เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
จิปาถะtubtimptt
sleep, dream, you, repeat.
  • Title : sleep, dream, you, repeat.

    Pairing : Kang Daniel x Ong Seongwu

    AU : Inception

    BGM : numbers – The Cab

    ผมวางมือลงบนผืนทรายขาว กลั้นหายใจเมื่อรับรู้ถึงความละเอียดไหลผ่านร่องมือ กอบกำขึ้นมาแล้วมองเม็ดทรายสีขาวที่ไหลร่วงเป็นสาย ปลิวลงไปยังที่ที่มันเคยอยู่และบางส่วนปลิวลงเสื้อเชิ้ตสีดำตัวเก่งของผม

     

    มาทะเลทั้งทีแต่กลับแต่งชุดเหมือนอยู่ที่ทำงาน

     

    ผมหัวเราะให้กับความคิดพวกนั้น โทษใครไม่ได้หรอก บางทีในโลกนี้อาจจะมีใครบางคนใส่ชุดนักบินอวกาศกำลังเดินเล่นอยู่ที่ริมหาด ในมือมีกิ่งไม้เตรียมพร้อมที่จะละเลงบนผืนทรายเป็นชื่อของเขาหรืออาจจะเป็นชื่อของคนรู้จัก สถานที่ หนังเรื่องโปรด ขนมที่ชอบกิน

     

    หัวเราะอีกครั้ง

     

    มีจริงๆด้วย

     

    ผมหมายถึงมีจริงๆด้วยคนที่กำลังถือกิ่งไม้เดินมา เพียงแต่ไม่ได้ใส่ชุดนักบินอวกาศ ไม่ได้ลงมือละเลงลายเส้นลงบนผืนทราย แค่เดินมาแล้วนั่งลงในที่ที่ไม่ไกลจากผมมาก ไม่เกินห้าเมตรผมคิดว่านะ

     

    คงเป็นเพราะนี่คือฤดูหนาว

    ฤดูที่คงไม่มีใครมาแช่น้ำที่เย็นจนสามารถแช่แข็งตัวเราจนชาดิกหรอก

     

    ที่นี่เลยไม่มีใครเลย

     

    เว้นแค่ผมกับคุณ

     

    เพราะคุณนั่งเยื้องไปข้างหน้าทำให้ผมมองคุณได้โดยที่ไม่ต้องพยายามมากนัก แค่มองตรงไปข้างหน้าก็มีคุณอยู่ในครรลองสายตา แผ่นหลังเล็กและแคบ ตัวสูงแต่กลับดูบอบบางเหมือนพวกเด็กวัยรุ่นอะไรแบบนั้น

     

    แต่คุณใส่เสื้อเชิ้ตเหมือนกับผม ติดกระดุมจนถึงคอ ผมเห็นตอนที่คุณเดินมา ถึงจะแค่แวบเดียวแต่ก็จำได้แม่น ทั้งใบหน้าก่อนที่คุณจะนั่งหันหลังให้กับผมแบบเงียบๆนั่นด้วย

     

    ใบหน้าเรียวเล็กดูคมคาย คงเพราะเบ้าตาลึกกลม เรียกว่าอะไร กลมโต แบบนั้นล่ะมั้ง แต่มันก็ยังเป็นดวงตาชั้นเดียวอยู่ดี มันดูไม่เหมือนคนเอเชียแต่ผมมั่นใจว่าคุณเป็น อธิบายไม่ถูก แต่อาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณล่ะมั้ง

     

    แค่นั้นแหละที่ผมเห็น

     

    กิ่งไม้ในมือคุณถูกปักลงบนทรายข้างตัว เป็นกิ่งไม้หักๆที่มีกิ่งก้านตามที่ควรมี มันคงหักมานานแล้วเพราะไม่มีใบไม้อะไรหรือไม่คุณก็เด็ดมันออกจนหมด แต่ว่าเพื่ออะไรล่ะ หึ

     

    คุณลุกขึ้นในตอนที่ผมกำลังนั่งพิจารณากิ่งไม้โง่ๆนั่น เซเสียหลักไปสองสามก้าว ผมขอเดาว่าคุณกำลังเมา คุณเดินได้มั่นคงอีกครั้งหลักจากผ่านสามก้าวนั้นไป

