลายตา มองดูเหมือนฝักดอกบัว มันเดินด้วยขา 2 ขา ผมเห็นดังนั้นจึงหยุดนิ่ง และมองไปดูรอบ ปรากฏว่าผมตกอยู่ในวงของสัตว์ประหลาดเหล่านี้
"เอาล่ะ นิทานจบแล้วนะ ลุกออกเถอะ อย่ามัวเสียเวลาดูเอนเครดิตเลย" ยายแก่ยกหมวกออกจากศัีรษะผม
"เอ้ย ยาย...รีบเอาออกทำไมละ"
"มันจบลงแล้ว นี่คือหมวกฟ้าแลบนะ ที่สามารถสื่อสารกับมันภายในเวลา 1 นาทีี ถ้าหมดเวลาแล้วก็จะไม่มีสิทธิ์สื่อสารกับมัน"
"แต่ยาย มันยังจบไม่เลยนิครับ ขอผมลองอีกครั้งได้เปล่า"
"มันหมดแบตแล้วนะหนุ่มน้อย" ยายคนนั้นตอบกลับมาและเขย่าหมวกขึ้นๆ ลงๆ เอามือปิดเปิดสวิตซ์ไฟที่อยู่ข้างหลังหมวก "ยายต้องเอาไปชาร์ตแบตเตอร์รี่ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกประมาณ 10 ชั่วโมง มันถึงจะเต็มและกลับมาทำงานต่อได้นะ"
"............"
"ว่าแต่เมื่อกี้ เทคโนโลยี VR ของหมวกเป็นยังไงบ้าง"
"แย่" ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ "กลับบ้านกันเถอะแมรี่...อย่าเสียเวลาเลย"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in