     

    เดินตรงไปข้างหน้าสามก้าว

     

    ถอดรองเท้าที่ผมเพิ่งเห็นว่ามันเหมือนกับรองเท้าที่ใส่เดินในบ้าน

     

    เดินไปข้างหน้าอีกห้าก้าว

     

    ที่ที่คุณกับผมนั่งอยู่ห่างจากน้ำทะเลสีฟ้านั่นประมาณนึง ผมกะระยะไม่ถูก แต่คุณใช้การก้าวเดินไม่กี่ก้าวไปถึงจุดที่คลื่นซัดถึง ผมถึงคิดว่ามันไม่ไกลนักหรอก หรือไม่ก็เป็นเพราะเรียวขายาวๆของคุณที่ทำให้ถึงที่หมายเร็ว

     

    คุณหยุดหลังจากที่เดินไปสิบก้าว

     

    ใช้ปลายเท้าเปลือยเปล่านั่นแตะลงบนคลื่นที่ซัดสาดมาถึง เหมือนกับว่ากำลังทดสอบความเย็นยังไงยังงั้นเลย

     

    แล้วผมก็นึกออก

     

    มีบทความหนึ่งที่ผมเคยอ่านผ่านตามา จำเนื้อความทั้งหมดไม่ค่อยได้แต่ใจความของมันก็คือการฆ่าตัวตาย และที่ทำให้ผมนึกถึงบทความนั้นออกก็เพราะมีอยู่ข้อหนึ่งที่พูดถึงการฆ่าตัวตายโดยการเดินลงทะเล

     

    ทะเลหน้าหนาวที่ไร้ผู้คน

     

    โลเคชั่นเหมาะแก่การประกอบเนื้อหาการฆ่าตัวตายชะมัด ผมคิดว่างั้นนะ

     

    คุณคงทดสอบมันจนพอใจแล้ว หรือไม่เท้าของคุณก็คงชาดิกจนหมดความรู้สึกจากการจุ่มเท้าลงไป คุณเดินลงไปไกลกว่าเมื่อกี้ ผมมัวแต่คิดอะไรไร้สาระเลยไม่ทันเห็นว่าคุณเดินไปกี่ก้าว เดาว่าน่าจะไม่เกินสี่ก้าว

     

    น้ำทะเลสูงราวแข้ง

     

    มันเปียกกางเกงสีดำขายาวของคุณจนทำให้สีของมันเข้มกว่าส่วนบนที่ยังไม่เปียกน้ำ คุณยังคงก้าวต่อไปเรื่อยๆ การเดินในน้ำที่มีคลื่นอยู่ตลอดเวลาบวกกับอุณหภูมิของน้ำด้วยแล้ว เห็นได้ชัดว่าคุณเริ่มลำบากในการไปต่อ

     

    ผมเดาว่าคุณคงไม่ทันสังเกตผมแม้ว่าผมจะใส่เสื้อเชิ้ตสีดำสนิท ตัวใหญ่ แล้วนั่งเป็นหมีทอดน่องอยู่บนชายหาดสีขาวนี่ก็ตามที ไม่งั้นใครที่ไหนจะมาฆ่าตัวตายให้คนอื่นดูกัน เว้นซะแต่จะเป็นพวกเรียกร้องความสนใจ

     

    แต่ว่าผมไม่ได้มาทะเลเพื่อมาดูคนฆ่าตัวตาย

    พอลองคิดอีกที

    ผมไม่ได้มาเพื่อจะมาเป็นพยานการฆ่าตัวตายนะ อย่างน้อยก็ตายจริงๆน่ะ

     

    ผมส่งเสียงออกไป แล้วคุณก็หันหลังกลับมามองผมทั้งที่เพิ่งตะโกนไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น คุณไม่ได้ขยับไปไหนจากบริเวณที่ระดับน้ำสูงถึงคอ และจากการที่คุณหันมามองมันทำให้ผมนึกถึงหนังสยองขวัญซักเรื่องที่ตัวเอกเหลือแต่คอ (คงไม่ผิดใช่มั้ยถ้าผมจะเรียกผีที่มีชื่ออยู่บนปกหนังว่าตัวเอก)

     

    ผมถามคุณว่าข้างหน้า อีกร้อยเมตรมีเบียร์สดอร่อยใช่มั้ย

    แล้วคุณตะโกนกลับมา

     

    แค่เบียร์ที่อร่อย นอกนั้นห่วยจนต้องคายทิ้ง

     

    ผมหัวเราะ แล้วถามอีกว่ามีที่ไหนแนะนำมั้ย เพราะตอนนี้ผมหิวแล้ว

    คุณบอกว่า

     

    แทนที่จะถามอะไรไร้สาระเพื่อถ่วงเวลา ทำไมไม่มาดึงฉันออกจากน้ำเค็มในตู้เย็นนี่ล่ะ

     

    ตลกชะมัดเลยตอนนั้นและผมก็ขำมันออกมาจริงๆ

    ตะโกนกลับไป

     

    อย่างน้อยผมก็อยากให้คุณเลือกว่าจะเดินลงไปต่อหรือจะให้ผมทำท่าลงไปช่วยพอเป็นพิธีแล้วเราค่อยไปหาเบียร์อร่อยๆและของห่วยๆพวกนั้นกิน

     

    คุณตะโกนกลับมา

     

    เพื่อช่วยกู้หน้าของฉันที่หมดอารมณ์จะเดินไปต่อ ขอเลือกอย่างหลังละกัน ช่วยวิ่งมาด้วยท่าทีตื่นตระหนกหน่อยนะ

     

    ผมหัวเราะ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ปัดทรายออกจากกางเกงตัวเก่งแล้วเดินไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วหัวเราะออกมาอีกเมื่อได้ยินประโยคต่อมา

     

    แต่บอกไว้ก่อนนะว่าตอนนี้เงินที่อยู่ในกระเป๋าหลังของฉันมันคงเปียกไปหมดแล้ว ร้านนั้นไม่มีไดร์เป่าผมซะด้วย

     

    เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ

     

    5 AM

     

    เช้าเกินกว่าจะบอกว่าในคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว แต่ก็ไม่เช้าจนมองเห็นพระอาทิตย์

     

    เป็นกึ่งกลางระหว่างกลางวันกับกลางคืน

     

    ผมพบคุณในช่วงเวลาแบบนั้น

     

     

    แล้วผู้ชายสองคนก็เดินทั้งตัวเปียกไปบนถนนด้วยกัน ผมบอกคุณแล้วว่าผมมีรถจอดอยู่ คุณเองก็บอกว่ามี ใครที่ไหนจะเดินมาที่ชายหาดที่ห่างจากบ้านตัวเองเกือบร้อยไมล์กัน ผมหัวเราะอีกแล้ว

     

    หัวเราะให้กับท่าทางเป็นธรรมชาติของคุณที่ไม่เหมือนคนที่เพิ่งจะเดินลงทะเลเมื่อกี้

    หัวเราะให้กับริมฝีปากบางหยักที่ยื่นออกมาทุกครั้งที่คุณพูด

    แล้วยัง

    หัวเราะให้ตัวผมเองที่ลอบมองเจ้าจุดสามจุดบนหน้าคุณแบบไม่ให้คุณรู้ตัว

     

    เราไปกินพายที่ต้องคายทิ้งในคำแรกด้วยกัน

    ไปกินเบียร์ที่ว่านั้นด้วยกัน

    นั่งรอให้เงินของคุณแห้งจากการเอามันไปผึ่งในเตาย่างของร้านจนเกือบจะไหม้จนหมด

    แน่นอนว่ามันมีรอยนิดหน่อยแต่เจ้าของร้านไม่ถือสา

     

     

    วันแรกของคุณกับผม

    ห่วยชะมัด

     

     

    ผมมองออกไปนอกร้าน บานหน้าต่างที่อยู่ซ้ายมือ กรอบหน้าต่างที่เป็นไม้แกะสลักนั่นไม่น่าสนใจเท่าผู้หญิงตัวสูงโปร่ง ผิวขาวในเสื้อเชิ้ตสีเหลืองและกางเกงเข้ารูปอวดเรียวขาเพรียว

     

    เจ้าของร้านสาวผิวเข้มหันไปมองเธอเหมือนกับที่ผมมอง แววตาแข็งกร้าวและมีทีท่าจะพุ่งตัวออกไป ผมมองเห็นก่อนแล้วจึงเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่า

     

    วิ่งไปที่ประตูไม้สีทองแดง กระชากมันออกโดยที่ไม่หันไปมองคุณ

     

    คว้าตัวเธอผู้แปลกหน้าไว้แล้วจับยัดใส่รถเก่าปุโรทั่งแล้วขับออกมา

    เธอไม่ได้พูดอะไรแต่ใช้ดวงตาคู่นั้นมองผม

    ดวงตาคู่ที่ผมไม่กล้าจะสบตามันนานๆเลยซักครั้ง

     

    รถมาถึงหน้าผาก่อนจะพุ่งดิ่งลงสู่เบื้องล่าง

     

    ไร้เสียงกรีดร้อง

    ไร้ท่าทีตื่นตระหนก

     

     

     

    เสียงสูดหายใจเข้าลึกดังขึ้น ผมลืมตาขึ้นมาก่อนจะสบตากับดวงตาของคนที่เพิ่งจะดิ่งลงเหวมาด้วยกัน ดวงตาคู่กลมที่เต็มไปด้วยประกาย แวววาว ล้อมกรอบด้วยแพขนตาหนา

     

    ดำสนิท ราบเรียบ

     

    เหมือนกับดวงตาของคุณ

     

    ป๊าจะทำแบบนี้ไม่ได้”

     

    ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่โต๊ะ มองโทเท็มที่หมุนอยู่

     

    ความจริง

     

    นี่คือความจริงที่ผมไม่อยากกลับมา

     

    “นั่นเป็นแค่ป๊าเล็กที่ป๊าสร้างขึ้น”

     

    ความจริง

     

    เสียดลึกเข้าไปในอก

     

    อึดอัดเหมือนถูกบีบคอ

     

    “ป๊ารู้”

     

    และเจ็บยิ่งกว่าความจริง

    ก็คือการที่รู้

     

    ความจริง

    แผดเผาความรู้สึก

    หลอมละลายห้วงคำนึง

     

    “รู้ดียิ่งกว่าใคร”

     

    แล้วความทรงจำจะกอบโกยขี้เถ้าพวกนั้นขึ้นมาใหม่

    เพื่อแผดเผามันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

    “หนูดีใจที่ป๊ายังรู้ตัว และหวังว่าป๊าจะรู้ดีที่สุดว่านั่นไม่มีทางใช่ป๊าเล็ก”

    “เป็นแค่เงา”

     

    คนที่เหมือนกับคุณที่สุดในโลกกำลังบอกผมด้วยคำพูดที่คุณเคยบอก

     

    จำไว้นะแดเนียล ถ้าวันไหนฉันไม่อยู่อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด

    อย่าสร้างฝันที่จะกักขังฉันไว้ในนั้น

    นั่นเป็นแค่เงาไม่มีทางเป็นฉัน

    อย่าบังอาจมาใช้สิ่งที่ฉันสอนนายขังฉัน รู้มั้ย

     

    ลูกสาวของคุณ

    เหมือนคุณมากจริงๆ

     

     

    ผมหมุนโทเท็มในมืออีกครั้งหลังจากที่เธอเดินออกไปเมื่อไม่เห็นว่าผมจะพูดอะไรออกมาอีก

     

    สิ่งนั้นหมุนคว้างอยู่บนโต๊ะ สะท้อนกับแสงไฟจากโคมไฟบนโต๊ะ

     

    แหวนแต่งงานที่สลักคำว่า oath ไว้ด้านใน

     

    มันหมุนคว้างอยู่อย่างนั้นจนผมเลือกจะหันหลังกลับออกมา

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
mearongsw (@mearongsw)
งงนิดหน่อย แต่ดีมากๆ ถึงจะงงนิดนึง แต่มันดีจริงๆ สรุปงงไรนะ